ทดลองอ่าน Princess Syndrome ตอนที่ 4 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน Princess Syndrome ตอนที่ 4

‘อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าอีกเลย เธออยู่ในฐานะอะไร ตำแหน่งอะไร’ แม่ใหญ่กดเสียงต่ำเอ่ยปฏิเสธ โบกมือเรียกการ์ดให้ไล่แม่ไป ทำราวกับไล่สุนัขจรจัดตัวหนึ่ง

ฉันอยากใช้ชีวิตอย่างสง่างาม และไม่อยากให้แม่ผู้ให้กำเนิดต้องใช้ชีวิตอย่างเป็นความลับ…

“แม่ แม่วางใจเถอะ” ในที่สุดฉันก็ใจอ่อน ถอนหายใจออกมา “หนูจะไม่ยอมให้แม่ถูกคนอื่นรังแกเหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว”

“ซิงเฉิน…” แม่ทำเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด แววตาที่มองฉันมีร่องรอยแห่งความรู้สึกผิดจางๆ

หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วฉันก็อาบน้ำด้วยความผ่อนคลาย เมื่อสวมชุดคลุมอาบน้ำออกมาจากห้องน้ำก็เหลือบเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยนั้นมีสายไม่ได้รับกว่าสิบสาย พอตัดสายที่ไม่รู้จักออกไป ในนั้นมีสายจากคุณนายจูเลียกว่าสิบสาย อาเมิ่งซีโทรมาสามสาย เจิ้งฉู่เย่าหนึ่งสาย สายล่าสุดจากแม่ใหญ่โทรมา

เพิ่งชโลมน้ำสกัดบำรุงเส้นผมลงไปบนผมที่เปียกไม่ทันไร โทรศัพท์ก็ราวกับมีวิญญาณเร่งดังขึ้นมาอีกครั้ง

เป็นแม่ใหญ่

กดปุ่มสปีกเกอร์โฟนและปุ่มเพิ่มเสียง ฉันเช็ดผมไปด้วยพูดไปด้วย “หนูเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”

“อาบน้ำ? หลินซิงเฉิน เธอสับสนกลางวันกับกลางคืนแล้วเหรอ อาบน้ำตอนเช้าตรู่ทำไม”

ฉันส่งเสียงโอ้ออกไปแล้วตอบเธอกลับหนึ่งประโยค “คุณไม่รู้เหรอว่าคนต่างประเทศอาบน้ำตอนเช้ากันทั้งนั้น”

“พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย” เสียงของหญิงแกร่งที่ไม่แยแสและเย็นชาดังออกมา “สินค้าใหม่ที่กลุ่มบริษัทดอลลี่จะวางขาย ฉันวางแผนวางตัวให้เธอกับเจิ้งฉู่เย่าถ่ายรูปโฆษณา”

“หนู? ถ่ายโฆษณา?” ใช้ภาพลักษณ์คุณหนูดื้อรั้นที่ใช้เงินตระกูลอย่างฟุ่มเฟือยของฉันเนี่ยนะ? ผู้หญิงคนนี้มีเงินเยอะเกินไปจนไม่มีที่จะเอาไปใช้แล้วหรือยังไง

“ฉันกับฝ่ายการตลาดหารือกันเรียบร้อยแล้ว รองเท้ายี่ห้อใหม่อย่าง ‘ซาลีร์’ มีลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น พุ่งเป้าสามด้านใหญ่คือดึงดูดวัยรุ่นในโรงเรียน กิจกรรมนันทนาการยามว่าง ออกกำลังกระฉับกระเฉง…” น้ำเสียงของแม่ใหญ่เป็นงานเป็นการขึ้นมา “คณะกรรมการบริษัทก็ได้ประเมินแล้ว รูปร่าง อายุ จุดเด่นของพวกเธอต่างก็เหมาะสม รวมถึงวัยรุ่นปกติส่วนใหญ่จะมีความคาดหวังเกี่ยวกับชีวิตคุณหนูคุณชายของตระกูลไฮโซ การทำงานของสื่อนับว่าไม่เลวเลย ไม่เสียทีที่มีข่าวออกมา”

“หยุด! หยุด! ทำไมไม่ไปหาไอดอล คนดังบนโลกออนไลน์ล่ะคะ” ฉันแนะนำอย่างสุดกำลัง “เหมือนกับนักแสดงวัยรุ่นชายคนนั้นที่ช่วงนี้แสดงเรื่อง ‘เจ้าพ่อตลาดหุ้น’ รูปร่างแข็งแรง สดใสและยังร้องเต้นได้…” เทียบกับจอมโมโหร้ายเจิ้งฉู่เย่าที่สาดน้ำใส่ฉัน ไม่ว่าใครก็ดีกว่าเขาร้อยเท่า!

“คนนอกที่ไหนจะควบคุมได้ง่ายอย่างเด็กในบ้าน” แม่ใหญ่พูดแทรกคำพูดฉันขึ้นมา “ดาราดังบนเวทีหน้าตาท่าทางดูดี แต่ข้างล่างเวทีจะทำอะไรเราไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย ถ้าเกิดเป็นข่าวฉาวขึ้นมา สิ่งที่ต้องสูญเสียก็คือภาพลักษณ์สินค้าใหม่กับชื่อเสียงกลุ่มบริษัทดอลลี่!”

“ก้าวก่ายได้หรือไม่ได้เป็นเรื่องของพวกคุณ อย่าเอาสิ่งที่พิจารณาแค่ด้านเดียวมาวางไว้บนหัวหนู ยังไงหนูก็ไม่มีทางเห็นด้วย!”

“ฉันได้ถามความเห็นจากเธองั้นเหรอ” แม่ใหญ่หัวเราะเยาะ “ฉันแค่บอกเธอให้รู้ถึงเรื่องนี้”

ฉันกัดฟันกรอด “เจิ้งฉู่เย่าก็ไม่มีทางตอบตกลงแน่!”

“เขาจะตอบตกลงแน่” แม่ใหญ่เอ่ยอย่างเฉยเมย “ทางสกุลเจิ้งฉันจัดการเอง”

ฉันเงียบไปสักพัก ครุ่นคิดอย่างละเอียดถึงคำพูดนั้น ในใจเกิดความรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมา

แม่ใหญ่พูดอย่างไม่รีบร้อน ราวกับว่าในมือของเธอมีข้อมูลใช้ต่อรองเจิ้งฉู่เย่าได้

“อีกอย่าง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องเธอที่สถานีตำรวจเมื่อคืน ฉันต้องลำบากมากมายกว่าจะปิดข่าวได้ ตอนนี้เธอก็ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าสร้างปัญหา”

ช่างเถอะ ตัวฉันเองก็ยังไม่มีอำนาจพอที่จะปกป้องตนเองได้ แล้วจะเป็นห่วงเจิ้งฉู่เย่าไปอีกทำไม

 

เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคุณหนูที่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ชอบจำกลางวันกับกลางคืนสลับกัน ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่รู้จักพัฒนา ให้เป็นสาวน้อยสดใสร่าเริง แข็งแรงมีพลัง มีการพัฒนา…พูดให้กระชับหน่อยก็คือเพื่อเฝ้าสังเกตฉัน แม่ใหญ่ได้จัดหลักสูตรฝึกฝนให้ฉันยกใหญ่

น่าเสียดาย คุณหนูคนนั้นมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางการเป็นเศรษฐีใหม่ที่ผลาญเงินครอบครัว เวลาเรียนมักจะไม่กระตือรือร้น ถ้าไม่ไปเฝ้าเง็กเซียนก็ทำหน้าโง่ ดวงตาเหม่อลอย หรือไม่อย่างนั้นก็แสร้งปวดหัว ปวดตา ปวดหู เจ็บปาก ปวดฟัน…คิดทุกวิถีทางเพื่อหลบหนี

มีเพียง ‘วันสังเกตและศึกษาแบรนด์’ เท่านั้นที่ตั้งใจอย่างจริงจัง เพราะสะสมประสบการณ์ความเข้าใจมากเกินไป ฉันกับกลุ่มแฟนคลับจึงเปิดบล็อกหนึ่งขึ้นมาใหม่ โพสต์พวกสไตล์แฟชั่น บทความเกี่ยวกับคุณภาพของ ล้างสมองสาวชนชั้นกลางที่ภูมิหลังครอบครัวไม่ค่อยอู้ฟู่ ซินเดอเรลล่า สาวโพสต์อิต ว่าซื้อของแบรนด์เนมอย่างไรจึงจะคุ้มค่า ของที่มีข้อด้อยไหนควรหลีกเลี่ยง ของนำเข้าอันไหนที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด…เวลาที่อารมณ์ดียังแบ่งปันรูปภาพอาหารชั้นเยี่ยมที่เคยกิน รวมถึงปาร์ตี้และโพสต์ภาพเซ็กซี่หน้าอกโตหลายภาพให้เพื่อนในอินเตอร์เน็ตน้ำลายหก มองได้แต่กินไม่ได้…

ส่วนใหญ่เป็นทัศนคติอวดรวย อวดสวย พูดด้วยความสัตย์จริง มันดูไม่มีค่าเลยจริงๆ

บางทีแม่ใหญ่อาจพูดถูก คนธรรมดามีความคาดหวังเกี่ยวกับวิถีชีวิตของไฮโซผู้ดีไม่มากก็น้อย ตัวเลขในบัญชีกระแสรายวันของฉันดึงดูดคนจำนวนมากให้เหลือบมองดู ชั่วพริบตาจำนวนแฟนคลับก็เพิ่มอย่างก้าวกระโดด หลังจากนั้นยังได้รับคำเชิญจากนิตยสารผู้หญิงมากมายที่พยายามเชิญให้ไปสัมภาษณ์รายการพิเศษเกี่ยวกับการแต่งหน้าแต่งตัวของผู้หญิง

เรื่องจิปาถะทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย กินเวลาที่ฉันมีไปทั้งหมด จนกระทั่งพบว่าฉันไม่ได้ยินข่าวใดๆ เกี่ยวกับเจิ้งฉู่เย่าตลอดสองเดือนเต็ม

วันนั้นเจิ้งฉู่เย่าสุดหล่อลากอวี๋ยางยางเดินจากไป ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นทั้งคู่เป็นอย่างไร

และอวี๋ยางยางยังไปรับเจียงเนี่ยนอวี่ เสียงเรียก ‘เสี่ยวอวี่’ ที่อ่อนหวานยืดยานนั้นทำให้ฉันรู้สึกสนใจมาก ไม่รู้ว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่

นอกจากชื่อ นอกจากเขาที่แต่งตัวเป็นเฮลโล คิตตี้ตัวนั้น ฉันก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย

เจียงเนี่ยนอวี่ เสี่ยวอวี่…ฉันกับเขาจะได้เจอหน้ากันอีกไหมนะ

ฉันเปิดตู้เครื่องประดับด้วยใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วางแผนไว้ว่าจะเลือกสร้อยคอเข้าคู่กับชุดเดรสสีดำของซาร่า ระหว่างหาอยู่ก็ส่งเสียง ‘หือ’ ออกมา

กิ๊บติดผมรูปมงกุฎประดับคริสตัลสวารอฟสกี้ที่ฉันใส่ในงานเลี้ยงวันนั้นหายไปแล้ว!

ทำหายตอนที่ตกน้ำไป? หายในสระว่ายน้ำหรือบริเวณงานเลี้ยงกัน? มีคนเก็บไปรึยังนะ

หาอยู่สักพักฉันก็ไม่อยากหาแล้ว เกิดความรู้สึกว่าจะต้องมีสักวันที่เครื่องประดับผมชิ้นนั้นจะกลับมาหาฉันอีกครั้งขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ไม่รู้ว่าความมั่นใจนี้มาจากไหน เป็นสัญชาตญาณบางอย่างที่อธิบายไม่ได้

ใช้ชีวิตเป็นเด็กดีมานานแล้ว ช่างน่าเบื่อและไม่มีชีวิตชีวาเลย

ฉันทำตัวดีมาระยะหนึ่ง วันนี้เป็นคืนสุดสัปดาห์ แม่ใหญ่ไปร่วมงานสำคัญงานหนึ่ง พาบอดี้การ์ดส่วนใหญ่ไปด้วย ลุงเต๋อพ่อบ้านกับคุณป้าแม่บ้านก็พักผ่อนกันแล้ว…โอกาสดี!

หลังจากติดอาวุธเต็มยศ ฉันก็พอใจกับการแต่งตัวของตนเองเป็นอย่างมาก วิกผมปลอมสั้นสีชมพูเรืองแสงเข้ากันกับกระโปรงสุดสั้นสีชมพูนีออนของมอสกีโน วันนี้แต่งตัวแต่งหน้าสไตล์ EDM อย่างเห็นได้ชัด

ตอนที่ก้าวเท้าออกจากห้องพลันนึกขึ้นได้ว่าจะเหลือสลิปบัตรเครดิตเอาไว้ให้แม่ใหญ่จับได้ตอนจ่ายบิลไม่ได้ ดังนั้นจึงคว้าเงินธนบัตรใส่เต็มกระเป๋าสะพายใบเล็กมีพู่ห้อยของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์ ถือโอกาสช่วงเวลาสั้นๆ ตอนยามหน้าประตูใหญ่เปลี่ยนกะ ค่อยๆ ลอบออกจากคฤหาสน์แล้ววิ่งสุดชีวิต โบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง การหลบหนีสำเร็จ!

Comments

comments

Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 3

บทที่ 3 ความผิดพลาด+ใต้แสงจันทร์ แม้สิ่งที่ไทเฮากล่าวจะเป็นประโยคคำถาม แต่ซูโม่อี้ก็รู้ว่านางไม่ได้มีความตั้งใจจะถามเขาเ...

community.jamsai.com