สองคนที่เขาเอ่ยถึงคือลูกพี่ลูกน้องทั้งสองของเขา ยอร์โก้นั้นอายุยี่สิบแปดแล้ว แต่ยังติดความสนุกสนาน ชอบท่องเที่ยว ไม่ถึงกับขาดความรับผิดชอบ เพียงแต่ไม่ค่อยจริงจังและไม่มีความกระตือรือร้น เขาเริ่มให้ลูกพี่ลูกน้องคนนี้เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจที่จีนตั้งแต่ปีที่แล้ว ผลงานที่ทำได้ดีพอใช้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี เพราะเขาอยากให้ลูกผู้น้องคนนี้รับผิดชอบอะไรได้บ้าง จะได้ดูแลครอบครัวของตัวเองได้
ส่วนดาเน่หรือดอร์เซียคือน้องสาวของยอร์โก้วัยยี่สิบห้าปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคนไร้สาระอย่างแท้จริง หญิงสาวรู้ว่าตัวเองสวย จึงดูจะมีความฝันมากมายไปหมด ทั้งนางแบบ นักแสดง พิธีกรทีวี แต่ไม่มีอะไรจริงจังสักอย่าง ได้แต่เที่ยวเล่นช็อปปิ้งไปวันๆ และเป็นข่าวกับผู้ชายคนนั้นคนนี้ไปทั่ว…และแทนที่จะเครียด ดอร์เซียกลับดีใจที่ตัวเองเป็นที่จับตามอง
“กลับมาแล้ว…ยอร์โก้ก็ทำงานขยันขันแข็งดีนะ แต่ยายดาเน่น่ะเพื่อนที่เป็นนักร้องเขาเชิญไปปาร์ตี้บนเรือยอชต์ แล้วก็ว่าจะล่องไปที่อิตาลีด้วย”
คอนสแตนตินนิ่วหน้า…ดอร์เซียเป็นที่รักและถูกตามใจมาตั้งแต่เป็นเด็ก เขายังจำได้ดีว่าทุกครั้งที่เขากลับมาจากโรงเรียนประจำอันแสนเงียบเหงาเข้มงวด เขามักเห็นเด็กหญิงตัวน้อยได้รับการเอาอกเอาใจ ทะนุถนอมราวกับเจ้าหญิงน้อย ยอร์โก้เองก็ไม่ต่างกัน ถึงได้ติดนิสัยชอบสนุก รักสบายขนาดนี้
“ยาย่าช่วยบอกให้ดาเน่ประหยัดมากกว่านี้ด้วยนะ…ผมดูรายจ่ายของเธอแล้ว เก้าแสน…อย่างที่ผมยื่นคำขาดไป แค่ห้าแสนต่อเดือนเท่านั้นที่ผมจะให้เธอกับยอร์โก้…ส่วนต่างที่เหลือพวกอาๆ ต้องรับผิดชอบเอง”
คอนสแตนตินพูดเรียบๆ นึกกังวลเหมือนกันว่าย่าจะไม่พอใจตามประสาคนที่ตามใจหลานทั้งสอง…แต่เมื่อเดือนก่อนนั้นดอร์เซียใช้เงินไปถึงล้านกว่า…เงินแค่นี้เขาขนหน้าแข้งไม่ร่วง เพียงแต่มันต้องมีขอบเขตบ้าง…เครื่องบินในบริษัทของเขาที่มีไว้ให้เช่าและเดินทางติดต่อธุรกิจก็เอาไปใช้เรื่องส่วนตัวเป็นว่าเล่น จนเขาต้องกำชับทางบริษัทการบินเป็นเด็ดขาด ถ้าใครในครอบครัวมีธุระจำเป็นจริงๆ เขาจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป เพราะมันเสียระบบงาน เมื่อนักบินที่มีจำกัดจะต้องไปทำหน้าที่ไร้สาระ แล้วน้ำมันก็ไม่ใช่จะเติมได้จากมหาสมุทรที่ล้อมรอบกรีซอยู่จะได้ทำอะไรไม่ต้องคิด
โซเฟียนิ่งอึ้งไปด้วยจนในถ้อยคำ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงอ่อนอย่างประนีประนอม “ย่าก็ดูๆ อยู่จ้ะ ตอนนี้ยายดาเน่ก็ปรับปรุงตัวเองมากขึ้นแล้วนะ เห็นบ่นๆ ว่าอยากไปช่วยงานที่บริษัทของคอนสักที่ อาจจะที่นิวยอร์ก…” หญิงชราไม่พูดต่อ กลัวว่าจะเป็นการรุกเร้าอีกฝ่ายมากเกินไป ทั้งที่จริงเธออยากให้หลานสาวคนเดียวไปอยู่ที่ไหนไกลๆ สักพักสุดหัวใจ
คอนสแตนตินนึกไม่ออกเลยว่าในบริษัทมากมายซึ่งมีตำแหน่งงานหลายพัน ญาติผู้น้องคนนี้จะทำอะไรได้ ความจริงเรื่องพวกนี้ไม่สมควรที่เขาต้องมาปวดหัวเลย สองพี่น้องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขา พ่อแม่ก็มี ฐานะก็พอจะมี…แต่ที่เขาทำนี่เพราะเห็นแก่ย่าเท่านั้น
“ก็ดีครับ เอาไว้จะให้ผู้ช่วยดูว่ามีอะไรที่ดาเน่ทำได้ จะได้มีความรับผิดชอบขึ้นบ้าง…แล้วเรื่องนายมาร์ค เทตนั่น เธอเลิกยุ่งกับมันแน่แล้วใช่ไหม” ท้ายประโยคเสียงใหญ่เต็มไปด้วยความเข้มงวดเย็นชา
ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างดีของโซเฟียเผือดซีด ในอกเหมือนมีไฟมาสุมให้ร้อนรุ่มขึ้น…มาร์ค ซี เทตเป็นนักธุรกิจอเมริกันที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นดาราฮอลลีวูดที่โด่งดังสุดขีด สองปีก่อนเขาเริ่มห่างจากวงการและหันมาสนใจทำธุรกิจในยุโรปรวมถึงประเทศกรีซ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก เพราะจากสภาพเศรษฐกิจ ธุรกิจพวกนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยง ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเลย
ธุรกิจที่ชายผู้หล่อเหลาสมบูรณ์แบบและมีชื่อเสียงไปทั่วโลกสนใจคือธุรกิจโรงแรม กาสิโน และสถานบันเทิง ซึ่งเป็นที่สงสัยชวนให้จับตามองสำหรับคอนสแตนตินมาก เพราะกิจการเหล่านั้นเคยเป็นของเปโทรส อธานาซิส มาเฟียชั่วร้ายที่สิ้นชื่อไปแล้ว คอนสแตนตินรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงทำการสืบเรื่องของชายคนนี้อย่างเงียบๆ และต่อมาเขาก็พบความเกี่ยวโยงบางอย่างระหว่างมาร์ค ซี เทตกับเปโทรส อธานาซิส…ทั้งสองอาจมีความสัมพันธ์ในฐานะพ่อลูก