ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 7 ตอนที่ 1
ตระกูลหลีไม่มีทางไม่ทำสินค้าออกมา เขาไม่เชื่อว่าจันทน์หอมราคาสูงเทียมฟ้านี้จะถูกโยนใส่มือเขาเหยาซื่อซิงและต้องเน่าคาคลังของตระกูลเหยาไป ผ้าเหลืองอักษรดำบนพระราชโองการเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าให้ตระกูลหลีส่งมอบธูปไหว้พระสิบล้านดอกภายในสองเดือน ตระกูลหลีจะไม่ต้องการจันทน์หอมได้อย่างไร!
อีกหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดส่งมอบสินค้าแล้ว ถึงแม้จะซื้อจันทน์หอมได้ในตอนนี้ แต่ด้วยระยะทางไกลไปเมืองต้าเยี่ยรวมกับเวลาที่ต้องเร่งทำธูปออกมา ตระกูลหลีไม่มีทางส่งมอบสินค้าได้ทันเวลาแน่
เห็นได้ชัดว่าตระกูลหลีล้มเลิกการซื้อจันทน์หอมไปแล้ว!
เหยาฟู่มีความรู้สึกขึ้นมารางๆ ว่าอำนาจของตระกูลเหยาได้หายไปแล้ว ริมฝีปากนั้นขยับ เขาคิดจะพูดกล่อมสองสามประโยค แต่ประสานเข้ากับสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเหยาซื่อซิงแล้วเขาก็ปิดปากลง
“เจ้าไปพบเซวียหย่งของร้านหลีจี้สาขาย่อย บอกเขาว่าพวกเรายินดีขายจันทน์หอมในราคาชั่งละสามร้อยตำลึง…” ชั่งละสามร้อยตำลึง ตระกูลเหยายังพอรักษาต้นทุนเอาไว้ได้บ้าง
เหยาฟู่รับคำแล้วเดินออกไป
ไม่เกินหนึ่งชั่วยามก็กลับมา “เซวียหย่งบอกว่าเขาตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องไปปรึกษากับคุณชายสามที่เมืองต้าเยี่ยขอรับ”
“ที่นี่ห่างจากเมืองต้าเยี่ยเท่าใด แล้วต้องใช้เวลากี่วัน” เหยาซื่อซิงถามอย่างงุนงง
เห็นเหยาซื่อซิงเหมือนเริ่มเลอะเลือน เหยาฟู่ก็รู้สึกปวดใจ ในดวงตามีม่านน้ำปกคลุม เขาแอบหมุนตัว ไปใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาแล้วพูดเสียงเบา “ไม่นาน นายท่านรออีกนิดนะขอรับ”
ในวันนี้เหยาซื่อซิงล้มป่วยลง
เหยาจิ่นกลับนิ่งเงียบลงเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าฟังคำใครกล่อม นางไปขอหุ่นผ้าจากหมอผีมาสองตัว เขียนชื่อไว้บนนั้นว่าไป๋ชิวกับหลีจวิน ใช้เข็มปักบนตัวหุ่นทุกวัน บอกว่าขอเพียงนางตั้งใจปักเข็มไปจนครบสามร้อยหกสิบวัน หลีจวินกับไป๋ชิวก็จะเนื้อตัวเน่าเปื่อยจนตาย กับเรื่องนี้นางเชื่อถืออย่างมาก นางเก็บความฉุนเฉียวเอาไว้ แล้วเอาแต่สาปแช่งด้วยความศรัทธาตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ยี่สิบวันผ่านไปอีกอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
คนมาทวงหนี้ที่หน้าประตูร้านเหยาจี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าเหยาซื่อซิงได้รู้แล้วอาการจะทรุดหนัก เหยาฮูหยินจึงให้คนปิดข่าวนี้เอาไว้
เช้าวันนี้เหยาซื่อซิงสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมากจึงเอ่ยปากเรียกคน “อาฟู่ อาฟู่!…” เขาอยากรู้สถานการณ์ภายนอก
เรียกอยู่หลายครั้งไม่มีคนตอบรับ เหยาซื่อซิงจึงเกาะเตียงลงพื้นแล้วเดินโอนเอนออกไปนอกห้อง ระเบียงทางเดินไม่มีใคร เขากำลังจะตะโกนเรียกก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากเรือนหลังบ้าน หัวใจเขากระตุก ได้สติขึ้นมามากแล้ว ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ใดทำให้เขาเดินรวดเดียวไปจนถึงเรือนหลังบ้าน เห็นตรงลานบ้านมีคนมุงอยู่ ทุกคนกำลังร้องไห้ระงม เขาจึงผลักกลุ่มคนออกเดินเข้าไปดู แล้วก็ต้องเบิกตาโตอย่างตกใจ “อาฟู่!”
เห็นเหยาฟู่นอนนิ่งอยู่บนพื้น ตัวเปียกโชก ขาดใจตายไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” ย่อตัวนั่งลงดูอยู่พักใหญ่ เหยาซื่อซิงจึงเงยหน้าขึ้นถาม “พ่อบ้านเหยาตายได้อย่างไร ใครทำร้ายเขา”
ถูกข่าวร้ายกะทันหันนี้ทำให้ตกใจ ทุกคนจึงลืมเหยาซื่อซิงที่นอนป่วยอยู่บนเตียงไปเสียสนิท ตอนนี้เห็นเขาโผล่เข้ามาก็ตกใจพากันคุกเข่าลง “นายท่าน…”
“ใครทำร้ายเขา!” เห็นทุกคนเอาแต่ปิดปาก พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ แต่กลับไม่มีใครตอบคำถามเขาสักคน เหยาซื่อซิงจึงตะคอกขึ้นมา
เหยาฟู่ติดตามข้างกายเขามาแต่เด็ก หลายสิบปีมานี้เขาเห็นเหยาฟู่เป็นเหมือนญาติ ตอนนี้เห็นอีกฝ่ายมาตายไปต่อหน้าต่อตา หัวใจเหยาซื่อซิงก็เจ็บเหมือนถูกมีดกรีด เหมือนถูกขวานจาม ทำให้ใจของเขาเยือกเย็นลงมาก
“เมื่อคืนอาฟู่ดื่มสุรามากเกินจนพลัดตกลงน้ำ…” เห็นสายตาเหยาซื่อซิงจ้องหน้าทุกคน เหยาฮูหยินจึงเอ่ยปากพูด “นายท่านกลับเข้าห้องพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะให้คนไปตามคนมาบรรจุอาฟู่ลงโลง…”
“พูดเหลวไหล!” เหยาซื่อซิงเตะอ่างดินข้างกายจนพลิกคว่ำ “อาฟู่ไม่เคยดื่มสุรา!” แล้วพูดอีกว่า “คนตระกูลหลีบีบเขาใช่หรือไม่!” เสียงตะคอกนั้นทรงพลัง สะเทือนจนหูของทุกคนอื้อ
เหยาอันทรุดลงนั่งคุกเข่า “ได้ยินว่าตระกูลหลีส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด เมื่อคืนพ่อบ้านฟู่จึงไปกระโดดแม่น้ำขอรับ เช้าวันนี้ศพเพิ่งจะลอยขึ้นมา”
“ตระกูลหลีส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดหรือ” เหยาซื่อซิงร่างโอนเอน “ไม่มีจันทน์หอม พวกเขาส่งมอบสินค้าได้อย่างไร”
“ปรมาจารย์ไป๋ใช้วัตถุดิบเครื่องหอมอื่นเลียนกลิ่นจันทน์หอม ธูปของตระกูลหลีเหล่านั้นไม่ได้ใช้จันทน์หอมเลย และโรงธูปไป่เยี่ยยัง…” พูดยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังพรวด เหยาซื่อซิงกระอักเลือดออกมา เหยาอันตกใจรีบลุกขึ้นไปประคองเขา “นายท่าน!”
“ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอก…” เหยาซื่อซิงพูดเสียงแข็ง เสียงพรวดดังขึ้นอีก เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้ง รู้สึกหนังตาหนักอึ้ง เหยาซื่อซิงค่อยๆ หลับตาลง หลังพิงตัวเหยาอันพลางหายใจหอบแรง
“นายท่าน!” เห็นสามีหายใจรวยริน เหยาฮูหยินก็ตะโกนเรียกอย่างน่าสงสาร
ได้ยินฮูหยินเรียก เหยาซื่อซิงจึงลืมตาขึ้น สายตาเลื่อนไปยังเหยาฟู่ที่อยู่ข้างเท้าฮูหยิน ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าตระกูลเหยาสูญเงินไปเกือบสิบล้านตำลึงในชั่วข้ามคืนจึงรู้สึกเหมือนมีไอร้อนขยายตัวคับทรวงอก เพียงอ้าปากเลือดสดก็ไหลลงมาตามมุมปากเขาอีกครั้ง
ร่างนั้นโอนเอน ก่อนที่เหยาซื่อซิงจะคอพับล้มลงกับพื้น
โปรดติดตามตอนต่อไป……