ทดลองอ่านนิยาย ปางบุญ บทที่ 9 – บทที่ 10 – หน้า 18 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่านนิยาย ปางบุญ บทที่ 9 – บทที่ 10

“ดอกแก้วดอกนี้มันอยู่ไกลเกินเอื้อมไปเสียแล้ว หากต้องหื้ออ้ายนั่งผ่อเช้าผ่อแลง* โดยบ่อาจเอื้อมคว้ามาแนบอกได้ หื้ออ้ายตายเสียยังดีกว่า…แต่อ้ายจะบ่ยอมตายง่ายๆ หรอก เมื่ออ้ายไปเป็นทหารก็จะปกป้องน้องที่อยู่ในกำแพงเมืองได้ ปกป้องดวงใจของอ้ายเหมือนอย่างที่เกยทำมาตลอด”

น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมา…เจ็บใดไหนจะเท่าเจ็บจากความรัก โดยเฉพาะรักที่ไม่อาจสมหวัง

รักใดไหนจะเท่ารักที่มีให้ต่อกัน…แต่จนใจที่ไร้วาสนา

ชาติหน้าฉันใดขอให้ได้อยู่ร่วม อย่าได้มีอุปสรรคนานัปการขัดขวางเอาไว้เช่นนี้เลย…

 

ในวันที่สิงห์คำจะจากไป ญาติสนิทมิตรสหายต่างมารวมตัวกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นจุดนัดพบ ชายหนุ่มรูปงามที่มีจิตใจเอื้ออารีมีแต่คนรักคนชอบเขาทั้งนั้น

นอกจากมีลุงเป็นแม่ทัพแล้ว น้าชายของสิงห์คำก็เดินทางมารับหลานด้วยตัวเองเพื่อไปรวมพลพร้อมกันก่อนจะเดินทางออกนอกกำแพงเมือง ชายวัยกลางคนที่ทำงานใกล้ชิดกับเจ้าเมืองแต่งตัวดีมีราศี ดาบประจำกายก็ดูมีราคาแพงนัก

สิ่งสุดท้ายที่ชายหนุ่มทำก่อนจะจากไปคือหันมามองหน้าหญิงสาวอดีตคนรักผู้ซึ่งกลายเป็นม้าขี่ที่ได้รับการยอมรับนับถือ ชื่อเสียงของเธอได้รับการกล่าวขวัญไปทั่ว เจ้าเมืองเองก็ยังเชิญตัวเข้าวังเพื่อขอคำทำนายอันแม่นยำอยู่เป็นระยะๆ

ร่างสูงพยักหน้าให้พร้อมส่งยิ้ม คำแก้วจึงยิ้มตอบกลับไป ด้วยชาวบ้านที่มาส่งมีจำนวนมากเขาจึงถูกรายล้อมตัวเอาไว้ไม่อาจทำอะไรมากไปกว่านั้นอีก จวบจนได้เวลาจึงเดินทางไปพร้อมกับห่อผ้าและดาบคู่ใจ

สิงห์คำจากไปแล้ว…ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างก็ทยอยจากไป…แต่คำแก้วยังคงยืนอยู่

หญิงสาวมองตามทิศที่เขาเดินจากไปเนิ่นนาน…น้ำตาหยดหนึ่งค่อยๆ ซึมออกมา เขาเคยบอกว่าตราบใดที่มีเขาอยู่เคียงข้างจะไม่ยอมให้เธอต้องหลั่งน้ำตา แต่ตอนนี้…ไม่มีอีกแล้ว

น้ำตาที่เคยท่วมหัวใจกลับเอ่อท้นขึ้นมาและไหลออกจากตาโดยไม่อาจหักห้ามได้ หลังจากนั้นก็ล้นทะลักราวกับสายน้ำยามน้ำหลาก

คำแก้วหอบสะอื้นจนตัวโยน เป็นเสียงสะอื้นที่ไม่มีใครได้ยินแม้ว่าจะร่ำร้องราวขาดใจตายก็ตาม หญิงสาวกลั้นเสียงสะอื้น จ้องมองไปยังทิศทางที่เขาจากไป

“ตั้งแต่วันนั้น…วันที่อ้ายช่วยเหลือละอ่อนน้อยคนนี้ ใจของน้องก็ถูกผูกติดเอาไว้กับอ้ายแล้ว…แต่น้องบ่เคยนึกว่าชะตาของสองเฮาจะต้องจากกันอย่างนี้…มีบางคำที่น้องบ่เกยกล้าบอกออกไป พอมาถึงตอนนี้ก็คงบ่มีโอกาสอู้ต่อหน้าอ้ายเสียแล้ว”

ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม ในขณะที่ลิ้นรับรู้ถึงรสของน้ำตาที่แสนขื่นขม

“น้องฮักอ้าย…ฮักอ้ายน้อยคนเดียว และทั้งชีวิตนี้จะบ่มีวันฮักไผอีก” ถ้อยคำที่กล่าวออกมายังคงเจือเสียงสะอื้น “วันนั้น…น้องอยากบอก บอกว่าอ้ายรอน้องได้ก่อ ฮับใช้ปู่เจ้าสักระยะ จนลูกหลานรุ่นต่อไปเติบใหญ่อีกนิด น้องจะขอลาจากการเป็นม้าขี่…เฮาจะได้อยู่กันในบั้นปลายชีวิต แต่น้องบ่กล้าอู้ มันเห็นแก่ตัวเกินไป”

* ผ่อเช้าผ่อแลง แปลว่ามองเช้ามองเย็น

Comments

comments

Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com