คอนสแตนตินชักจะรำคาญชีวิตในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ซึ่งเป็นฐานธุรกิจของเขาเสียแล้ว เขาอยากจะกลับเกาะมิครอสเหลือเกิน ตั้งแต่อเล็กซิสน้องชายต้องจัดเตรียมงานแต่งงานในช่วงสุดท้ายจนกระทั่งเข้าพิธีไปเมื่อสามวันก่อน งานด้านการติดต่อเจรจาที่เคยให้น้องชายทำ เขาก็ต้องมาทำเสียเอง…แล้วต่อไปก็คงไม่ต่างกันนัก เขาคงต้องช่วยน้องในด้านนี้บ้าง เพราะจะให้คนที่เพิ่งแต่งงานใหม่เดินทางไปนั่นมานี่แทนเขาตลอดเหมือนเมื่อก่อนมันคงดูเห็นแก่ตัวมากไป
ชายหนุ่มเสยผมดำสนิทดกสลวยที่ระเรื้อลำคออย่างรำคาญใจ รู้สึกหงุดหงิดกับหลายเรื่อง ในเมื่อรู้ดีแก่ใจว่าคงข่มตาให้หลับไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งจากทั้งหมดที่เป็นแบบเดียว สีเดียวกันทั้งตู้…เชิ้ตไหมสีดำ แบบเรียบ ทรงตรงไม่ใช่แบบสลิมฟิตมีลูกเล่นเหมือนที่ผู้ชายสมัยนี้ครึ่งค่อนนิยมใส่กัน…วันนี้จะไปทำงานเช้าสักวัน ดูว่าทีมผู้ช่วยเตรียมงานไปถึงไหนแล้วสำหรับการประชุมทางโทรศัพท์กับทีมกฎหมายที่ลอนดอน ตอนบ่ายสามเขายังมีนัดดื่มน้ำชากับย่า ซึ่งเรื่องที่ท่านจะคุยกับเขาคือเรื่องอะไรนั้นพอจะเดาได้ แม้จะเบื่อ แต่เขาก็รักและเกรงใจท่านเกินกว่าที่จะหาทางเลี่ยงนัดนี้
“ขอโทษนะครับยาย่า[1] ที่ผมช้าไปถึงห้านาที” คอนสแตนตินขออภัยเสียงนุ่มกับหญิงชราร่างเล็กผอมบางแต่งกายทันสมัย ชายหนุ่มก้มลงจูบแก้มย่นน้อยๆ แต่นุ่มเนียนจากการบำรุงรักษาอย่างดีแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะ
“แค่ห้านาทีเท่านั้น…ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” หญิงชราวัยหกสิบปลายตอบ หันไปส่งสายตาให้สัญญาณพนักงานเสิร์ฟนำกาแฟที่เธอสั่งไว้มาเสิร์ฟให้หลานชาย
“แค่ห้านาที…แต่นั่นทำให้ยาย่าต้องรอ…ไม่ดีหรอกครับ” คอนสแตนตินกล่าวเสียงขรึม
โซเฟีย อเล็คซากิสส่ายหน้าน้อยๆ กับวิธีคิดนั้น นึกไปถึงหลานสาวและหลานชายแท้ๆ ของเธอที่อายุก็นับว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังคิดไม่ได้แบบนี้ และบางครั้งยังทำตัวเหลวไหลอย่างขุ่นใจ…ไม่นึกถึงหัวอกของยายกับพ่อแม่ที่ห่วงบ้างเลย
คอนสแตนตินเมินหน้าจากพนักงานหญิงวัยรุ่นที่หน้าซีดหน้าเซียวด้วยความหวาดหวั่นประหม่าขณะทำหน้าที่เสิร์ฟกาแฟและของว่าง…สงสัยจะอ่านหนังสือพิมพ์หน้าซุบซิบคนดัง หรือไม่ก็นิตยสารพวกใส่สีตีข่าวมากไป ถึงได้มีท่าทางกลัวเขาจับจิตแบบนี้…นี่คงไม่ได้เชื่อเรื่องที่พ่อแม่หลายคนนำเรื่องของเขาไปแต่งเป็นนิทานหลอกลูกๆ หรอกนะ ที่ว่าเขาเป็นผีดิบดูดเลือด ชอบลวงคนไปฆ่าที่เกาะมิครอส แล้วก็ซ่อนศพจนทับถมกันเป็นกองสูงไว้ในห้องใต้ดินของปราสาท…บ้ากันไปใหญ่แล้ว
ชายหนุ่มปัดเรื่องไร้สาระทิ้ง หันมาสนใจกับญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่ ถ้าไม่นับอาผู้หญิงและอาเขยที่ไม่ค่อยมีความเป็นผู้ใหญ่เท่าไหร่…ย่าโซเฟียไม่ใช่ย่าแท้ๆ ของเขา เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องกับปู่ของเขาที่ล่วงลับ แต่เขาก็รักย่าเหมือนเป็นย่าแท้ๆ เพราะท่านรับเขามาเลี้ยงหลังจากที่พ่อกับแม่เลี้ยงถูกคู่แข่งทางธุรกิจสังหารต่อหน้า…อเล็กซิสน้องชายที่ตอนนั้นมีวัยห้าขวบมีญาติๆ ฝ่ายแม่มารับตัวไปอยู่อังกฤษ ส่วนเขา แม่แท้ๆ นั้นเสียชีวิตเมื่อคลอดเขา ญาติที่เหลือก็เป็นเพียงญาติห่างๆ และกลัวว่าตัวเองจะมีอันตรายหากรับทายาทร้อยล้านแต่มีศัตรูทางธุรกิจมากมาย ซ้ำยังเป็นพยานในคดีฆาตกรรมมาอยู่ร่วมบ้าน เขาจึงถูกเลี้ยงดูจากทีมผู้บริหารและทีมกฎหมายที่พ่อเขาตั้งขึ้นอยู่นับเดือน กว่าย่าโซเฟียซึ่งอาศัยอยู่กับลูกสาวลูกเขยในโพรวองซ์ ฝรั่งเศสจะย้ายกลับมาและทำเรื่องยื่นขอเป็นผู้ปกครองเรียบร้อย
ชายหนุ่มจิบกาแฟแก่เข้ม “ดาเน่กับยอร์โก้กลับมาจากปารีสแล้วใช่ไหมครับ”
[1] คำเรียกในภาษากรีก หมายถึงย่าหรือยาย