ความหวาดผวาแพร่กระจายไปทั่วเขตเหมืองแร่ราวกับสายลม หมอผีก็ไม่สามารถยับยั้งปีศาจร้ายที่แพร่โรคระบาดได้ นี่ไม่ต่างอะไรกับภัยพิบัติที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ตอนเชียนโม่เสร็จงานกลับมาถึง พบว่าผู้คนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
อาหลีมองอาหมู่อยู่ห่างๆ ด้วยท่าทางสิ้นหวังแล้วร้องไห้โฮออกมา
เชียนโม่ก็ตื่นตระหนก คิดไม่ถึงว่าโรคระบาดจะพัฒนาจนเป็นเช่นนี้ เธอรีบไปหาหมาง เอาสมุนไพรที่ตนเก็บมาให้เขาดู พยายามอธิบายว่าสมุนไพรนี้สามารถรักษาโรคระบาดได้
หมางฟังอยู่ครู่หนึ่งก็เข้าใจ
เขาเกาๆ ศีรษะ พูดตามตรง ในเขตเหมืองแร่ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดโรคระบาดขึ้นเป็นครั้งแรก พวกเขาก็เคยลองรักษาด้วยยา แต่ไม่เคยรักษาใครให้หายได้ เท่าที่เขาเห็น โรคระบาดเกิดจากการก่อกวนของผีร้าย หากแม้แต่หมอผียังกำจัดไม่ได้ กินยาจะมีประโยชน์อะไร
เขาอยากจะให้เชียนโม่ล้มเลิกความคิด แต่เธอกลับดึงดันจนไม่รู้จะอ้างเหตุผลเช่นไร
อู่จวี่ออกมาจากเขตผลิตแร่ ได้ยินข่าวโรคระบาดแพร่กระจายหนักก็รีบมาที่ลานว่าง
เขามองกองไฟขนาดใหญ่และคนป่วยที่นอนระเกะระกะอยู่ที่พื้น ยังมีหมอผีผู้นั้น แล้วเขาก็ขมวดหัวคิ้ว โรคระบาดเขาเคยพบเห็น ทุกครั้งที่เกิดโรคภัย ผู้คนชอบที่จะขอให้ภูตผีเทพเจ้าช่วย แต่การที่ภูตผีเทพเจ้ายอมให้ความช่วยเหลือนั้นมีน้อยจนน่าสงสาร
กงอิ่นกำลังตะโกนเอะอะ เดี๋ยวก็สั่งคนให้ไล่ฝูงชน เดี๋ยวก็สั่งให้สังหารคนป่วยเสีย แล้วเผาศพทิ้งตรงนั้นเลย
ฉับพลันนั้นเองอู่จวี่ก็ได้ยินเสียงคนร้องโวยวายเสียงดัง เขาส่งสายตามองไป แล้วก็เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังกอดหญิงกลางคนที่นอนอยู่บนพื้น ร้องไห้โวยวายไม่ยอมลุกขึ้น ที่ด้านข้างมีหญิงสาวคนหนึ่งกอดโถดินเผาไว้ กำลังโต้เถียงอะไรอยู่กับคนอื่น
อู่จวี่เดินเข้าไปถาม “มีเรื่องอะไรกัน”
ผู้คุมรายงาน “ต้าฟู แรงงานทาสสองคนนี้ไม่ยอมถอยออกไป”
“อ้อ” อู่จวี่มองไปที่คนทั้งสอง
หญิงสาวที่กอดโถดินเผาผู้นั้น คงเพราะเห็นอู่จวี่ฐานะสูงศักดิ์ก็รีบเดินเข้ามา พูดอะไรบางอย่างกับเขาด้วยความตื่นเต้น สำเนียงของนางฟังดูแปลกๆ น้ำเสียงก็ร้อนรน ในเวลาอันสั้นอู่จวี่ฟังไม่รู้เรื่อง อดที่จะงงงวยไม่ได้
หมางรีบเข้ามาดึงตัวเชียนโม่แล้วหันไปกล่าวกับอู่จวี่ “ต้าฟู แรงงานทาสผู้นี้บอกว่าบางทีนางอาจจะรักษาโรคระบาดได้ ขอร้องต้าฟูให้นางลองรักษาดู”
“เหลวไหล!” กงอิ่นตวาด “โรคระบาดนี้แม้แต่หมอผียังรักษาไม่ได้ เจ้านับเป็นตัวอะไร!”
อู่จวี่มองแรงงานทาสที่กอดโถดินเผาผู้นั้น ใบหน้าของนางมอมแมม เส้นผมปล่อยสยาย ดวงตางดงามยิ่ง สีหน้าท่าทางดูตื่นเต้นอยู่หลายส่วน แต่ไม่ยอมถอยหนี
“ยานี่เจ้าเป็นคนทำ?” อู่จวี่ถาม
หญิงผู้นั้นมองเขาแล้วรีบผงกศีรษะ “ใช่”
อู่จวี่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็หันไปกล่าวกับกงอิ่น “ให้นางลองดูสักหน่อยเถิด”
กงอิ่นดูประหลาดใจ “แต่…”
** ยามอู่ คือช่วงเวลา 11.00 น. ถึง 13.00 น.