ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 4 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 4

เหมือนมีใจสื่อถึงกัน มู่หวั่นชิวกำลังคิดอยู่ก็ได้ยินหลีจวินพูดว่า “เฮยมู่มีฐานะเบื้องหลังแล้ว โรงธูปไป่เยี่ยของอาชิวก็ไม่ต้องเก็บมือเก็บเท้าไว้อีกต่อไป”

มู่หวั่นชิวพ่นหัวเราะออกมา “ข้ากำลังคิดเรื่องนี้อยู่เลย ก่อนหน้านี้เพื่อไม่ให้โรงธูปไป่เยี่ยเติบโตเร็วเกินไป สุดยอดสูตรลับมากมายในตำราวิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ยข้าล้วนไม่กล้าเอาออกมาใช้ ตอนนี้ดีแล้ว…”

“อาชิวเคยคิดหรือไม่…” พูดยังไม่จบก็ถูกหลีจวินตัดบท “โรงธูปไป่เยี่ยตั้งอยู่ในซั่วหยางที่ได้ฉายาว่าเมืองเครื่องหอมเล็ก ค้าขายวัตถุดิบเครื่องหอมจะดีกว่า”

“ตอนแรกที่ซื้อร้านหานจี้ไว้ข้าก็อยากจะค้าขายวัตถุดิบเครื่องหอมเช่นกัน แต่เพราะกลัวร้านเหยาจี้จะกีดกันจึงเปลี่ยนมาทำเครื่องหอมแทน พี่หลีพูดได้ถูกแล้ว ทำการค้าวัตถุดิบเครื่องหอมที่ซั่วหยางย่อมได้กำไรมากกว่าเครื่องหอม แต่น่าเสียดายตลาดวัตถุดิบเครื่องหอมเมืองซั่วหยางล้วนถูกร้านเหยาจี้ควบคุมไว้ทั้งหมด” คิดถึงเรื่องที่เพิ่งไล่เหยาจิ่นไป มู่หวั่นชิวก็ชะงักเสียงพูด นางแอบมองไปทางหลีจวิน

หลีจวินกำลังขมวดคิ้วครุ่นคิด “ตระกูลหลีแตกหักกับตระกูลเหยาแล้ว หลีฟานเพิ่งนำสารการค้ากลับมา ราคาวัตถุดิบเครื่องหอมที่ร้านเหยาจี้เสนอให้ตระกูลหลีสูงกว่าที่ส่งให้กับตระกูลหลิ่วถึงหนึ่งเท่าตัว”

“ขออภัยด้วย…” มู่หวั่นชิวเม้มริมฝีปาก

นึกถึงเรื่องที่ไล่เหยาจิ่นขึ้นมาได้ในทันที หลีจวินจึงเงยหน้ามองไปทางมู่หวั่นชิว

ริมฝีปากสีแดงของนางเม้มเบาๆ สองแก้มแดงเรื่อราวกับดอกท้อเดือนสามบานสะพรั่งอยู่กลางแสงตะวันในฤดูใบไม้ผลิ หัวใจเขาพลันเต้นกระตุก คำพูดตำหนิจึงไม่ได้หลุดออกจากปากแต่กลับพูดว่า “ตระกูลเหยาไปเข้ากับอิงอ๋องแล้ว ไม่มีอาชิวพวกเขาก็ต้องแตกหักกับตระกูลหลี สุดท้ายก็ขึ้นราคาสูงอยู่ดี แต่ทางโรงธูปไป่เยี่ยนั้น มิสู้อาชิวนำมาแปรรูปวัตถุดิบเครื่องหอมแทน แล้วส่งมาให้ร้านหลีจี้ทั้งหมดเถอะ”

ตอนที่ซื้อโรงธูปไป่เยี่ย นางก็เคยฝันว่าจะมีสักวันที่นางสามารถขายวัตถุดิบเครื่องหอมให้ร้านหลีจี้ได้ คิดไม่ถึงว่าเวลาเพียงสองปีนางก็ทำได้แล้ว!

ทันใดนั้นมู่หวั่นชิวก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน

“ได้” ผ่านไปครู่ใหญ่นางจึงพยักหน้าอย่างแรง “ปีนี้งานประชันเครื่องหอมเมืองซั่วหยางเพิ่งผ่านไป ข้าให้ท่านลุงซุนรับอาจารย์เครื่องหอมอีกชุดไว้ แล้วให้ส่งคนมาให้ข้าฝึกสอนด้วยตัวเองที่ต้าเยี่ย พี่หลีวางใจได้ ถ้าเรื่องแปรรูปวัตถุดิบเครื่องหอม ความรู้ของข้าย่อมดีกว่าของร้านเหยาจี้แน่นอน” โรงธูปไป่เยี่ยเริ่มแปรรูปวัตถุดิบเครื่องหอมแล้ว ซุนมือไวกับซานนีเอ๋อร์ในที่สุดก็มีที่ให้ใช้วิชาได้เสียที คิดถึงความลิงโลดตอนพวกเขาได้ยินข่าวนี้ มู่หวั่นชิวก็หัวใจเต้นรัว

ที่สำคัญยิ่งกว่าคือหากโรงธูปไป่เยี่ยเอาการค้าหลักไปไว้ที่การแปรรูปวัตถุดิบเครื่องหอม ไม่ชนกับการค้าหลักของตระกูลหลีแล้ว ก็ยิ่งสามารถรับรองความร่วมมือในระยะยาวของพวกเขาได้

หลีจวินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้…”

มู่หวั่นชิวก็ยิ้มอย่างดีใจ

ทันใดนั้นรอยยิ้มก็กระด้างไป นางเงยหน้าขึ้นมองหลีจวิน “ตลาดวัตถุดิบเครื่องหอมเมืองซั่วหยางถูกร้านเหยาจี้ครอบครองผู้เดียวมาตลอด โรงธูปไป่เยี่ยยากจะกางแขนขาได้ในเวลาอันสั้น ในเวลาปีสองปีนี้เกรงว่าจะส่งมาไม่พอกับความต้องการของร้านหลีจี้”

อย่างไรเสียที่มาของสินค้าล้วนถูกตระกูลเหยาควบคุมเอาไว้ ถ้าคิดจะทำการค้าวัตถุดิบเครื่องหอมที่เมืองซั่วหยางจริง หากร้านเหยาจี้ไม่ล่มโรงธูปไป่เยี่ยก็ยากจะผงาดขึ้นมาได้

คงไม่ใช่เพราะนางไล่เหยาจิ่นไป เขาจึงผลักโรงธูปไป่เยี่ยของนางออกไปสู้กับร้านเหยาจี้แทนหรอกนะ

มู่หวั่นชิวคิดไปคิดมา เสียงพูดก็ชะงักไป

หลีจวินมองนางแวบหนึ่ง “ที่อาชิวกังวลก็ถูก ถ้าร้านเหยาจี้ไม่ล่ม ตระกูลหลีก็อย่าคิดจะซื้อวัตถุดิบเครื่องหอมจากเมืองซั่วหยางได้เลย” เขาถอนหายใจ “ข้าวางเส้นสายไว้ในเมืองผู่หยางกับอันซุ่นแล้ว เดิมทีคิดว่าถ้าวันใดแตกหักกับร้านเหยาจี้ก็จะหันไปทางผู่หยางกับอันซุ่นแทน ใครจะรู้ว่าวัตถุดิบเครื่องหอมของผู่หยางจะขึ้นราคาเช่นกัน”

“วัตถุดิบเครื่องหอมของผู่หยางก็ขึ้นราคาแล้วหรือ” มู่หวั่นชิวตกใจ

หลีจวินพยักหน้า “อิงอ๋องเป็นคนทำ บีบให้พ่อค้าเมืองผู่หยางขึ้นราคาวัตถุดิบเครื่องหอมของตระกูลหลี” เขามองหน้ามู่หวั่นชิว “ตอนนี้สายตาของตระกูลหลีก็มองได้เพียงเมืองซั่วหยางแล้ว ในเมื่อมาถึงขั้นนี้ พวกเราก็ต้องทำลายการผูกขาดตลาดวัตถุดิบเครื่องหอมของร้านเหยาจี้นี้ให้สิ้นซาก!”

“โรงธูปไป่เยี่ยของข้าไม่แน่ว่าจะสู้ร้านเหยาจี้ได้”

มู่หวั่นชิวน้ำเสียงแฝงความกังวล

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตระกูลเหยามีอำนาจกว้างใหญ่ในเมืองซั่วหยาง มีพื้นที่ในการปลูกวัตถุดิบเครื่องหอมในปริมาณมาก และมีแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่เพียงพอเลย ดูแค่เพียงอำนาจเงิน นางที่เป็นหญิงตัวคนเดียวทั้งยังเพิ่งเข้าสู่วงการนี้จะมีอำนาจเทียบกับร้านเหยาจี้ได้อย่างไร

เมื่อพูดถึงเฮยมู่ที่มีฐานะเบื้องหลังอันยิ่งใหญ่ลึกลับยากจะคาดเดาแล้ว นั่นล้วนเป็นเพียงเสือกระดาษที่เอาไว้หลอกผู้อื่น ไม่อาจทนรับการโจมตีนี้ได้ไหวแน่ ในสนามการค้าหากคิดจะสู้ด้วยความแข็งแกร่ง สู้ด้วยความโหดเหี้ยม และคิดจะเป็นใหญ่เพียงฝ่ายเดียวแล้ว จำเป็นต้องอาศัยความสามารถที่แท้จริง!

ตระกูลหลีคงไม่เอาเงินออกมาให้นางไปสู้กับตระกูลเหยากระมัง

“อาชิวไม่ต้องเป็นห่วง การสู้กับตระกูลเหยาไม่ต้องให้เจ้าออกหน้า เจ้าแค่ส่งวัตถุดิบเครื่องหอมชั้นเลิศให้ตระกูลหลีอย่างสบายใจก็พอ ข้าได้ซื้อร้านวัตถุดิบเครื่องหอมหลี่จี้ของเมืองซั่วหยางเอาไว้แล้ว” นับจากซุนมือไวถูกมู่หวั่นชิวชิงตัวมา การค้าของร้านหลี่จี้ก็ตกลงไปอย่างมาก ทนได้ไม่ถึงหนึ่งปีก็สู้ต่อไปไม่ไหว จำต้องแขวนป้ายขายทิ้ง

“พี่หลีจะสู้กับตระกูลเหยาด้วยตัวเองหรือ”

“สาขาหลักของตระกูลหลียังอยู่ในน้ำลึกในไฟร้อน ข้าปลีกตัวไปไม่ได้ ท่านพ่อจึงเตรียมให้น้องสามนั่งคุมที่เมืองซั่วหยางแล้ว”

คุณชายสามหลีเฮ่อ?

มู่หวั่นชิวเกิดความคิดในใจ ในชาติก่อนเป็นเพราะเหยาจิ่นแต่งงานกับคุณชายสามหลีเฮ่อ แล้วขอแยกบ้านในตอนที่ตระกูลหลีเจอปัญหา พวกเขาได้นำสูตรลับจำนวนมากของตระกูลหลีไปด้วย กลายเป็นหญ้าต้นสุดท้ายที่ทำให้ตระกูลหลีล่มสลาย

ให้เขาไปเมืองซั่วหยางอย่างนี้ ในชาตินี้เขาจะไปอยู่กับเหยาจิ่น แล้วสร้างการโจมตีทั้งนอกและในจนทำให้ตระกูลหลีต้องถึงแก่ชีวิตอีกหรือไม่

อย่างไรเสียพวกเขาก็มีวาสนาต่อกัน

แม้ว่าในจำนวนพี่น้องสี่คนของหลีจวิน นอกจากเขาแล้ว หากพูดถึงคนที่มีปัญญาและมีความสามารถที่สุดก็ต้องยกให้คุณชายสามหลีเฮ่อ นายท่านหลีส่งเขาไปเมืองซั่วหยางถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่พอคิดถึงเรื่องต่างๆ ในชาติก่อนแล้ว มู่หวั่นชิวยังคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง

กำลังพูดอยู่ เห็นมู่หวั่นชิวสีหน้าผิดปกติ หลีจวินจึงถามอย่างสงสัย “อาชิวเป็นอะไรไป”

ริมฝีปากขยับ มู่หวั่นชิวอยากจะยับยั้งไม่ให้หลีเฮ่อไปเมืองซั่วหยาง ลังเลอยู่นาน คิดว่าตนเองเพิ่งไล่เหยาจิ่นออกจากตระกูลหลีย่อมไม่สะดวกที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องภายในของตระกูลหลีอีก นางจึงกลืนคำพูดที่ริมฝีปากลงไป แล้วเปลี่ยนมาพูดว่า “เช่นนี้ก็ดี ให้พี่หลีส่งคนไปคอยควบคุม เชื่อว่าตระกูลเหยาคงไม่กล้าทำอะไรมาก”

หลีจวินยิ้มแล้วพูดอย่างมั่นใจ “ภายหน้าพอไล่ตระกูลเหยาไปแล้ว เมืองซั่วหยางก็จะกลายเป็นเขตของโรงธูปไป่เยี่ยกับตระกูลหลีแล้ว!”

“ขอให้เป็นไปตามคำมงคลของพี่หลีเถอะ” มู่หวั่นชิวพูดประชด “ภายหน้าหลังจากที่ไล่ตระกูลเหยาไปแล้ว พี่หลีอย่าได้ทำเรื่องกระต่ายตายจับสุนัขต้ม* หันกลับมาเป็นปรปักษ์กับโรงธูปไป่เยี่ยเด็ดขาดเชียวนะ”

หลีจวินหัวเราะเสียงดัง “โรงธูปไป่เยี่ยมีหุ้นของข้าอยู่ ข้าจะเป็นปรปักษ์กับตนเองได้อย่างไร” แล้วพูดอีกว่า “ถ้าอาชิวไม่วางใจ เพิ่มหุ้นให้ข้าอีกสองส่วนก็พอ”

มู่หวั่นชิวเบ้ปากใส่เขา “ฝันไปเถอะ ถูกท่านได้หุ้นไปสองส่วนครึ่งเปล่าๆ เช่นนี้ ข้าปวดใจจนแทบจะทะลักออกมาแล้ว” จากนั้นก็ลุกขึ้น “สายมากแล้ว ข้าจะกลับไปเตรียมตัวสักหน่อย จะได้รับมือกับการตรวจสอบจากใต้เท้าหร่วนได้”

หลีจวินมองไปที่กาน้ำหยดเช่นกัน “ในเมื่ออาชิวมาแล้ว จะไม่ไปเยี่ยมคุณชายเจิงสักหน่อยหรือ”

นึกได้ว่าเจิงฝานซิวกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลี มู่หวั่นชิวจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าพี่หลีไม่เตือนสติ ข้าคงลืมไปแล้ว” แล้วถามว่า “พี่เจิงพักอยู่ที่ใด”

“อยู่เรือนด้านหลัง ข้าพาเจ้าไปเอง” หลีจวินยืนขึ้นมา

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 87-88

    By

    บทที่ 87 ข้อห้าม กู้หมิงเค่อถูกหลี่เจาเกอยั่วโมโหจากไปแล้ว นางอมยิ้มรับช่วงหลักฐาน เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาที่ติดตามนางมา “จงขนสิ่งเหล่านี้กลับกอง...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่าดำออกจากหมู่บ้านมาก็...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ่า เงาดำสายหนึ่งพลัน...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.4-2.6

    By

    บทที่ 2-4 สามีภรรยาปลอม   6   บนหอทองล่วงเข้ากลางคืนแล้ว รอบด้านล้วนจุดโคมไฟ เปลวไฟลุกโชติช่วง ในมุมที่ซย่าชิงยวนนั่งอยู่นางสามารถมองเห็นสัน...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเร้น ภายใต้ผืนนภาราตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.1-2.3

    By

    บทที่ 2-1 สามีภรรยาปลอม   1   เมื่อลู่หย่วนเดินมาถึงหน้าประตูก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ผลักประตูเปิดออก สิ่งที่ทำให้เขาสติหลุดล...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญู เบื้องหน้าท้องพระโ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com