เมืองอันคัง ในตำหนักพักร้อนของอิงอ๋อง
ได้ฟังรายงานของสายลับจูชุนแล้ว อิงอ๋องก็ตบโต๊ะอย่างแรง
“อะไรนะ! ซ่งเสียงถูกคนช่วยไปได้หรือ แล้วหร่วนอวี้ล่ะ” สีหน้าเขาโกรธเกรี้ยว เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน “ข้าจะสับเขาให้แหลกเป็นหมื่นๆ ชิ้น!”
โมโหดุจสายฟ้าฟาด อิงอ๋องเดินวนไปมาพลางด่าหร่วนอวี้ยกใหญ่ว่าเป็นเศษสวะ
ฉางหมิ่นแอบผลิตอาวุธถือเป็นความลับสุดยอด หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าหัวของเขาผู้เป็นอ๋องที่จ่อจะได้แต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาทนั้นคงต้องย้ายที่เช่นกัน!
ที่ปรึกษาชุยเจี๋ยและที่ปรึกษาสื่อเหวินทั้งสองยืนแขนตกอยู่ด้านข้างโดยไม่กล้าส่งเสียงดัง
“ทั้งที่สืบหาที่ซ่อนตัวของซ่งเสียงได้แล้ว ผู้บัญชาการหร่วนก็ไปที่เมืองสุ่นเหอด้วยตนเอง กลับคิดไม่ถึงว่าจะช้าไปหนึ่งก้าว ซ่งเสียงถูกชายชุดดำกลุ่มหนึ่งพาตัวไปแล้ว…” จูชุนพูดต่อไปอย่างหวาดหวั่น “ทหารของผู้บัญชาการหร่วนกับฉางหมิ่นแบ่งเป็นสองทางตามไปล้อมเอาไว้ สุดท้ายไปปะทะกันตรงเขตใกล้เมืองต้าเยี่ย…” เสียงพูดเบาลง “คนผู้นั้นช่วยคนไปได้ภายใต้ศรปลิดชีพของผู้บัญชาการหร่วน”
“มีคนหนีพ้นศรปลิดชีพของหร่วนอวี้ได้ด้วยหรือ” ปากพึมพำพูดซ้ำหนึ่งรอบ อิงอ๋องเหม่อลอยไปชั่วครู่ สุดยอดวิชาประจำสำนักของหร่วนอวี้ร้ายกาจเพียงใดนั้น ในฐานะศิษย์พี่ร่วมสำนักอย่างอิงอ๋องย่อมรู้ชัดแจ้งดีที่สุด เขาคิดว่าใต้หล้านี้ไม่มีใครสามารถหลบศรปลิดชีพที่ปลิวราวดอกไม้ร่วงนั้นได้
“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ…” จูชุนพยักหน้า “ดูจากวรยุทธ์แล้ว คนผู้นั้นใช้วิชาพลังเก้าหยาง…”
“พลังเก้าหยาง?” อิงอ๋องเลิกคิ้ว
ที่ปรึกษาชุยเจี๋ยอธิบาย “พลังเก้าหยางเป็นเคล็ดวิชาประจำสำนักของชิวฉางเฮ่อคนประหลาดแห่งยุทธภพ ฝึกง่ายชำนาญยาก ผู้เฒ่าชิวมีนิสัยประหลาดไม่มีความอดทนกับลูกศิษย์ คนที่ฝึกสำเร็จสามารถนับนิ้วได้เลย…” เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ “ตามที่กระหม่อมรู้มา ตอนนี้ในยุทธภพมีเพียงสามคนที่ฝึกพลังเก้าหยางสำเร็จ หวงเจี๋ยฉายาเทพคำนวณ สือเค่อที่เก็บตัวอยู่ในเขาชุ่ยซิ่ว อีกคนก็คือหลีจวินคุณชายใหญ่ตระกูลหลีที่ได้ฉายาว่าเป็นอัจฉริยบุรุษ ได้ยินว่าพลังเก้าหยางของเขาฝึกไปถึงขั้นสุดยอดแล้ว เหนือกว่าหวงเจี๋ยกับสือเค่อ…”
“หลีจวิน!” อิงอ๋องเงยหน้าขึ้นทันใด “คนผู้นั้นอายุเท่าใด”
“ราวยี่สิบพ่ะย่ะค่ะ” จูชุนตอบ “ผู้บัญชาการหร่วนสงสัยเช่นกันว่าคนผู้นั้นจะเป็นหลีจวิน ยังเคยไปสืบความมาด้วยตนเอง”
“แล้วมิใช่หรือ” ทุกคนเลื่อนสายตาไปรวมที่ตัวจูชุนพร้อมกัน
“มิใช่พ่ะย่ะค่ะ…” จูชุนส่ายหน้า ก่อนจะเล่าเรื่องที่หร่วนอวี้ไปทดสอบหลีจวินให้ฟัง “ภายหลังผู้บัญชาการหร่วนได้ตรวจสอบแล้ว ช่วงนั้นหลีจวินไปที่เมืองผู่หยาง”
“เขาไปทำอะไรที่เมืองผู่หยาง” ชุยเจี๋ยถาม
“หาซื้อวัตถุดิบเครื่องหอม ครึ่งปีมานี้ตระกูลหลีนำเข้าวัตถุดิบเครื่องหอมจากเมืองผู่หยางมาสามชุด…” ชะงักไปสักครู่ก็พูดอีกว่า “กระหม่อมสงสัยว่าตระกูลหลีจะเริ่มป้องกันตระกูลเหยาแล้ว”
“หลีจวินเป็นคนเจ้าเล่ห์ ทำอะไรมักเหนือความคาดหมาย ผู้บัญชาการหร่วนเป็นคนตรงไปตรงมาและเป็นคนซื่อ ถูกคนเขาหลอกหรือไม่ก็ยากจะพูดได้…” ชุยเจี๋ยมองไปทางอิงอ๋อง “ท่านอ๋องจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด”
จูชุนขยับริมฝีปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร
หากคนที่ช่วยซ่งเสียงไปเป็นคนอื่นก็แล้วไปเถอะ แต่หากถูกคนตระกูลหลีช่วยไป เช่นนั้นผลลัพธ์ก็…
สื่อเหวินไม่กล้าคิดต่อไป หน้าผากเขามีเหงื่อผุดออกมาทันที เอ่ยปากพูดว่า “พี่ชุยพูดไม่ผิด สือเค่อนิสัยหยิ่งทะนงจึงเอาแต่ซ่อนตัว เทพคำนวณหวงเจี๋ยแม้จะชอบท่องเที่ยวเพียงใด แต่ก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องในใต้หล้านี้ คนที่ฝึกพลังเก้าหยางจนแก่กล้าสามารถชิงตัวซ่งเสียงไปจากศรปลิดชีพของผู้บัญชาการหร่วนได้นั้น เห็นจะมีเพียงหลีจวินที่ถือเป็นคนน่าสงสัยที่สุด…” เห็นจูชุนท่าทางหลุกหลิก สื่อเหวินจึงพูดอีกว่า “ไม่แน่ว่าหวงเจี๋ยสือเค่อถูกเงินจำนวนมากซื้อตัวไปหรือไม่นั้นก็พูดได้ยาก…” น้ำเสียงเขาเบาหวิว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้นี้
อิงอ๋องพยักหน้าพลางมองหน้าจูชุน “สั่งการโฉวจิ่วให้เขาร่วมมือกับสมาคมกิจการเครื่องหอมแห่งเมืองผู่หยาง คุมร้านวัตถุดิบเครื่องหอมรายใหญ่ในพื้นที่เอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรต้องควบคุมตลาดวัตถุดิบเครื่องหอมเมืองผู่หยางให้ได้ รอคำสั่งจากข้า หลังจากนั้นค่อยร่วมกับตระกูลเหยาเมืองซั่วหยางขึ้นราคาวัตถุดิบเครื่องหอม…”
โฉวจิ่วเป็นผู้ใต้บัญชามากความสามารถของอิงอ๋อง สองเดือนก่อนเพิ่งถูกส่งไปที่เมืองผู่หยางเพื่อทำหน้าที่แทนหวังเฟิ่งเจ้าเมืองผู่หยาง
พูดจบ อิงอ๋องก็กำหมัดขยำสารลับในมือเป็นก้อนกลม
จะปล่อยตระกูลหลีไว้ไม่ได้เด็ดขาด!
รับรู้ถึงรังสีสังหารอันแรงกล้า จูชุนก็ตัวสั่นเทา เขารีบพยักหน้ารับคำ