ตอนที่ 4
“เดิมทีคิดจะรอให้คุณชายใหญ่กลับมาจัดการเหยาอี๋เหนียง แต่ถ้าไม่ได้เม็ดกันชื้นมาโดยเร็ว เครื่องหอมในคลังก็จะต้องเสียหายหมด” หลีชิงเล่าเรื่องสองเดือนที่ผ่านมานี้พลางแอบชำเลืองดูสีหน้าของหลีจวิน
ทั้งที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากหลีจวินก็ไล่อนุภรรยาที่แต่งอย่างเป็นทางการออกไปอย่างนี้ อย่าว่าแต่หลีจวินที่เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลใหญ่เลย ต่อให้เป็นลูกอนุภรรยาก็คงจะโกรธเกรี้ยวมิใช่น้อย
เป็นเพราะมองไม่ออกถึงความยินดีหรือโกรธเกรี้ยวของหลีจวิน หัวใจหลีชิงจึงยกสูงถึงคอหอย เขาพูดอย่างระวังตัวอีกว่า “โชคดีที่ได้เม็ดกันชื้นเหล่านี้มา มิเช่นนั้นครั้งนี้ตระกูลหลีคงจะพินาศแน่”
หนึ่งในกฎเจ็ดออกก็คือความหึงหวง มู่หวั่นชิวยังไม่ทันแต่งเข้าบ้านก็ทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้แล้ว หลีชิงกลัวจากใจจริงว่านายน้อยเลือดร้อนผู้นี้จะไปคิดบัญชีกับนาง
ตระกูลหลีในตอนนี้ไม่อาจขาดมู่หวั่นชิวที่มีสุดยอดฝีมือติดตัวไปได้ แม้แต่นายท่านหลีเองก็ยังเอาอกเอาใจนางทุกวันเลย
“สินค้าในคลังยังดีอยู่หรือ” หลีจวินยื่นนิ้วชี้ออกไป ค่อยๆ บดเม็ดกันชื้นสีฟ้าใสในถาดทีละเม็ด
ฟังน้ำเสียงของหลีจวินดูเหมือนจะไม่โกรธ หลีชิงจึงค่อยโล่งอก ปากก็รีบพูดว่า “ดีกว่าปีที่ผ่านมาอีกขอรับ ปีที่ผ่านมาในฤดูนี้แม้สินค้าที่เก็บไว้จะมีไม่มาก แต่อย่างน้อยก็จะขึ้นราจนเสียหมด ปีนี้มีเม็ดกันชื้นแล้วก็ไม่ขึ้นราเลย ส่วนที่ขึ้นราก่อนหน้านี้ก็ถูกแม่นางไป๋กู้คืนมาได้ วางทิ้งไว้อีกครึ่งปีก็ไม่เป็นปัญหา” เขาพูดพลางเห็นหลีจวินหยิบหนังสือสัญญาหลายชุดที่อยู่ข้างมือขึ้นมาแล้วรีบอธิบายว่า “เหล่านี้ล้วนเป็นตอนที่คุณชายใหญ่ไม่อยู่ นายท่านกับโรงธูปไป่เยี่ยทำขึ้นมา…”
เพียงแค่อ่านสัญญาไปฉบับหนึ่ง หลีจวินก็กำห้านิ้วแน่น เขาพยายามสะกดใจไม่ให้ตนเองฉีกสัญญาทิ้ง
ที่เขาไม่ให้ท่านพ่อรู้ว่านางก็คือเฮยมู่ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของนางกับโรงธูปไป่เยี่ย
แต่หลีจวินฝันก็คิดไม่ถึงว่ามู่หวั่นชิวจะใจกล้าถึงเพียงนี้ ใช้ชื่อเฮยมู่บีบให้ท่านพ่อเขาทำหนังสือหย่าเหยาจิ่นนั้นไม่ว่าอะไร แต่นี่นางกลับทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมมากมายอย่างนี้ขึ้นอีก!
นิ่งเงียบอยู่นาน หลีจวินจึงยิ้มออกมา
ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังมาตลอด เสือน้อยตัวนี้ในที่สุดก็โผล่กรงเล็บออกมาแล้ว แม้แต่ท่านพ่อเขาก็ยังกล้ารังแก ไม่รู้ว่าหากเขาเปิดโปงนางซึ่งหน้าขึ้นมา นางจะมีท่าทางเป็นอย่างไร
หลีจวินรอคอยอยู่ในใจลึกๆ
เห็นหลีจวินมีรอยยิ้ม หลีชิงก็เบาใจขึ้นมาก คิดว่าเขาคงพอใจกับสัญญาหลายฉบับนี้มากจึงพูดเอาใจว่า “ครั้งนี้ตระกูลหลีได้กำไรแล้ว โดยเฉพาะน้ำหอมสังสารวัฏ แต่ละขวดได้กำไรกว่าหนึ่งตำลึง” สัญญาเหล่านี้ล้วนเป็นเขาตามนายท่านหลีไปทำด้วย ในสายตาของเขาการมอบสิทธิ์การขายให้เช่นนี้ ถือว่าตระกูลหลีได้ทั้งชื่อเสียงและกำไร เป็นการได้เปรียบครั้งใหญ่
ได้กำไรอย่างนั้นหรือ
หลีจวินเลิกคิ้วขึ้น
คนอื่นไม่รู้ แต่เขารู้อย่างชัดแจ้ง ไป๋ชิวกับเฮยมู่ล้วนเป็นคนคนเดียวกัน!
มู่หวั่นชิวทำสัญญากับตระกูลหลีไว้ตามเงื่อนไขสัญญา ระหว่างห้าปีที่นางอยู่ในตระกูลหลี สูตรลับที่คิดค้นได้ทั้งหมดต้องเป็นของตระกูลหลี ตอนนี้นางกลับกุมสูตรลับไว้ในมือโดยอาศัยชื่อของเฮยมู่ จากนั้นอาศัยรูปแบบความร่วมมือนี้มอบสิทธิ์การขายให้กับตระกูลหลี ทำเช่นนี้นางก็สามารถแบ่งกำไรไปทันทีครึ่งหนึ่ง ในทางกลับกันท่านพ่อเขายังรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของนางอีกด้วย
นี่เรียกว่าอะไร
เอาตัวเองไปขายซ้ำยังช่วยคนอื่นนับเงินอีก!
เพียงคิดว่าหากท่านพ่อรู้ว่าตัวเองถูกหญิงสาวคนหนึ่งหลอกจนหัวปั่นแล้วจะโกรธเกรี้ยวเพียงใด ในใจหลีจวินก็รู้สึกรุ่มร้อน เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยากมาก…ยากมากจริงๆ
หากเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป เขาจะใช้วิธีการที่รุนแรงโดยไม่ลังเล ทำให้อีกฝ่ายต้องขาดทุนย่อยยับแน่
แต่มู่หวั่นชิวไม่เหมือนกัน นางเป็นดวงใจของเขา
ด้านหนึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้า ด้านหนึ่งก็เป็นหญิงที่รัก เมื่อต้องอยู่คั่นกลางระหว่างคนทั้งสอง เขาต้องทำอย่างไรจึงจะยกถ้วยน้ำให้นิ่งเสมอกันได้เล่า
ทำอย่างไรจึงจะลงโทษมู่หวั่นชิวให้กลัวและเกรง ทั้งยังเป็นการระบายความเคืองขุ่นให้กับท่านพ่อได้บ้าง