ทดลองอ่านนิยายวาย ปราชญ์กู้บัลลังก์ บทที่ 5.2 #นิยายวาย – หน้า 10 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่านนิยายวาย ปราชญ์กู้บัลลังก์ บทที่ 5.2 #นิยายวาย

ตัวเองตกอับจนต้องฝากชีวิตไว้กับทาสคนหนึ่ง ช่างเป็นเรื่องที่ชวนให้รู้สึกปวดร้าวใจไม่น้อย แต่ถ้าจะมีความพิเศษก็พิเศษตรงที่ทาสคนนั้นเป็นหลี่จื้อเฟิง และเขาก็ไม่เหมือนบ่าวไพร่ทั่วไป ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น อย่างสือฉีเอ๋อร์ มู่ฉีเอ๋อร์…โหยวเหมี่ยวคงบ่นโวยวายอยู่พักหนึ่ง เพราะแค่เห็นหน้าบ่าวรับใช้ก็รำคาญใจแล้ว

แต่หลี่จื้อเฟิงไม่เป็นเช่นนั้น โหยวเหมี่ยวก็รู้สึกขันตัวเองเหมือนกัน วันเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับหลี่จื้อเฟิง ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนเล่นสร้างครอบครัว ดูน่าสนุกอย่างบอกไม่ถูก

บางทีตอนหลี่จื้อเฟิงอยู่นอกด่านอาจจะใช้ชีวิตเหมือนคุณชายคนหนึ่งก็เป็นได้ เพราะดูจากการพูดจา กิริยาท่าทาง โหยวเหมี่ยวลอบรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าคนผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา

ครู่ต่อมา ไฟในห้องโถง ห้องนอน และห้องหนังสือก็ถูกจุดสว่าง แม้บ้านหลังใหญ่จะมีคนอาศัยอยู่แค่สองคน แต่กลับรู้สึกอบอุ่นมาก เจ้าดำวิ่งตามติดข้างเท้า โหยวเหมี่ยวไปที่ไหน มันก็วิ่งตามไปที่นั่น

โหยวเหมี่ยวรู้สึกหิวมาก ตอนกลางวันกินบะหมี่ไปนิดเดียว ตลอดทั้งวันก็ไม่มีอะไรลงท้องเลยด้วย พอเดินกลับเข้าไปในบ้านก็ได้กลิ่นไหม้

“…”

“…”

มีข้าววางอยู่บนโต๊ะ ข้าวนึ่งสุกดี เรียงตัวเป็นเม็ดสวย ส่งกลิ่นหอมของข้าวออกมา น้ำแกงเห็ดฟางก็พอดูได้ โรยต้นหอมสับเล็กน้อย แต่เนื้อผัดกลับดำเมี่ยมเหมือนก้อนถ่าน ผักกวางตุ้งก็โดนผัดจนเหลือนิดเดียววางแหมะอยู่ตรงกลางจาน

“ฮ่าๆๆๆๆ…”

หลี่จื้อเฟิงพูดอะไรไม่ออก โหยวเหมี่ยวหัวเราะจนน้ำตาเล็ด แต่ไม่ได้บ่นอะไร แค่บอกว่า “นั่งลงเถอะ”

“ฟืนไฟไม่มีคนดู” หลี่จื้อเฟิงตอบ

“ไม่เป็นไรๆ”

หลี่จื้อเฟิงจัดเก้าอี้แล้วยืนอยู่ด้านหลังเพื่อคอยปรนนิบัติโหยวเหมี่ยวกินข้าว แต่โหยวเหมี่ยวดึงมือเขาแล้วพูดว่า “เจ้ามากินเถอะ ไม่ต้องรักษากฎระเบียบอะไรมากมาย”

“ไม่ได้ เจ้าเป็นเจ้านาย”

“อย่าพูดมาก” โหยวเหมี่ยวสั่ง “ในสวนเสิ่นมีแค่เราสองคน กินเถอะ ไม่มีใครกินข้าวเป็นเพื่อน น่าเบื่อจะตาย ข้าคงกินไม่ลง”

หลี่จื้อเฟิงได้ยินดังนั้นค่อยทรุดตัวลงนั่งแล้วเช็ดชามให้โหยวเหมี่ยว แต่โหยวเหมี่ยวพูดต่อว่า “เอาให้เจ้าดำกินด้วย”

จากนั้นหลี่จื้อเฟิงก็ลุกขึ้นตักน้ำแกงเห็ดฟางคลุกข้าวเล็กน้อย เจ้าดำก้มหน้าก้มตากินข้าวในชาม เขมือบลงท้องอย่างตะกละตะกลาม โหยวเหมี่ยวยังไม่ยอมขยับตะเกียบ นั่งมองดูมันแล้วหัวเราะร่วน

“กินเถอะ” หลี่จื้อเฟิงตักข้าวให้โหยวเหมี่ยวแล้วบอกว่า “ขอเวลาข้าศึกษาไม่กี่วัน เดี๋ยวก็ค่อยๆ ทำได้เอง”

โหยวเหมี่ยวยิ้มแล้วลองชิมดู “เค็มนิดหน่อย”

หลี่จื้อเฟิงรับคำ ลองกินดูคำหนึ่งแล้วทำหน้าพิลึกดูไม่ได้

“ข้าจะไปที่บ้านหลี่จวง ทอดไข่มาสักสองใบ” หลี่จื้อเฟิงผุดลุกขึ้น

“ช่างเถอะๆ อย่าไปรบกวนคนอื่นเลย มากินเถอะ ผักเค็มกินกับข้าวกำลังดี”

Comments

comments

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com