“อ้อ?” จินหยวนเป่ามองอีกฝ่ายยิ้มๆ “เจ้าจะบอกว่าเจ้าเป็นจอมโจรมหากาฬอะไรเทือกนี้สินะ เคยขโมยอะไรบ้างล่ะ ไหนขอคิดดูหน่อยซิ…กระเป๋าเงินสักร้อยใบ หรือไม่ก็ถุงหอม”
เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นมาอีกครั้ง
“หึ!” เสือดาวเวหาเชิดหน้าขึ้น ใบหน้าฉายแววภาคภูมิอยู่เล็กน้อย “ขโมยถุงหอมเป็นเรื่องเท็จ ลักพาตัวหญิงสาวไปขายเป็นเรื่องจริง แล้วไม่ได้ลักพาตัวไปขายธรรมดาๆ แต่มีผู้บงการปริศนา เป็นคนในราชสำนัก คอยตระเตรียมการไว้ให้อย่างรัดกุม โดยจะต้องส่งสินค้าไปให้เป็นระยะ และจะต้องเป็นสินค้าชั้นดีเท่านั้น ส่วนส่งไปไหน…” พูดมาถึงตรงนี้เสือดาวเวหาก็แกล้งอมพะนำ
จินหยวนเป่าถามยิ้มๆ อย่างใจเย็น “อ้อ? แล้วเจ้านายของเจ้าคือใคร”
ฝ่ายตรงข้ามยิ้มตอบอย่างเจ้าเล่ห์ “ใต้เท้ายังไม่ตอบรับเงื่อนไขของข้าเลยนะ”
“เงื่อนไข?” นัยน์ตาชายหนุ่มฉายแววเย็นเยียบขณะบอกเสียงต่ำๆ “ข้าก็มีเงื่อนไขกับเจ้าเหมือนกัน หากเจ้าเล่ารายละเอียดการค้าสตรีให้ข้าฟัง ข้าจะจับเจ้าขังไว้ในคุกแถบชานเมืองหลวงในข้อหาลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ครอบครัวเจ้าจะมาเยี่ยมเจ้าได้เดือนละครั้ง แต่หากเจ้าปากแข็งไม่ยอมพูดอะไรล่ะก็ พวกเราก็คงต้องทำเรื่องส่งเจ้าไป…ไหนดูซิ ฉยงโจวหรือว่าหนิงกู่ถ่าดีนะ ฉยงโจวร้อนชื้น แมลงร้ายชุกชุม เห็นว่าชาวจงหยวนเราทนได้แค่ไม่กี่วัน หนิงกู่ถ่าไม่มีทั้งแมลงร้ายและหมอกพิษ…แต่ได้ยินมาว่าออกไปฉี่ในฤดูหนาว ฉี่ก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง…อ้อ แน่นอน ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็น พูดไม่ถูก เจ้าเลือกดูเอาเองแล้วกัน” จินหยวนเป่าเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ตวัดขาขึ้นนั่งไขว่ห้างเอกเขนก
เสือดาวเวหารู้อยู่แล้วว่าจินหยวนเป่าไม่มีทางยอมรับปากง่ายๆ แต่แค่ถูกจับขังคุก มีโอกาสได้เห็นหน้าคนในครอบครัวบ้างก็ถือว่าบุญแล้ว เขานึกดีใจอยู่เงียบๆ กระนั้นก็ยังไม่วายต่อรอง “ใต้เท้า ข้าขอให้ได้กลับบ้านไปอยู่กับเมียและลูกสาวนะ”
“กลับไปอยู่กับลูกเมีย?” มือปราบหนุ่มลุกขึ้นเดินออกจากหลังโต๊ะมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสือดาวเวหา เรือนร่างสูงสง่าสร้างความกดดันดุจขุนเขา นัยน์ตาคมเป็นประกายเย็นเยียบชวนสะท้าน “เจ้าจับหญิงสาวไปขาย ใจคอเหี้ยมเกรียมไร้มโนธรรม ทำให้ลูกเมียคนอื่นพลัดพรากกัน แต่ตัวเองดันอยากกลับบ้าน? ข้าจะบอกอะไรให้นะ โอกาสที่ดีที่สุดของเจ้าคือร่วมมือกับข้า คายสิ่งที่เจ้ารู้ออกมาให้หมด ข้าจะย้ายเจ้าไปขังไว้ในคุกที่ความเป็นอยู่ค่อนข้างดี เจ้าจะได้มีเวลาสำนึกผิดกลับตัวกลับใจ…ถ้าไม่อย่างนั้น เชื่อหรือไม่ว่าแผ่นดินกว้างใหญ่ผืนนี้ต้องมีสักที่ให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างน่าอนาถที่สุด”
คิดถึงนักโทษที่ถูกเนรเทศไปอยู่ตามที่กันดารรกร้าง เสือดาวเวหาอดจะสะท้านไม่ได้ หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก็ถามขึ้นเป็นการหยั่งเชิง “ใต้เท้าพูดคำไหนคำนั้นหรือไม่”
จินหยวนเป่าไม่ตอบ ทว่าสีหน้าท่าทางเฉียบขาดทรงอำนาจดูน่ายำเกรงยิ่งนัก
เสือดาวเวหาค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งอ่อนปวกเปียกไปกับพื้น ไม่ทำอวดเก่งอีกต่อไป “ข้าก็ไม่รู้ว่าผู้ซื้อคนนี้เป็นใคร ข้าติดต่อผ่านฉู่ฉู่มาโดยตลอด ฉู่ฉู่บอกมาว่าต้องการกี่คน ข้าก็ไปจับมาเท่านั้น”
“เงื่อนงำเกี่ยวกับฉู่ฉู่ไม่ต้องรอให้เจ้าบอกหรอก ข้ารู้หมดแล้ว ถ้าอยากเข้าไปอยู่ในห้องขังชั้นดี เจ้าก็ต้องพยายามมากกว่านี้”
เสือดาวเวหาขมวดคิ้วพูดต่อไปว่า “ถึงข้าจะมีหน้าที่แค่ลักพาตัวหญิงสาวแล้วส่งไปให้ฉู่ฉู่มาปีกว่า แต่ก็แอบคิดกับตัวเองเหมือนกัน ผู้ซื้อรายใหญ่คนนี้จะต้องไม่ได้มีจุดประสงค์ธรรมดาแค่อยากได้เงินแน่ ข้าทำงานให้เขามาแค่ปีกว่า ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้แต่ว่าจะต้องเป็นคนมีอำนาจพอดู และรู้ด้วยว่าหญิงสาวที่ลักพาตัวมาได้จะถูกส่งไปขายตามหอนางโลมเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ที่เหลือน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกขุนนางสำคัญ…”