ทดลองอ่าน REDMOON SYNDROME บทที่ 1 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

overgraY

ทดลองอ่าน REDMOON SYNDROME บทที่ 1 #นิยายวาย

แม้จะต้องทำงานจริงตั้งแต่วันแรก ไม่มีช่วงเวลาให้ศึกษาหรือฝึกงานอะไรเลย แต่ชางอีก็มุ่งมั่นและตั้งใจมาก ตามที่ยอนฮีบอกไว้ว่างานนี้เป็นงานของผู้ช่วยนักสืบที่ต้องคอยจดบันทึกและอัดเสียงสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามพูด ก็ไม่น่าจะยากสักเท่าไหร่

ชางอีเช็กเครื่องบันทึกเสียงที่ยอนฮีให้ไว้อีกครั้งก่อนจะหย่อนลงในกระเป๋าเสื้อโค้ต ยอนฮีบอกว่าอาชินเป็นคนเจ้าระเบียบมาก แต่ถ้าปรับตัวได้ก็ไม่มีปัญหา และถึงแม้ว่าจะเป็นคนดื้อดึงแต่ก็มีเหตุผล

ขณะที่กำลังยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น อาชินก็เดินมาที่ลานจอดรถ คืนนี้มีทั้งฝนตกและฟ้าร้อง แต่อาชินกลับใส่เพียงแค่เสื้อคลุมบางๆ เพียงตัวเดียว

“ต่อให้ไปพบคนที่เกลียดมากขนาดไหน ยังไงก็ควรแต่งตัวให้เหมาะสม คุณใส่แค่นั้นไม่หนาวแย่เหรอครับ”

“ไม่ต้องมายุ่ง”

“แต่คุณควรแต่งตัวให้เหมาะกับอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงนะครับ”

แล้วชางอีก็คลายผ้าพันคอของตัวเองไปพันให้ อาชินจึงกัดกรามพร้อมกับทำหน้าสะอิดสะเอียนเต็มที่

พอกดรีโมตปลดล็อก รถแกรนด์แอดเวนเจอร์สีเงินก็มีไฟกะพริบขึ้นก่อนประตูจะถูกเปิดออก อาชินขึ้นนั่งฝั่งข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย แล้วเริ่มอ่านเอกสารสรุปคดีที่ชางอีส่งให้

ส่วนชางอีก็ขึ้นนั่งประจำที่คนขับ ปรับที่นั่งและกระจกมองหลังเพื่อให้ได้ระดับสายตาที่เหมาะกับตัวเอง จากนั้นก็กดเนวิเกเตอร์ อาชินคงไปที่สถานีตำรวจแห่งนี้บ่อยๆ จนบันทึกที่อยู่เอาไว้ว่า <ไอ้เวร> ลงในรายการโปรด พอชางอีลองกดดูก็พบว่าอยู่ห่างจากที่นี่สิบห้ากิโลเมตร จากนั้นเขาก็ปลดเบรกมือเตรียมออกรถ

“ก็ไม่เซ่อนี่”

“ก็ไม่เท่าไหร่ครับ”

“ไร้สาระ”

อาชินเก็บเอกสารสรุปคดีใส่ลิ้นชักหน้ารถ เวลาอยู่บนรถเขามักจะหลับตาพิงหมอนรองคอที่ติดเอาไว้ตรงพนักพิง ชางอีเหลือบมองแล้วจึงเปิดฮีตเตอร์ให้ความอบอุ่น

คืนนี้ฝนตกหนักกว่าที่คิด ที่ปัดน้ำฝนจึงทำงานไม่หยุด

“ปกติคุณนักสืบเลิกงานกี่โมงครับ”

ท่าทางที่นั่งกอดอกหลับตาของอาชินนั้นดูก็รู้ว่าไม่ได้หลับจริงๆ ชางอีจึงพยายามชวนคุย

“หกโมง แต่ถ้ามีงานค้างก็ยืดเวลาออกไป”

“ผมก็คงจะต้องทำแบบนั้นสินะครับ”

“ถ้าไม่อยากทำก็ออกไป”

“ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณนักสืบทำงานล่วงเวลา ผมก็จะทำด้วย”

“ไม่จำเป็น เวรเอ๊ย”

แล้วบทสนทนาก็เป็นอันยุติ ชางอีไม่ชินกับการถูกเกลียดแบบนี้เลย เขาชักเริ่มสงสัยว่าทำไมอาชินถึงทำท่าจงเกลียดจงชังเขามากขนาดนี้ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คืออาชินเกลียดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘ผู้ชาย’ และคนที่เกลียดจริงๆ ตอนนี้น่าจะเป็นผู้ชายที่ชื่ออูซองฮู ชางอีชักสงสัยขึ้นมาตงิดๆ ว่าคนคนนั้นเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ ถึงได้ถูกเกลียดมากขนาดนี้

“คุณนักสืบ”

“เรียกทำไมนักหนา”

“ผมอยากรู้ว่าผู้ช่วยผู้ชายคนก่อนหน้ายอนฮี ทำงานอยู่นานแค่ไหนเหรอครับ”

“หนึ่งวัน”

“…”

“…”

“แล้ว…ผู้ช่วยผู้ชายที่อยู่นานที่สุดล่ะครับ”

“ห้าวัน”

“…”

โห ดูท่ารยูอาชินจะเป็นคนเรื่องเยอะกว่าที่คิด แต่เยอะขนาดนี้ไม่ต้องไปบำบัดที่โรงพยาบาลประสาทเลยหรือเนี่ย

ระหว่างติดไฟแดง ชางอีก็เหลือบไปมองอาชินอีกครั้ง แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายยังคงหลับตาอยู่เหมือนเดิม

“คุณนักสืบก็รู้จากยอนฮีล่วงหน้าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับว่าผู้ช่วยคนใหม่คือผู้ชาย”

“แล้วไง”

“ถ้าไม่พอใจ ก็ควรจะปฏิเสธแต่แรกสิครับ”

“พอใจ”

“ครับ?”

“บอกว่าพอใจไงล่ะ”

โกหกรึเปล่าเนี่ย หรือเพราะเขาเป็นเพื่อนของยอนฮีก็เลยเกรงใจ ชางอีรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย

“เพราะผมเป็นเพื่อนยอนฮีเหรอครับ”

“จะให้โอกาสแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว”

ชางอีคิดว่าตัวเองควรจะดีใจที่อาชินให้โอกาสเขามากกว่าผู้ช่วยผู้ชายคนอื่นๆ

“…ได้ยินจากยอนฮีว่าคุณเกลียดผู้ชาย”

“รู้แล้วก็ดี”

อาชินขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้นมาสักครู่ แล้วหลับตาลงอีกครั้ง

“ไฟเขียวแล้ว”

“เอ่อ ครับ”

พอรถออกตัวอีกครั้ง อาชินก็เคาะนิ้วราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ลืมตาแล้วมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ตอนแรกเขาอยากจะไล่ชางอีออกไปทันที แต่เห็นว่าเป็นคนที่ยอนฮีแนะนำมา จึงอยากลองให้โอกาสสักครั้ง

“แค่รักษาระยะห่าง ไม่ต้องมาโดนตัว อย่างผ้าพันคอนี่ ทีหลังแค่ส่งให้เฉยๆ ก็พอ”

พอชางอีพยักหน้า อาชินก็กระแอมเบาๆ ราวกับเป็นการส่งสัญญาณว่ารับรู้แล้ว ระหว่างนั้นเนวิเกเตอร์ก็แจ้งว่าเหลืออีกครึ่งทางจะถึงที่หมาย ชางอีจึงกระชับพวงมาลัยให้แน่นขึ้นแล้วจดจ่ออยู่กับการขับรถ

 

ครั้นใกล้ถึงที่หมายอาชินก็ลืมตาขึ้นช้าๆ ชางอีคิดว่าเจ้าตัวคงจะมาบ่อยมากจนกะระยะได้ว่าใกล้จะถึงแล้ว จนถึงขณะนี้เขาก็ยังสงสัยว่าทำไมอาชินถึงได้เกลียดผู้ชายมากขนาดนี้ ชางอีได้แต่คิดวนไปวนมาพลางหาที่จอดรถ

“เฮ้อ ในที่สุดก็ต้องมาจนได้”

“ผมขอโทษนะครับ”

“รู้แล้วก็อย่าทำให้ต้องมาที่นี่อีก เพราะที่มีไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมเป็นโรคเกลียดผู้ชาย”

“ครับ”

ได้ยินจากยอนฮีว่าอาชินอายุยี่สิบห้า แต่การพูดจาของอาชินกลับข่มชางอีที่อายุมากกว่าถึงสองปี เจ้านายน้อยผู้ร้ายกาจ ท่าทางงานนี้จะไม่ง่ายเลย

ลานจอดรถอยู่ไม่ไกลจากตัวอาคาร แต่เพราะฝนที่ตกหนักมากจึงควรต้องใช้ร่ม ในขณะที่ชางอีหันไปหาร่มที่เบาะหลัง อาชินกลับเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว

“บนรถไม่มีร่มเหรอครับ”

“ไม่มี”

อาชินลงจากรถแล้วเดินฝ่าสายฝนไป ชางอีจึงรีบลงจากรถแล้ววิ่งตาม

“รีบวิ่งสิครับ”

ฝนตกหนักแบบนี้ยังมัวเดินเอ้อระเหยอยู่ได้ ชางอีดันหลังอาชินให้วิ่ง อาชินจึงหันขวับมามองด้วยความหงุดหงิดทันที ชางอีจึงนึกขึ้นได้ว่าเพิ่งได้รับคำเตือนมาหยกๆ ว่าห้ามโดนตัวอีกฝ่าย

Comments

comments

Continue Reading

More in overgraY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com