หมายความว่าไม่มีอะไรให้กิน พวกนางจงใจให้อวี๋เสี่ยวเถาหิวจนท้องกิ่ว
อวี๋เสี่ยวเถาไม่โกรธ กุมศีรษะแสร้งทำท่าอ่อนล้า “ข้าคนนี้ทนหิวไม่ได้ พอหิวแล้วก็วิงเวียนตาลาย พอวิงเวียนแล้วก็ลืมวิธีช่วยคุณหนูใหญ่…”
“ประเดี๋ยวจะให้ทางครัวส่งอาหารมาให้” หรูอี้กัดฟันพูด
“เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าทั้งสองช่วยแจ้งให้ด้วย” นางปล่อยมือที่กุมศีรษะลง ยิ้มหยดย้อย หมุนตัวกลับไปนั่งลงบนเตียง เอนตัวลงนอนรออย่างสบาย
หรูฉิงและหรูอี้จ้องนางเขม็ง หากมิใช่เพื่อคุณหนูใหญ่ เกรงว่าจะทำให้เสียการ ทั้งสองปรารถนาจะตบนางผู้นี้สักฉาด
หรูอี้หมุนตัวเพื่อไปกำชับพ่อครัว ส่วนหรูฉิงอยู่จับจ้องสตรีผู้นี้ นางและหรูอี้ไม่ไว้หน้าสตรีผู้นี้อย่างเด็ดขาด พวกนางปฏิบัติตามคำสั่งของท่านประมุขเท่านั้น ให้อวี๋เสี่ยวเถาได้กินดีอยู่ดี ถือเสียว่าเลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่ง! คิดมาถึงตรงนี้หรูฉิงแสยะยิ้มเย็นชาออกมาคราหนึ่ง
ไม่นานนักอาหารก็ส่งเข้ามา จัดวางมาเพียงชามหนึ่งใบตะเกียบหนึ่งคู่ เห็นได้ชัดว่าให้นางกินข้าวเพียงลำพัง ท่านประมุขไม่มาร่วมด้วย อวี๋เสี่ยวเถามองแวบหนึ่ง พลางก้มหน้าลงไปดม จากนั้นหยิบขวดใบหนึ่งออกจากห่อสัมภาระ เทผงในขวดลงไปในข้าวและกับข้าว แล้วใช้ตะเกียบคลุกเคล้าอยู่พักหนึ่งก่อนพินิจอย่างละเอียด นั่งรออยู่อีกครู่ใหญ่ถึงเริ่มลงมือกินข้าว
การกระทำแปลกประหลาดของนางทำให้สองสาวใช้รู้สึกแปลกใจ หรูอี้อดถามไม่ได้ว่า “เจ้าทำอะไรน่ะ”
“ปรุงรสอย่างไรเล่า!” อวี๋เสี่ยวเถาตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย
ใบหน้าของสาวใช้ทั้งสองสาดประกายเย็นชา มีแต่คนบ้านนอกถึงปรุงรสในอาหารเพิ่ม
อวี๋เสี่ยวเถาไม่ใส่ใจการดูแคลน ที่นางเพิ่มลงไปในอาหารแท้จริงแล้วมิใช่เครื่องปรุงรส แต่เป็นยาถอนพิษ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเล่นลูกไม้อะไรบนตะเกียบ ชามหรือในอาหาร ขอเพียงโปรยผงยานี้ก็ถอนพิษได้ราบคาบ นี่เป็นตำรับลับประจำสกุลของนางทีเดียว
นับแต่ถูกพิษของเหยียนจิ่ว ไม่ว่านางกระทำการใดล้วนยิ่งระแวดระวัง นางศึกษาเรื่องยามาตั้งแต่เล็ก จมูกไวดังจมูกสุนัข ยาไร้รสไร้สีใดๆ บนพื้นพิภพเป็นเพราะจมูกของคนทั่วไปไม่ได้กลิ่นเพียงเท่านั้น สรรพสิ่งล้วนมีกลิ่น จมูกของนางสามารถแยกแยะกลิ่นที่มนุษย์บนโลกแยกแยะไม่ได้ คราวนั้นเป็นเพราะป่วยจากกระแสลมเย็น นางจึงดมกลิ่นยาที่เหยียนจิ่ววางไม่ออก หลังผ่านเรื่องนั้นมาแล้วนางจึงโปรยผงยานี้ไว้บนอาหารจนเคยชิน
เมื่อดื่มกินอาหารเสร็จสิ้นจนอิ่มหนำ นางก็ออกคำสั่งกับสองสาวใช้อีกครา “ข้าจะอาบน้ำ”
สองสาวใช้ไม่ออกความเห็นอะไรมาก อาจเพราะรู้ว่าค้านไปก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายก็จะถูกนางยกเอาคุณหนูใหญ่มาเป็นข้ออ้างเพื่อข่มขู่อีก ดังนั้นจึงยอมรับชะตากรรมพานางไปยังห้องอาบน้ำ แน่นอนทั้งสองสาวใช้ไม่ปรนนิบัตินาง นางเองก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก
หลังอาบน้ำแล้วนางสวมเสื้อตัวหลวม จากห้องอาบน้ำเมื่อเดินกลับมาถึงห้อง เพียงแวบเดียวนางก็รู้ว่าห่อสัมภาระถูกรื้อค้น มุมปากฉีกยิ้มด้วยปรายตามองก็เข้าใจ
นางใช้ผ้าผืนใหญ่เช็ดผม แล้วถอนหายใจเอ่ยแก่พวกนางว่า “ลืมบอกพวกเจ้าไป ยารักษาคุณหนูใหญ่ยังไม่ได้ปรุง พวกเจ้าหาไม่พบหรอก และด้วยเหตุนี้ท่านประมุขถึงได้ตกปากรับคำขอของข้า ขอเพียงคืนนี้เขาเข้าหอกับข้า ข้าจะช่วยปรุงยาให้คุณหนูใหญ่”