แม้ต้วนฉางยวนจะเป็นจอมยุทธ์ ต้องเป็นตัวอย่างจอมยุทธ์พูดจริงทำจริง แต่พอตกปากรับคำแล้วกลับเลือกใช้พิธีรับอนุภรรยาอย่างรีบร้อน
ในสภาพที่ถูกบีบให้รับอนุภรรยาย่อมไม่จัดการอย่างใส่ใจเป็นแน่ เพียงแขวนผ้าแดงพอเป็นพิธีและกำหนดให้แขวนเฉพาะบริเวณ ‘เรือนเซียงสุ่ย (แม่น้ำเซียง)’ เท่านั้น ที่นี่คือสถานที่ที่เขาให้นางพำนัก
แม้แต่ฤกษ์ยามก็งดเว้นเสีย หลังเตรียมการอย่างขอไปทีแล้วก็ให้คนหามเกี้ยวมารับนางเข้าไป ถือว่ารับอนุภรรยาเสร็จสิ้น
อวี๋เสี่ยวเถาซึ่งนั่งอยู่บนเตียงในห้องใหม่ไม่รอให้เจ้าบ่าวเป็นผู้เปิดผ้าคลุมหน้า จัดแจงปลดผ้าคลุมหน้าออกเอง
การกระทำของนางเยี่ยงนี้ทำให้หรูฉิงและหรูอี้สองสาวใช้ซึ่งมีหน้าที่ปรนนิบัติดูแลต่างตกตะลึง
“แม่นาง เจ้าห้ามปลดผ้าคลุมหน้าออก”
“นี่ไม่ถูกขนบธรรมเนียม”
สองสาวใช้เอ่ยปากเตือนนาง แม้เป็นการเตือนแต่น้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง สำหรับอนุภรรยาคนใหม่นี้พวกนางย่อมไม่ศิโรราบให้
อวี๋เสี่ยวเถาเก็บความดูแคลนบนใบหน้าของพวกสาวใช้ไว้ในสายตา รู้แน่แก่ใจว่าตัวนางคงเป็นศัตรูร่วมของสตรีทั่วหล้าไปเสียแล้ว
ต้วนฉางยวนเป็นที่เลื่อมใสจากทุกคน คนผู้นี้อายุสิบหกก็เป็นผู้นำนักรบผู้ไม่เกรงกลัวความตายแห่งปราสาทเขาบุกทำลายล้างโจรร้ายที่ปิดล้อมหุบเขา อายุสิบเจ็ดกวาดล้างลัทธิมารซึ่งใช้ศาสนาบังหน้าหลอกลวงชาวบ้าน อายุสิบแปดกระทำเพื่อราชสำนักด้วยการเป็นหัวหอกนำบริวารช่วงชิงเสบียงและสารลับจากพวกหมาน* ทางเหนือ ยับยั้งการรุกรานของพวกหมานได้สำเร็จ
เขาองอาจห้าวหาญเชี่ยวชาญกลยุทธ์ ใจกล้าแต่ละเอียดอ่อน โอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น กระทำการใดเป็นระบบระเบียบ แม้สนิทสนมกับผู้มีอำนาจราชศักดิ์ในราชสำนัก แต่ไม่ยอมเป็นขุนนางเด็ดขาด วางตัวเป็นกลางอยู่เหนือข้อพิพาทใดๆ ขอเพียงเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์แห่งราษฎรทั่วหล้า เขาย่อมไม่ปฏิเสธด้วยเห็นแก่คุณธรรม หลังเสร็จสิ้นภารกิจกลับไม่ถือตนว่ามีความดีความชอบ ถอนตัวกลับคืนยุทธภพ ปฏิบัติตามโอวาทของบรรพบุรุษ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ใส่ใจความทุกข์ของผู้คนในใต้หล้า
หลังเขาเข้าพิธีสวมหมวก* แล้วก็รับตำแหน่งประมุขจากบิดามาอย่างเป็นทางการ ประมุขคนก่อนพาฮูหยินเร้นกายจากยุทธภพ มอบเรื่องใหญ่ทุกอย่างภายในปราสาทเขาให้บุตรชายคนโตดูแล ต้วนฉางเหวินน้องรองและต้วนฉางอู่น้องสามซึ่งเป็นประมุขรองและประมุขสามกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญเคียงข้างเขา คอยจัดการดูแลเรื่องต่างๆ ในปราสาทเขา
นี่เป็นเพียงคุณูปการด้านหน้าที่การงานเพียงเท่านั้น เล่าขานกันว่าด้านอารมณ์และจิตใจเขายิ่งเป็นหนึ่งไม่เป็นรองใคร เขาเอ่ยอย่างกระจ่างชัดแจ้งแล้วว่าชั่วชีวิตนี้ขอแต่งกับสตรีที่เขาเลื่อมใสเท่านั้น ไม่แต่งเพื่อผูกสัมพันธ์ฉันญาติ ไม่รับอนุภรรยา ขอตัดสินเรื่องการแต่งงานด้วยตัวเขาเอง คำประกาศนี้กลายเป็นที่โจษจันในยุทธภพ คุณูปการของเขาเป็นที่แซ่ซ้อง การตัดสินใจเรื่องคู่ครองยิ่งทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจของสตรีทั่วบ้านทั่วเมือง
ลองคิดดู บุรุษผู้พร้อมด้วยทรัพย์และอำนาจผู้ใดบ้างไม่มีภรรยาสามอนุสี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุรุษที่คุณูปการหาใช่สามัญ มีภรรยาสามอนุสี่เพื่อแตกกิ่งก้านขยายใบ ยิ่งมีลูกหลานมากย่อมเป็นสิริมงคลมาก แต่เขากลับปฏิบัติในทางกลับกัน คิดเพียงได้ครองคู่กับสตรีที่เขารักอย่างลึกซึ้งเพียงผู้เดียว
* พวกหมาน เป็นคำเรียกชนเผ่ารอบนอกที่ไม่ใช่ชาวฮั่น หมายถึงพวกป่าเถื่อน ไร้อารยะ
* พิธีสวมหมวก ชาวจีนในสมัยโบราณเมื่อผู้ชายอายุครบยี่สิบต้องเข้าพิธีสวมหมวกเพื่อแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่