เด็กชายเห็นฉีซู่จ้องมองเขาอย่างทึ่มทื่อ คล้ายยิ่งนึกสนุก หันไปมองผู้รับใช้ฝ่ายใน “ให้นางอยู่เล่นกับข้าสักพักก่อน”
ผู้รับใช้ฝ่ายในมีท่าทีลำบากใจ ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนกล่าว “เอ้อ…วังกลางทรงกำลังรอนางอยู่ ให้กระหม่อมพานางไปเข้าเฝ้าก่อน ค่อยให้นางมาเล่นกับรัชทายาท ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“เสียอารมณ์!” เด็กชายปล่อยตัวฉีซู่ด้วยท่าทางขัดอกขัดใจ “ไปเถิด!”
ฉีซู่ฟังจากคำพูดของผู้รับใช้ฝ่ายในก็รู้ว่าเด็กชายผู้นี้จะต้องเป็นรัชทายาทองค์ปัจจุบันแน่นอน เมื่อเขาปล่อยมือจากนาง นางจึงรีบยอบตัวลงทำความเคารพ เด็กชายกลับทำเหมือนไม่เห็นและหมุนตัวไปตะโกนบอกนางกำนัลที่อยู่รอบๆ “เมื่อครู่ไม่นับ เรามาเล่นกันใหม่!”
ลาจากรัชทายาทมา ผู้รับใช้ฝ่ายในก็พาฉีซู่มาถึงตำหนักของฮองเฮา
เวลานี้ฮองเฮากำลังสวดมนต์ไหว้พระ คนในตำหนักจึงพาฉีซู่มาที่หน้าห้องพระ กระทั่งฮองเฮาสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ จึงมีคนมาพาฉีซู่เข้าไปข้างใน พอเข้าไปในห้องพระ ฉีซู่ก็หมอบกราบฮองเฮาตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้รับใช้ฝ่ายในสอนมา
ฮองเฮาใช้สายตาเจือการตรวจสอบมองประเมินฉีซู่ คงเพราะเติบโตอยู่ที่ชายแดนทางใต้เป็นเหตุ เด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้จึงดูออกจะผอมซีด ปีนั้นหานหล่างอยู่ในเมืองหลวงก็ได้ชื่อว่าหน้าตาดีเหนือผู้อื่น ภรรยาของเขาหญิงสกุลซูก็เป็นสาวงามที่ปราดเปรื่อง บุตรสาวของพวกเขากลับงดงามไม่มากพอ เรื่องนี้ทำให้ฮองเฮาอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ ทว่าเมื่อฮองเฮาทรงพินิจดูรูปโฉมของนางอย่างละเอียด ก็ยังพอเห็นเค้าหน้าของบิดามารดาบนตัวนางได้ ทั้งท่าทีการหมอบกราบของฉีซู่ทำได้อย่างเหมาะสม ที่บ้านคงอบรมมาดี นับว่าทำให้ฮองเฮาวางพระทัยลงได้หลายส่วน
ฮองเฮากวักพระหัตถ์เรียกฉีซู่ “มา มาที่ข้างกายข้า”
ฉีซู่คลานเข้าไปข้างหน้าหลายก้าว ฮองเฮาจับมือนาง แสดงท่าทีอย่างนุ่มนวลให้นางลุกขึ้น ฉีซู่จึงถือโอกาสนี้มองฮองเฮาเต็มตา ฮองเฮาอายุประมาณสี่สิบกว่า พ้นช่วงวัยงดงามที่สุดไปแล้ว แต่ยังคงมีท่วงทีสง่างามละเมียดละไม เวลาสวดมนต์ไหว้พระฮองเฮาจะไม่พบคนนอก จึงแต่งตัวตามสบาย เกล้าผมเป็นมวยสูงคล้ายหอยสังข์ ประดับด้วยไข่มุกและหยกแข็งอยู่ห่างๆ กันสองจุด ฉลองพระองค์ตัดเย็บมาจากผ้าไหมทอ แพรต่วน ช่วงบนเป็นเสื้อตัวสั้นแขนแคบสีขาว คลุมด้วยเสื้อแขนครึ่งท่อนสีเหลือง แล้วคลุมทับด้วยผ้าคลุมไหล่สีแดงอมน้ำตาล ช่วงล่างสวมกระโปรงผ้าเจ็ดชิ้นยาว* สีแดงสลับขาว นอกจากชายกระโปรงมีลายเมฆเคลื่อนที่เขียนด้วยผงทองผสมสีน้ำมันแล้ว ก็ไม่มีลวดลายประดับอย่างอื่นอีก การแต่งตัวเช่นนี้สำหรับผู้ที่อยู่ในตำแหน่งวังกลางแล้วออกจะเรียบง่ายไปสักหน่อย แต่นางท่าทางสงบเยือกเย็น อากัปกิริยาสุภาพนุ่มนวล ทั้งมีท่วงทำนองของความสูงศักดิ์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดอย่างหนึ่ง ทำให้ฉีซู่ไม่รู้สึกคลางแคลงในฐานะความเป็นมารดาของแผ่นดินของนาง
“เจ้าชื่ออะไร” ฮองเฮาแย้มพระสรวลพลางตรัสถาม
“ชื่อเล่นในสมัยเด็กของหม่อมฉันคือฉีซู่เพคะ”
“ชื่อน่าเอ็นดู อายุเท่าไร”
“ปีนี้เก้าขวบเพคะ”
“เกิดเดือนอะไร”
“เดือนสามเพคะ”
“เดือนสาม” ฮองเฮาแย้มพระสรวล “อายุน้อยกว่ารัชทายาทหลายเดือน เป็นคนที่ใด”
* กระโปรงผ้าเจ็ดชิ้นยาว คือกระโปรงที่ต่อจากผ้าสองสีหรือมากกว่าสองสีขึ้นไป มีตั้งแต่สีแดงเขียว แดงเหลือง แดงขาว เป็นต้น
หมูกระต่าย
พฤศจิกายน 2, 2017 at 4:17 PM
อยากอ่านแล้วค่าาาา รอนะค้าาา