เหล่าคนในวังที่คุ้นเคยกันดี บางครั้งบางคราวก็จะเอ่ยถึงพระโอรสที่เกิดจากพระสนมผู้นั้นบ้างเล็กน้อย ฉีซู่รู้ว่าเขาได้รับแต่งตั้งเป็นจิ้นอ๋อง รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหาร
เป่ยฝู่เป็นสถานที่ก่อตั้งราชวงศ์ กอปรกับหลายปีมานี้ฮ่องเต้มีพระประสงค์จะใช้กำลังทหารกับชนเผ่าตี๋เหนือ ประตูสู่ภาคเหนือแห่งนี้จึงยิ่งมีความสำคัญมาก เพราะเหตุนี้ฮ่องเต้จึงทรงแต่งตั้งพระโอรสไปประจำการที่นั่นเพื่อเสริมความเข้มแข็งในการควบคุมทางภาคเหนือ ตอนแรกเพียงรับตำแหน่งไม่ได้ไปประจำการ กระทั่งจิ้นอ๋องอายุครบสิบสอง จึงเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมขุนนางผู้ช่วยที่ฮ่องเต้ทรงคัดเลือกไว้
ฉีซู่มองหลี่เฉิงเพ่ยอย่างงงๆ ไม่รู้ควรพูดอะไรดี ตอนอยู่กับครอบครัวนางเป็นลูกโทน ไม่เคยแยกจากมารดาแม้ชั่วขณะ ยามบิดามีเวลาว่างก็ยินดีจะอยู่เป็นเพื่อนนาง ฮ่องเต้กับฮองเฮาแม้จะทรงรักใคร่รัชทายาท แต่ก็มักถูกเรื่องโน้นเรื่องนี้เกี่ยวพันไว้ มีเวลาอยู่กับรัชทายาทน้อยจนน่าสงสาร ฉีซู่อดเห็นใจรัชทายาทขึ้นมาไม่ได้ แม้เขาจะเป็นพระโอรสที่มีแต่คนรักและตามใจ แต่ความจริงแล้วกลับโดดเดี่ยวยิ่งนัก คิดมาถึงตรงนี้นางก็ไม่เก็บเรื่องไร้มารยาทต่างๆ ที่เมื่อก่อนรัชทายาทเคยทำมาใส่ใจอีก
“ความจริงหม่อมฉันก็เช่นกัน” นางเอ่ยเบาๆ “หม่อมฉันไม่มีพี่น้อง ท่านลุงท่านอาพี่น้องของท่านพ่อต้องพลอยเดือดร้อนเพราะท่านพ่อถูกลดตำแหน่ง ไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งหลายปี จึงไม่อยากไปมาหาสู่กับพวกเราอีก ญาติผู้พี่ที่บ้านท่านลุงพี่ชายของท่านแม่กลับดีมาก แต่หม่อมฉันไร้วาสนา ได้อยู่ร่วมกับพวกเขาแค่ไม่กี่วัน แต่…เรื่องของหม่อมฉันไม่คู่ควรแก่การนำมาเปรียบเทียบกับรัชทายาท…”
นางไม่ได้ยินเสียงตอบ พอหันหน้าไปมอง ก็พบว่าหลี่เฉิงเพ่ยเอียงพับหลับไปบนตั่งแล้ว
ฉีซู่ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี แต่นางก็ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนเขา ค่อยๆ เอาผ้าห่มปักลายคลุมให้เขา แล้วนั่งเฝ้าอยู่ข้างตั่ง นั่งอยู่ครู่หนึ่ง ความง่วงก็เริ่มจู่โจมเข้ามา นางจึงผล็อยหลับไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
หลี่เฉิงเพ่ยตื่นขึ้นมา เห็นฉีซู่ขดตัวนอนอยู่ข้างเท้าเขาราวกับลูกแมวตัวหนึ่ง จึงหัวเราะแล้วปลุกนางให้ตื่น “ลุกขึ้นๆ”
ฉีซู่ตกใจตื่น ถึงได้รู้ว่าตนถึงกับเผลอหลับไปต่อหน้ารัชทายาท นี่เป็นเรื่องเสียมารยาทอย่างมาก นางรีบหมอบลงกับพื้น “รัชทายาทโปรดอภัยโทษ”
หลี่เฉิงเพ่ยกลับมีท่าทีงงงวย “อภัยโทษอะไรกัน เจ้าทำอะไรหรือ”
ฉีซู่พูดติดๆ ขัดๆ “หม่อม…หม่อมฉัน…”
หลี่เฉิงเพ่ยตบมือหัวเราะลั่น “ตัวเจ้าเองยังไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรผิด แล้วข้าจะอภัยโทษเจ้าได้อย่างไร ลุกขึ้นมาเถิด”
เขาดึงฉีซู่ให้ลุกขึ้นมา
ฉีซู่ยืนขึ้น เดินตามหลังหลี่เฉิงเพ่ยไปทุกฝีก้าว หลี่เฉิงเพ่ยหยิบจับข้าวของในห้องของนางอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็มองท้องฟ้า แล้วย่นหัวคิ้ว “แย่แล้ว ข้าแอบออกมาหาเจ้า คิดไม่ถึงว่าจะเผลอหลับอยู่ที่นี่เสียนาน ป่านนี้คนอื่นๆ คงกำลังเที่ยวตามหาข้าไปทั่วแน่แล้ว”
ฉีซู่ได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจแทนเขาขึ้นมา “วังกลางคงร้อนพระทัย รัชทายาทรีบกลับไปเถิด”
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร” หลี่เฉิงเพ่ยเอ่ย “กลับไปตอนนี้ต้องโดนพระมารดาดุว่าแน่ อีกอย่างเจ้ายังไม่ได้เล่นเป็นเพื่อนข้าเลย”
“แต่ว่าวังกลาง…”
หมูกระต่าย
พฤศจิกายน 2, 2017 at 4:17 PM
อยากอ่านแล้วค่าาาา รอนะค้าาา