อันน่ายังรายงานไม่จบ เพลงพิณก็โพล่งออกมาเสียก่อน “อะไรนะ! พวกคุณๆ ทั้งหลายเขามักจะตื่นสายกันไม่ใช่เหรอ…โอย ตายแล้ว หายหิวเลยเนี่ย คงจะกินอะไรไม่ลงแล้วเช้านี้”
คำว่าหายหิวของเพลงพิณทำให้สตีเฟ่นที่มักไม่ค่อยมีอารมณ์ขันถึงกับลอบยิ้ม…ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้เขาไม่เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนไหนกินได้น่าอัศจรรย์เหมือนเจ้านายสาวคนนี้เลย
อันน่ารู้สึกไม่สบายใจ คุณๆ ที่ถูกเอ่ยถึงกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ในห้องที่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว แต่นายหญิงของเธอเล่นตะเบ็งเสียงเสียจนไม่สนว่าใครจะได้ยิน “คุณโซเฟียกับคุณมาเรียตื่นตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะ บอกว่าอากาศดีเลยเอาเจ้า…เอ่อ…มิลล์เฟยกับมาการองไปขี่ ส่วนคุณฌอง ฟิลิป เอ่อ คุยธุระกับท่านคอนสแตนตินตั้งแต่เช้ามืดเพิ่งเสร็จค่ะ…”
ถ้าเพลงพิณไม่เซ็งจนหมดอาลัยตายอยาก คงนึกชื่นชมอันน่าอยู่บ้างที่รู้ความเคลื่อนไหวของทุกคนไปเสียหมด แต่ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจอะไรทั้งนั้น ความดีใจที่ตัวเองไม่ได้นอนละเมอเมื่อคืนนี้ปลิววับไป…ทำไมถึงได้มาชุมนุมกันแต่เช้านะ แล้วสองแม่ลูกผู้ดีไฮโซนั่นอีก…ฮึ่ม แก่แล้วแท้ๆ ยังจะเอาม้าของเธอไปขี่เล่น ไม่เกรงใจบ้างเลย
เพลงพิณหันหลังกลับมาตามทางเก่า…ดูเหมือนวันนี้จะไม่ใช่วันดีเสียแล้ว “ฉันเปลี่ยนใจไม่ไปกินที่ห้องอาหารแล้ว…รบกวนให้พ่อครัวทำอะไรง่ายๆ แต่เยอะๆ ให้หน่อยได้ไหมอันน่า ฉันจะไปกินข้าวเช้าในสวน”
ไม่ทันจะให้อันน่ารับคำ เพลงพิณก็เดินกระแทกเท้าตึงๆ ไปก่อนโดยมีสตีเฟ่นตามหลังไม่ห่าง…ปกติไม่ค่อยจะทำตัวยุ่งยากเรียกร้องอะไร แต่วันนี้จำเป็น เพราะถ้าเธอกินไม่อิ่มอีกมื้อหนึ่ง…คอนสแตนตินก็คอนสแตนตินเถอะ เวลาโมโหหิวเธอน่ากลัวกว่าเยอะ
เพลงพิณนั่งดื่มชาร้อนแกล้มขนมปังสดใหม่หนึ่งตะกร้าใหญ่ระหว่างรออาหารเช้า เธอเชิญทีมงานมาร่วมโต๊ะและคุยงานไปด้วยอย่างไม่ให้เสียเวลา ขณะกำลังกินกำลังหารืออย่างติดพัน อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ดังขึ้น เพลงพิณคิดจะไม่รับสาย แต่พอเห็นชื่อเรียกเข้าที่หน้าจอก็เปลี่ยนใจ
เสียงใสทักทายพลางผงกศีรษะให้สถาปนิก หัวหน้าคนงาน และสตีเฟ่นที่ขอตัวออกไปกันก่อนอย่างรักษามารยาท “สวัสดีค่ะมาร์ค…โทรมาแต่เช้าเลยนะคะ”
ปลายสายทักตอบด้วยเสียงนุ่มทุ้ม “อรุณสวัสดิ์ครับ…เมื่อคืนผมยุ่งมากจนไม่ได้โทรไปหาคุณ พอเช้านี้ก็อดทนรอให้สายหน่อยไม่ไหว…หวังว่าคงไม่ได้รบกวนคุณนะครับ”
เพลงพิณหัวเราะคิก เธอไม่ได้รู้สึกปลื้มอะไรกับวาจาหว่านเสน่ห์ของเขา แต่รู้สึกขำมากกว่าที่ทโมนอย่างเธอมีใครมาพูดจาสุภาพนุ่มนวลแบบนี้ด้วย “ไม่รบกวนค่ะ…ที่จริงฉันก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่เหมือนกัน…มีเรื่องจะคุยน่ะค่ะ” ปลายประโยคเป็นเสียงจริงจัง
ทว่าอีกฝ่ายยังใช้น้ำเสียงเรียบรื่นเป็นปกติ “เรื่องที่จะลงเรือผมไปอิตาลีหรือเปล่าครับ ผมดีใจที่คุณตอบตกลงเสียที”
มาร์ค คาร์มิเน่ เทตมีเรือยอชต์หรูหราจุผู้โดยสารได้ร่วมร้อยอยู่ลำหนึ่ง เขากำลังจะล่องเรือไปอิตาลีเพื่อทำธุระ พอรู้ว่าเพลงพิณคิดจะไปอิตาลีเพื่อไปชมงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ครั้งยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นที่มิลาน ชายหนุ่มก็เสนอให้เธอล่องเรือไปกับเขา นอกจากจะไปถึงอิตาลีแล้ว ระหว่างทางยังได้ชื่นชมความงามของเกาะเล็กเกาะน้อยของกรีซ หรือถ้าเพลงพิณคิดจะแวะขึ้นเกาะไหนก็สามารถทำได้ เพราะกำหนดเดินทางของเขาไม่เร่งรีบ…ข้อเสนอนี้ยังรวมถึงทีมงานของเธออีกหกคนและอันน่า ยิ่งเขารู้ว่าเธอเห่อเจ้าของกินทั้งสี่มากขนาดไหน เขาจึงเอ่ยปากให้พวกมันลงเรือไปด้วยได้อย่างใจกว้าง ทำเอาเพลงพิณอยากจะตอบตกลงในทันที แต่ที่ยังลังเลอยู่ก็เพราะรู้สึกถึงสัญญาณเตือนแปลกๆ ว่าถ้าเธอไป ต้องเกิดเหตุระเบิดที่เกาะมิครอสนี้แน่