ผืนป่าคือชีวิต... เพราะป่าไม้เป็นธรรมชาติที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่า ธรรมชาติเหล่านี้ถือเป็นประโยชน์ในการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะช่วยลดมลพิษทางอากาศ ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ สร้างความร่มรื่นให้กับเราได้ ลองคิดดูว่าถ้าบนโลกนี้ไม่มีป่าไม้เลยจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีความร่มรื่น ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่มีสิ่งมีชีวิตนั่นคือสัตว์ป่า แล้วจะเป็นโลกที่สมูบรณ์แบบได้อย่างไรจริงไหม?
การอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นไม่ยากถ้าเราร่วมมือกัน เหมือนกับนิยายเรื่องหนึ่งที่จะชวนนักอ่านทุกคนร่วมรักผืนป่าไปกับเหล่าตัวละครในเรื่อง ‘ป่าห่มรัก’ ผลงานนิยายของ Karnsaii ที่เรื่องราวเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงาม ความอบอุ่น และความรัก เรื่องราวในนิยายจะเป็นอย่างไร ไปสำรวจความรัก (ป่า) กับพวกเขากันเลยดีกว่า
“ความฝันของคุณอาจเพียงแค่มีใครสักคน” แววตาสีดำสนิทจ้องรเณศนิ่งจนเขารู้สึกสะอึกในใจ “ขณะที่ความฝันของผมอยู่ที่ผืนป่าแห่งนี้”
“กับงานที่อันตรายแบบนี้น่ะเหรอ”
รเณศบุ้ยปากไปที่แผลตรงศอก
“ใช่”
เพลิงพูดเสียงเรียบ
“คงไม่ได้แก่ตายเหมือนคนอื่นเขาหรอก”
รเณศอดค่อนขอดใส่ไม่ได้
“ก็ถูกของคุณ” เพลิงพูดยิ้มๆ
“วันหนึ่งผมอาจเป็นไข้ป่าตาย ระหว่างลาดตระเวนอาจปะทะกับพรานป่า ผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มผู้กระทำผิดแล้วโดนยิงตาย ถ้าโชคร้ายหน่อยคงโดนช้างป่าเหยียบตายเข้าสักวันหนึ่ง”
รเณศกัดปากจนเจ็บเมื่อคนตรงหน้าพูดถึงความเป็นความตายได้อย่างหน้าตาเฉย ต่างจากคนฟังที่ใจวูบโหวงบอกไม่ถูก
“พวกกินอุดมการณ์”
“ผิดแล้ว”
เพลิงส่ายหัว
“คุณอาจเรียกสิ่งนั้นว่าอุดมการณ์ แต่ผมขอเรียกมันว่าความรัก”
‘ความรัก’
“ลองใส่สิครับ”
พูดไม่พอยังยื่นมือไปคว้าข้อเท้าเพลิงมาทดลองสวมใส่รองเท้าให้อย่างไม่รังเกียจ
“อย่า...”
เพลิงรั้งข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้
“เท้าผมสกปรก”
รเณศยิ้มเฉยก่อนจะส่ายหน้าหวือ
“สกปรกแล้วยังไง ไม่ใช่เท้าคู่นี้หรือที่เดินไปทั่วป่า ก็รอยเท้าคู่นี้แหละที่เหยียบย่ำไปในพื้นสกปรก ป่ารกชัฏ พื้นดินแตกละเอียด รวมถึงเส้นทางที่คนทั่วไปเข้าไปไม่ถึง เพื่อจะรักษาป่าไม้และสัตว์ป่าเอาไว้”
“...”
“เท้าคุณสกปรกเพราะคุณทำในสิ่งที่มีเกียรติ ต่อให้มันสกปรกและไม่น่ามองแต่ผมไม่เคยรังเกียจ เพราะเลอะเปื้อนดินโคลนยังไงก็ล้างออกได้ ดีกว่าเลอะเปื้อนด้วยการกระทำที่ไม่สุจริตที่ล้างยังไงก็ไม่มีวันหมด”
เพลิงนิ่งฟังถ้อยคำนั้นอย่างตื้นตัน
“เนตร”
“ยื่นเท้ามาสิครับ”
รเณศยิ้มกว้าง
“คุณเคยท้อมั้ย”
“งานแบบนี้มันก็น่าท้อไม่น้อยจริงๆ นั่นแหละ”
เพลิงตอบ
“แต่ถ้าพวกเราท้อแล้วใครจะทำหน้าที่นี้กันล่ะ ถ้าพวกเราหมดแรง ป่าจะเป็นยังไง ถึงบางช่วงเวลามันเหนื่อยยากก็แค่พักผ่อนให้หายแล้วกลับมาสู้กันใหม่ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ตราบใดที่ป่าและสัตว์ยังถูกระราน พวกเราก็ต้องทำหน้าที่ของเรากันต่อไป”
“...”
“ผมจะละทิ้งบ้านหลังใหญ่นั่นไปได้ยังไงกัน”
ผู้ชายตัวใหญ่จะมีขนาดของหัวใจใหญ่มากกว่าคนทั่วไปหรือเปล่าหนอ รเณศไม่อาจทราบได้ เขารู้แต่เพียงว่าเพลิงใจใหญ่ไม่ใช่เพราะขนาดหัวใจ แต่ใหญ่เพราะทั้งหมดทุกห้องนั้นเต็มไปด้วยความรักและศรัทธาที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทำให้เขาแปรเปลี่ยนไปได้
“หน้าที่รักษาป่าไม้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ป่ามีประโยชน์มหาศาล เป็นทั้งบ้าน อาหาร และยาให้กับมนุษย์และสัตว์ ต้นไม้ต้นหนึ่งใช้เวลากว่าชั่วอายุคนในการเติบโตและให้ผลผลิต ฉะนั้นเมื่อได้แสวงหาผลประโยชน์จากป่า เราเองก็ควรรักษาเพื่อให้ป่าอยู่กับเราไปนานๆ”
เด็กๆ ทำท่าตั้งใจฟัง
“หรือถ้าไม่รู้จักรักษา ก็ขออย่าทำลาย”
เสียงตบมือแปะๆ ดังมาจากด้านหลัง พอเอี้ยวหันไปมองจึงเห็นรเณศจับมือแก้มใสปรบมือด้วยใบหน้าทะเล้น พอถูกจับได้คนเมืองจึงทำท่าเก้อกระดากก่อนจะคว้าเด็กน้อยให้ผละไปอีกทาง เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่เห็นรเณศจับมือแก้มใสโบกมือให้เขา
เภสัชกรหนุ่มหันไปมองแผ่นหลังเพลิงอีกครั้งตอนที่เขาเดินนำกลุ่มคนเหล่านั้นไปทางอื่น แผ่นหลังกว้างที่มองเห็นได้จากระยะไกล รเณศมองอยู่อย่างนั้นก่อนจะอมยิ้มออกมา
‘ฉะนั้นเมื่อได้แสวงหาผลประโยชน์จากป่า เราเองก็ควรรักษาเพื่อให้ป่าอยู่กับเราไปนานๆ’
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำรวจความรัก (ป่า) ของพวกเขากันไปแล้ว ลองไปสำรวจความหวานกันต่อได้ใน ‘ป่าห่มรัก’ เขียนโดย Karnsaii ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ, Jamclub หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ JamShop