ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 7 ตอนที่ 2 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 7 ตอนที่ 2

7 of 7หน้าถัดไป

เดิมคิดว่าเช่นนี้ก็สามารถคลายความปรารถนาได้ แต่ใครจะรู้ว่ายามที่ถูกร่างอ่อนระทวยของมู่หวั่นชิวแนบติดเช่นนี้ ร่างของหลีจวินราวกับระเบิดจนยากจะทนทานไหว มือใหญ่จึงเลื่อนเข้าไปใต้เนื้อผ้า เพียงแตะผิวเนื้อที่ละเอียดนุ่มเนียนนั้น หลีจวินก็สั่นไปทั้งตัว เสียงเข้มครางออกมาเบาๆ อย่างควบคุมไม่อยู่ หายใจหอบแรงขึ้นมา…

เม็ดเหงื่อไหลลงมาตามหน้าผากของหลีจวิน เขาพยายามดึงตัวมู่หวั่นชิวมาแนบแผ่นอก อยากจะบดร่างนางเข้ามาในร่างตนเอง มือก็เลื่อนไปกระชากกระดุมคอเสื้อของนางลงมา แล้วก้มลงจุมพิตยอดทรวงอก มู่หวั่นชิวตัวสั่นพลางส่งเสียงครางออกมา หลีจวินหยุดการกระทำลงทันใด “อาชิว ข้าอยากได้ตัวเจ้าในตอนนี้เลย…”

สองแก้มแดงเรื่อ มู่หวั่นชิวไม่พูดอะไร เพียงแค่หลับตาแล้วกอดเขาไว้แน่น สองขาไม่รู้ว่าปีนไปอยู่บนเอวของเขาตั้งแต่เมื่อใด ผิวกายของทั้งสองห่างกันเพียงเนื้อผ้ากั้น ตรงท้องน้อยที่อ่อนนุ่มของนางคล้ายสัมผัสเข้ากับแรงปรารถนาที่คับแน่นของเขาอย่างไม่ตั้งใจ

หลีจวินอุ้มนางเดินไปที่เตียงโดยไม่พูดพล่ามอะไรอีก จนกระทั่งไปถึงข้างเตียงแล้วเขาก็ชะงักไปทันใด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ อยู่หลายครั้งกว่าจะสงบใจลงได้ เขาค่อยๆ ปล่อยตัวนางลงพื้น แล้วจัดเสื้อผ้าให้นางอย่างช้าๆ

หากว่าห้ามใจไม่อยู่จนรวบรัดครอบครองตัวนางเช่นนี้ หลังจากร่วมรักกันแล้วนางจะต้องเสียใจมากแน่นอน

เขาอยากเก็บช่วงเวลาที่งดงามที่สุดไว้ในคืนวันแต่งงานของพวกเขา!

เห็นไฟปรารถนาในดวงตาของหลีจวินค่อยๆ จางหายไป มู่หวั่นชิวก็รู้สึกเศร้าใจ…

ชาติก่อนนางเรียนรู้เคล็ดลับมามากมายถึงเพียงนั้น เหตุใดเมื่อเจอเขาแล้วกลับใช้ไม่ได้ผลเลยเล่า

ว่ากันว่าบุรุษล้วนบ้าตัณหากันทุกคนมิใช่หรือ

เหตุใดนางคิดจะใช้ตัณหาหลอกล่อขอลูกเขาสักคนจึงยากเย็นเช่นนี้

 

“อะไรนะ! คนแปดพันคนในเรือนฉางหมิ่นเป็นหน่วยกล้าตายของอิงอ๋องหรือ” ฟังรายงานจากหร่วนซีแล้ว สีหน้าของหร่วนอวี้ก็ซีดขาวทันใด “และถูกลอบฆ่าไปหมดแล้ว?”

“ขอรับ” หร่วนซีพยักหน้า “ซ่งเสียงถูกคนแอบส่งตัวกลับมาที่เมืองอันคัง ฝ่าบาททรงสอบสวนจนรู้ความจริงว่าเรื่องจวนหม่าหนิงมิใช่ฝีมือของชาวทูเจวี๋ย แต่ฉางหมิ่นเป็นคนทำ ที่จริงเขาก็ถูกส่งตัวกลับอันคังอย่างลับๆ แล้ว”

“เป็นไปได้อย่างไร” หร่วนอวี้ส่ายหน้า สีหน้าซีดขาว “เรื่องสำคัญเช่นนี้ อิงอ๋องกลับไม่บอกข้าเชียวหรือ” เสียงพูดชะงักไป เขานึกถึงเรื่องที่อิงอ๋องเคยมีคำสั่งฆ่าซ่งเสียงมาให้เขา แอบคิดในใจว่า ที่แท้อิงอ๋องก็ทรงไม่ไว้ใจข้ามาโดยตลอด เขาเกิดความรู้สึกผิดหวังขึ้นมารางๆ

“ข้าน้อยได้ยินมาว่าอิงอ๋องทรงส่งยอดฝีมือหลายสายไปลอบฆ่าฉางหมิ่นระหว่างทางไปอันคังอย่างลับๆ” กำลังพูดอยู่หร่วนซีก็ส่ายหน้า “แต่น่าเสียดาย ต่อให้ฆ่าฉางหมิ่น หรือทำลายพยานบุคคลจนหมด เชื่อว่าฝ่าบาทก็คงไม่ให้ความสำคัญกับอิงอ๋องอีกแล้วกระมัง” เขามองหน้าหร่วนอวี้อย่างกังวล “อิงอ๋องหมดอำนาจ ใต้เท้าคิดวางแผนล่วงหน้าเถอะขอรับ”

วางแผนหรือ

สีหน้าหร่วนอวี้ยังคงซีดขาว เวลาผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงส่ายหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง “นับจากท่านอ๋องแก้แค้นให้ท่านพ่อข้า ชีวิตของข้าก็เป็นของเขาแล้ว บุรุษมีชีวิตอยู่ใต้ฟ้า ตายเป็นตายสิ จะผิดสัจจะได้อย่างไร”

“แต่ว่า…” หร่วนซีร้อนใจจนใบหน้าแดงก่ำ

หร่วนอวี้โบกมือ ไม่ได้ให้เขาพูดต่อ “ซีเอ๋อร์รีบลงมือเถอะ พาคนในค่ายลับของตระกูลหร่วนออกไปจากที่เลวร้ายแห่งนี้ ไม่ว่าต้าเยี่ยจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่ากลับมาอีก!” น้ำเสียงของเขาหนักแน่น ไร้ซึ่งความลังเล

“ใต้เท้า…” หร่วนซีทรุดตัวลงคุกเข่า “ข้าน้อยยินดีติดตามร่วมเป็นร่วมตายกับใต้เท้า แม้ตายก็ไม่ไป!”

“เจ้าไปเถอะ” หร่วนอวี้ดึงตัวเขาขึ้นมา “หาสถานที่ที่มีเขาเขียวน้ำใส ซื้อไร่นาสักหน่อย ภายหน้าถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะได้มีที่ให้อยู่ด้วย” น้ำเสียงแฝงด้วยความเศร้าสลดของการพลัดพราก

ทันใดนั้นหร่วนอวี้ก็รู้สึกถึงความอ่อนล้าอย่างมาก เขาอยากพามู่หวั่นชิวไปหาสถานที่ที่มีเขาเขียวน้ำใส ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกอีก

ชาตินี้หากมีนางเคียงข้าง ชื่อเสียงลาภยศเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้

แต่ว่านางจะยอมหรือ

ภาพตรงหน้าพลันปรากฏดวงตาเย็นชาคู่นั้น หร่วนอวี้รู้สึกเจ็บปวดใจ นางเหมือนดวงดาวที่ลอยอยู่บนฟากฟ้า ไม่ว่าเขาจะพยายามเพียงใดก็ไม่อาจเอื้อมไปได้ถึง

“ใต้เท้าทำเพื่ออิงอ๋องสุดแรงกายแรงใจมาหลายปี อย่างน้อยก็ได้ทดแทนบุญคุณไปแล้ว” หร่วนซีเกลี้ยกล่อมอย่างไม่ยอมแพ้ “ใต้เท้าไปกับข้าน้อยเถอะขอรับ…” เห็นหร่วนอวี้ไม่พูดจา เขาจึงพูดต่อไปว่า “ใต้เท้าจงรักภักดีต่ออิงอ๋อง แต่ท่านอ๋องกลับสงสัยเคลือบแคลงในตัวท่าน หากท่านอยู่ที่นี่ ทุกการเคลื่อนไหวก็จะถูกใต้เท้าจั่วคอยควบคุม สู้จากไปไม่ดีกว่าหรือ”

เมื่อคิดถึงจั่วเฟิงขึ้นมาก็เห็นว่าอีกฝ่ายนับวันมีแต่จะยิ่งไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ทั้งยิ่งกำเริบเสิบสาน หร่วนอวี้นึกแล้วก็แอบถอนใจ “ใครว่าไม่ใช่เล่า ถ้าไม่มีอิงอ๋องคอยบงการ เขาจะกล้าทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร”

แต่ว่าเขาส่ายหน้า

นางยังอยู่ที่นี่ จะให้เขาจากไปได้อย่างไร

คิดถึงเรื่องคำสั่งลับที่เพิ่งได้รับมา ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้เขาสังหารมู่หวั่นชิวให้ได้

หร่วนอวี้พลันขนลุกซู่ด้วยความกลัว เพราะเรื่องธูปไหว้พระของแคว้นซีอวี้ อิงอ๋องจึงเกลียดแค้นนางยิ่งนัก ไม่ว่างานใหญ่จะสำเร็จหรือไม่ เขาก็ต้องสังหารนางให้จงได้!

ในเวลานี้ในใจอิงอ๋องคงมั่นใจแล้วว่าถ้าไม่มีมู่หวั่นชิวสักคนงานใหญ่ของเขาคงสำเร็จไปนานแล้ว!

ไม่เพียงแค่อิงอ๋องเท่านั้น หร่วนอวี้ก็คิดว่าหากไม่มีมู่หวั่นชิวคอยช่วยปรุงเครื่องหอมชั้นเลิศให้ตระกูลหลีครั้งแล้วครั้งเล่า งานใหญ่ของเขาคงสำเร็จไปแล้วเช่นกัน แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้เขาก็ยังทำร้ายนางไม่ลง ไม่อยากเห็นนางต้องเป็นทุกข์ และไม่อยากเห็นนางต้องตายไปอย่างไร้ความผิด

“ใต้เท้าไปพร้อมกับข้าน้อยเถิดขอรับ” เห็นหร่วนอวี้ขมวดคิ้วไม่พูดจา หร่วนซีก็พูดกล่อมต่อไปอย่างทุกข์ใจ

“เจ้ารีบไปเถอะ” หร่วนอวี้ส่ายหน้า “อิงอ๋องคงจะรู้เรื่องค่ายลับตระกูลหร่วนแล้ว ถ้าช้าไปเกรงว่าจะไม่ทันการ” เสียงนั้นเบาลง แต่หนักแน่นอย่างมาก

อิงอ๋องไม่เชื่อใจเขาเช่นนี้ เขายังจะถวายชีวิตให้อีกหรือ!

ได้ฟังคำพูดนี้แล้วหร่วนซีก็ปวดใจ น้ำตาแทบจะไหลลงมา สุดท้ายเขาก็พยักหน้าอย่างเด็ดขาด “ข้าน้อยจะไปทำตามเดี๋ยวนี้ รอให้จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วจะรีบกลับมาหาท่านทันที” พูดจบ ไม่รอให้หร่วนอวี้มีอาการตอบสนองใดๆ เขาก็ประกบมือขึ้น “อิงอ๋องไม่ควรค่าจะให้ใต้เท้าถวายชีวิตให้เลยสักนิด ใต้เท้าต้องรักษาตัวให้ดีนะขอรับ!”

ส่งหร่วนซีไปแล้ว หร่วนอวี้ก็หยิบจดหมายลับบนโต๊ะขึ้นมาอีกครั้ง

อ่านไปได้ครึ่งหนึ่ง เขาก็คว่ำจดหมายลงบนโต๊ะ แอบคิดในใจว่าถ้าอิงอ๋องหมดอำนาจ จวนผู้บัญชาการของข้าเกรงว่าคงเป็นที่แรกที่จะถูกกวาดล้าง ความคิดนี้แล่นผ่าน หร่วนอวี้ก็รีบลุกขึ้นทันที

เดินออกจากห้องหนังสือก็พบว่าระเบียงทางเดินนั้นเงียบสงบ องครักษ์เห็นเขาเดินออกมาจึงโค้งคำนับ “ใต้เท้า…”

หร่วนอวี้โบกมือให้พวกเขาถอยออกไป แล้วเดินไปทางเรือนด้านหลังเพียงคนเดียว

ด้วยรู้ว่าหลีจวินเป็นคู่ต่อสู้ที่เจ้าเล่ห์เพียงใด หน่วยเงาของตระกูลหลีก็คอยทำงานอย่างลับๆ อยู่ในทุกที่ หร่วนอวี้จึงไม่เคยเก็บจดหมายลับที่ติดต่อกับอิงอ๋องหรือของสำคัญมากๆ อย่างอื่นไว้ในห้องหนังสือเลย เขาสร้างห้องลับขึ้นมาที่ลานด้านหลังก็เพื่อใช้เก็บสิ่งของเหล่านี้โดยเฉพาะ

ความล่มสลายใกล้จะมาถึงแล้ว เขาต้องฉวยโอกาสที่ตนเองยังสามารถไปมาได้อย่างอิสระทำลายของเหล่านี้ทิ้งเสีย

โปรดติดตามตอนต่อไป……

7 of 7หน้าถัดไป

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com