คืนนั้นหลังจากกินอาหารกับโหยวเต๋อโย่วแล้ว โหยวเต๋อโย่วกับฮูหยินก็กำชับโหยวเหมี่ยวหลายเรื่อง โหยวเหมี่ยวฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ฟังเข้าหูไม่ถึงสามส่วนด้วยซ้ำ ในสมองขบคิดแต่เรื่องนี้ เมื่อกลับห้องไปก็พบว่าหลี่จื้อเฟิงยืนตัวตรงรอเขาอยู่หน้าทางเดินแล้ว
ดวงตาของหลี่จื้อเฟิงฉายแววเย็นชา ถอดเสื้อให้โหยวเหมี่ยวจนเหลือแค่เสื้อคลุมตัวในกับกางเกง โหยวเหมี่ยวล้มตัวลงบนเตียงแล้วขยับเข้าไปนั่งด้านใน หลี่จื้อเฟิงเอ่ยว่า “บอกก่อนนะว่าเวลาอยู่บนเตียงต้องเชื่อฟังข้า”
โหยวเหมี่ยวรับคำ
หลี่จื้อเฟิงขยับมือปลดชุดตัวเอง ถอดเสื้อคลุมตัวนอกกับเสื้อตัวสั้นท่อนบน เผยให้เห็นแผงอกสีทองแดง กล้ามเนื้องดงามมาก โหยวเหมี่ยวมองแล้วลอบกลืนน้ำลายอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ หลี่จื้อเฟิงปลดผ้าคาดเอว กางเกงหลุดร่วงลงพื้น ส่วนที่อยู่ตรงหว่างขาเริ่มตื่นตัวนิดๆ ท่อนขายาวแข็งแกร่งก้าวขึ้นเตียง นั่งลงข้างกายโหยวเหมี่ยวแล้วยื่นมือไปโอบกอดโดยไม่ปริปากพูดสักคำ
หัวใจของโหยวเหมี่ยวเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ อยากผละถอยห่าง ตอนเบือนหน้าหลบก็รับรู้ได้ว่าท่อนแขนทรงพลังของหลี่จื้อเฟิงกำลังกอดกระชับรอบเอวตัวเอง ส่วนมืออีกข้างสอดเข้ามาในสาบเสื้อตัวสั้นท่อนบนอย่างถือวิสาสะ
โหยวเหมี่ยวตกตะลึง ทำท่าจะคว้ามืออีกฝ่ายไว้แต่หลี่จื้อเฟิงไม่ยอมให้เขาขัดขืนพร้อมก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปาก
“อื้อ!”
หลี่จื้อเฟิงประกบปากแนบสนิทแต่ดวงตาทั้งสองข้างกลับจ้องมองเขาเขม็ง มือข้างหนึ่งลูบไล้แผ่นอกของโหยวเหมี่ยวขึ้นลงและสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากโดยไม่เปิดโอกาสให้เขามีเวลาขบคิด ชั่วขณะนั้นโหยวเหมี่ยวรู้สึกแปลกๆ เขามีชีวิตมาสิบห้าปีเพิ่งเคยใกล้ชิดแนบแน่นกับบุรุษถึงเช่นนี้เป็นครั้งแรก หน้าตาจึงแดงก่ำไปหมด อยากผลักไสอีกฝ่ายออกห่าง แต่หลี่จื้อเฟิงกลับรุกไล่จู่โจมเข้ามาทำลายสติของเขา
ตอนริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกัน หลี่จื้อเฟิงมองสบตาเขา
ทว่าโหยวเหมี่ยวนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้เคยรับปากแล้วว่าจะเชื่อฟังอีกฝ่ายทุกอย่าง ดังนั้นจึงยอมนอนนิ่งๆ หลี่จื้อเฟิงก้มลงจุมพิตซ้ำอีกครั้ง จมูกของโหยวเหมี่ยวได้กลิ่นกายจางๆ ของหลี่จื้อเฟิง นั่นเป็นกลิ่นกายจากเรือนร่างแข็งแกร่งและเปลือยเปล่าของบุรุษหนุ่ม ทั้งหอมและเร้าอารมณ์อย่างประหลาด หลี่จื้อเฟิงพร่างพรมจุมพิตลงบนใบหน้า ก่อนประกบปิดริมฝีปากของโหยวเหมี่ยวอีกครั้ง คราวนี้จุมพิตเนิ่นนานจนเขาแทบหายใจไม่ออกและต้องกลืนน้ำลายไม่หยุด
โหยวเหมี่ยวเกาะกุมไหล่ของหลี่จื้อเฟิง รับรู้ได้ว่าฝ่ามือหยาบใหญ่ของอีกฝ่ายกำลังลากไล้ลงไปด้านล่าง จากนั้นกระชากเสื้อตัวบางและดึงผ้าคาดเอวทิ้ง ก่อนสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปสัมผัสตัวตนที่อยู่ตรงหว่างขาของเขา ส่วนอ่อนไหวที่กำลังขยายตัวของโหยวเหมี่ยวโดนหลี่จื้อเฟิงเกาะกุมไว้ในอุ้งมือ ทุกครั้งที่อีกฝ่ายขยับหยอกเย้าก็ทำให้เขาสั่นสะท้านและหดเกร็งไปทั้งตัว
ตอนริมฝีปากผละออกจากกัน ใบหน้าของเด็กหนุ่มก่ำสีเลือด น้ำตาเอ่อคลอตรงหางตา หลี่จื้อเฟิงเคลื่อนไหวมือไม่หยุด มือหนึ่งกอดรัดเอวบาง ส่วนอีกมือก็นวดคลึงโหยวเหมี่ยวด้วยปลายนิ้วอย่างเบามือ ทั้งคลึงเคล้าทั้งบดขยี้จนในที่สุดโหยวเหมี่ยวก็หลั่งหยาดน้ำวิสุทธิ์ออกมา
“ดะ…เดี๋ยว” โหยวเหมี่ยวรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นของเล่นของอีกฝ่าย มือไม้ของหลี่จื้อเฟิงคล่องแคล่วว่องไวเหลือเกิน จงใจลงมือกระตุ้นหยอกเย้าตรงส่วนไวสัมผัสที่สุดของเขา พอโหยวเหมี่ยวเบือนหน้าหลบ อีกฝ่ายกลับก้มลงจุมพิตซอกคอ และถูไถปลายจมูกโด่งกับใบหูเขาไปมา
AnAn
สิงหาคม 28, 2017 at 7:30 AM
เฮือก ตัดกันตรงนี้เหรอคะ?!โหดร้ายมาก!!!
Jamsai Editor
สิงหาคม 28, 2017 at 4:48 PM
รอติดตามบทที่ 2.2 พรุ่งนี้นะคะ
Nuch
ตุลาคม 9, 2017 at 2:26 AM
ภาษาสวยเรื่องสนุกมาก
Jamsai Editor
ตุลาคม 25, 2017 at 12:06 PM
อย่าลืมไปซื้อแพ็ค 3 เล่มที่งานมหกรรมหนังสือฯ มาอ่านด้วยนะคะ
wanida
ตุลาคม 27, 2017 at 9:20 PM
วันนี้ไปดูหนังสือมาแต่ตังไม่พอเสียดายมาก
Jamsai Editor
ตุลาคม 30, 2017 at 10:58 AM
ในเว็บก็ยังมีสินค้าอยู่นะคะ ^^