“ผึ้งดำบุกมาต่อยคน เจ้าไม่กลัว?”
เสียงที่ตอบเขาเป็นน้ำเสียงไพเราะเสนาะหู
“มีอะไรน่ากลัวกันเล่า พวกมันไม่ต่อยข้าเสียหน่อย”
เห็นนางนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสง่าไม่เร่งร้อน ต้วนฉางยวนรู้สึกอย่างหนึ่งว่านางผู้นี้ราวกับว่าปลื้มปริ่มอิ่มเอม ไม่เหมือนท่าทางที่ผู้เป็นอนุภรรยาควรมีแม้แต่น้อย
เขาสัมผัสได้ถึงอากาศอุดอู้น่าอึดอัด นั่นคือกลิ่นอับชื้นเนื่องจากขาดการทำความสะอาด เป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์นัก
เรื่องที่บริวารปฏิบัติต่อนางไม่ดีใช่ว่าเขาจะไม่รู้ เพียงแต่ปล่อยตามอำเภอใจไม่แยแสเท่านั้น ทว่าจากท่าทีของนางเขาไม่รับรู้ถึงความน้อยอกน้อยใจแม้เพียงนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนึ่งเดือนมานี้ไม่เคยได้ยินว่านางพร่ำบ่นแต่ประการใด
“หากเจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ข้าจะมอบเงินก้อนหนึ่งให้เจ้าไป เพียงพอให้เลี้ยงตัวได้ไม่ขาดแคลน” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม
“ขอบคุณในความหวังดีของท่านประมุข ข้าอยู่ที่นี่รู้สึกดีมาก อีกทั้งบริวารในปราสาทเขาต่างปฏิบัติต่อข้าอย่างดียิ่ง เกรงว่าข้าจะเหงา หางูตัวเล็กๆ มาแหย่ให้ข้าสำราญใจ”
ต้วนฉางยวนจ้องนาง เขาดูเบานางไปเสียแล้ว นางใช้วิธีดื้อแพ่งอยู่ในปราสาทเขา แต่กลับไม่คิดจะทำให้เขาโปรดปราน ไม่เคยพร่ำบ่น ฟังจากน้ำเสียงนี้ไม่อาจสดับได้ถึงการประจบเอาใจแต่อย่างใด หรือว่านางคิดเพียงจะอยู่ที่ปราสาทเขานี้อย่างหน้าด้านๆ ไปตลอดชีวิต ใช้ชีวิตอย่างน่าเบื่อเยี่ยงนี้?
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็อยู่ไปเถิด!” เขาหมุนตัวจากไปเสียเอง ส่วนอวี๋เสี่ยวเถาซึ่งอยู่เบื้องหลังหยิบขี้ผึ้งบำรุงผิวพรรณที่ตนเองปรุงขึ้นมาถูแขนถูขาอย่างเอ้อระเหย
จากการนั่งขัดสมาธิปรับลมปราณหล่อเลี้ยงกำลังภายในไม่ขาดสายทุกเมื่อเชื่อวัน อวี๋เสี่ยวเถารู้สึกว่าแขนขาร้อยกระดูกนับวันยิ่งปลอดโปร่งโล่งสบายไปทุกส่วน นางสำรวจหน้าตาของตนเองอย่างละเอียดด้วยคันฉ่องทองแดง ยินดีที่พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงตามคาด
หนึ่งเดือนผ่านไป หลุมบ่อบนใบหน้าตื้นขึ้น ผดผื่นลดน้อยลง สีผิวก็ใสกระจ่างกว่าแต่ก่อน เส้นผมแห้งกร้านกลับคืนสู่ความเงางามเปล่งประกาย
หลังกรณีผึ้งดำแล้วคนพวกนั้นไม่กล้าเข้าใกล้เรือนเซียงสุ่ย ผนวกกับหรูฉิงและหรูอี้ล้มป่วยลง ดังนั้นผู้รับหน้าที่ทำความสะอาดเรือนเซียงสุ่ยก็เปลี่ยนตัวไปด้วย ไร้ซึ่งลูกไม้ตื้นๆ ของพวกคนถ่อย วันเวลาของอวี๋เสี่ยวเถาสุขสงบขึ้นไม่น้อย
จากนั้นก็ผ่านเดือนที่สอง ผดผื่นเหล่านั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลุมบ่อบนใบหน้าตื้นขึ้นมาก ผิวพรรณแปรผันเป็นเรียบลื่น ไม่แห้งผากดำคล้ำเหมือนเมื่อก่อน กอปรกับนางขยันทาขี้ผึ้งบำรุงผิวพรรณ ผิวหนังยิ่งนุ่มละมุนเกลี้ยงเกลา
ที่ทำให้นางยินดีเป็นที่สุดคือวรยุทธ์ฟื้นคืนมาสองส่วนแล้ว อย่างน้อยวิชาตัวเบาก็กลับคืนมาไม่น้อย
ยามราตรีผู้คนสงัดเงียบ นางกระโดดขึ้นบนหลังคาเรือนอย่างแผ่วเบาเพื่อดูดาว หรือแอบวิ่งเข้าไปเตร็ดเตร่ยังหุบเขาด้านหลัง คนพวกนี้เมินเฉยต่อนาง ไม่เป็นไร นางหายาเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือนเซียงสุ่ยที่นางอาศัยตั้งอยู่ทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเปล่าเปลี่ยวลับตาคนที่สุด จึงสะดวกต่อนางเป็นอย่างยิ่ง แอบออกจากปราสาทเขาไปเที่ยวเล่นได้เกือบทุกวัน