หลินฟางโจวมีเรื่องในใจ ที่จริงนางก็อยากหาใครสักคนมาเพื่อเล่าปัญหาให้ฟัง แต่นางก็รู้สึกอับอายเกินกว่าจะบอกกล่าวกับคนอื่น เรื่องที่มีคนนินทาลับหลังว่านางกับนายอำเภอฝักใฝ่เพศเดียวกันเช่นนี้…ช่างน่าอายเกินกว่าจะพูดถึงจริงๆ
อีกทั้งคนที่นินทาเช่นนี้ยังเป็นคนร่วมสำนักศึกษาของน้องชายนาง…ถือเป็นสหายร่วมชั้นเรียนด้วย
นางกวาดตามองไปรอบๆ เห็นบริเวณนี้ไม่มีคนอยู่ นางจึงพูดกับวังเถี่ยติงเสียงเบา “ข้าขอถามเจ้าสักคำถามเถอะ เจ้าเองก็ตอบข้ามาตามตรงนะ”
“ถามมา”
“พวกเจ้า…เอ่อ…ต่างก็คิดว่า…คิดว่าข้าชมชอบบุรุษใช่หรือไม่”
วังเถี่ยติงฟังแล้วก็หัวเราะเสียงดัง แต่กลัวว่าจะทำคนอื่นตกใจเขาจึงรีบใช้มือปิดปากเอาไว้
หลินฟางโจวเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เป็นเช่นนี้จริงๆ พวกเจ้าล้วนแต่คิดเช่นนี้กัน!”
หลังจากหยุดหัวเราะแล้ววังเถี่ยติงก็เอ่ยขึ้นมา “ยิ่งกว่านั้นอีกนะ ทุกคนที่พูดลับหลังต่างบอกว่าเจ้าเป็นพวกครึ่งชายครึ่งหญิงด้วย”
‘ครึ่งชายครึ่งหญิง’ เป็นคำที่เอาไว้ใช้ด่าทอผู้อื่น หากใครได้ยินเข้าเกรงว่าจะมีการทะเลาะจนได้เลือด ทว่าหลินฟางโจวถือเป็นสตรีผู้หนึ่ง อีกทั้งนางก็ไม่ได้มีเนื้อแท้เป็นบุรุษแต่อย่างใด แค่ภายนอกเท่านั้นที่นางแต่งกายเป็นบุรุษ เพียงแต่ในยามที่เห็นวังเถี่ยติงพูดด้วยสีหน้ามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นก็ทำให้นางรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย นางจึงเอ่ยถาม “เพราะเหตุใดจึงพูดว่าข้าเป็นครึ่งชายครึ่งหญิง”
วังเถี่ยติงเอ่ยถามกลับมาแทน “ข้าขอถามเจ้าหน่อย เหตุใดยามปกติเจ้าจึงมักจะพันผ้าพันคอ ทำไมต้องปกปิดลำคอเอาไว้ด้วย กระทั่งช่วงซานฝู* ที่ร้อนจนเหงื่อออกเจ้าก็ยังไม่ยอมถอดผ้าพันคอออกเลย”
“เรื่องนี้น่ะหรือ” หลินฟางโจวชี้มาที่คอของตนเอง “ที่คอข้ามีแผลเป็นอยู่รอยหนึ่ง ตอนเด็กข้าเคยปีนต้นไม้แล้วถูกกิ่งไม้แทงจนได้รับบาดเจ็บเข้า มันเป็นแผลเป็นที่น่าเกลียดเกินไป ข้าจึงพันผ้าพันคอเอาไว้เช่นนี้มาโดยตลอด พอพันจนชินแล้วก็ไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย”
“จริงหรือ” วังเถี่ยติงยังสงสัยอยู่บ้าง
“จริงสิ ไม่อย่างนั้นเจ้านึกว่าเป็นอะไร”
“ข้านึกว่าเป็นเพราะเจ้าเติบโตแล้วแต่ยังไม่มีลูกกระเดือก กลัวว่าจะถูกผู้อื่นล้อเลียนจึงได้ใช้ผ้าพันคอมาปิดเอาไว้”
“นี่มันคำพูดจากผู้ใดกัน ไม่เชื่อเจ้าก็ดูสิ แผลเป็นของข้าอยู่ตรงนี้แหละ อยู่มาหลายปีแล้วด้วย” หลินฟางโจวพูดไปด้วย มือก็ถอดผ้าพันคอออกไปด้วย เผยให้วังเถี่ยติงเห็นแผลเป็นบนลำคอ
วังเถี่ยติงเห็นว่ามีแผลเป็นรอยนั้นจริงก็เดาะลิ้นพลางส่ายหน้าพูด “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”
หลินฟางโจวพันผ้าพันคอเรียบร้อยแล้วก็ถามวังเถี่ยติง “ไม่มีลูกกระเดือกก็เป็นครึ่งชายครึ่งหญิงแล้วหรือ”
วังเถี่ยติงส่ายหน้าพร้อมกับเอ่ย “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ข้ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่คนหนึ่ง ลูกกระเดือกของเขาเห็นได้ไม่ค่อยชัด ทว่าหลังจากที่เขาแต่งงานไปหนึ่งปีก็มีลูกชายจ้ำม่ำคนหนึ่ง ตอนนี้ลูกก็สามคนเข้าไปแล้ว”