“วิชาแพทย์ของท่านหมอจางร้ายกาจอย่างยิ่ง ข้ายังเคยได้ยินคนเรียกเขาว่าหมอเทวดาเสียด้วยซ้ำ บอกว่าเขารักษาได้ทุกโรค ท่านรีบดื่มยานี่ก่อนเถอะ อย่างอื่นไว้ค่อยพูดกันทีหลัง” นางเอาหมอนใบหนึ่งมายันหลังของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อเขานั่งสบายมากขึ้น ก่อนจะใช้ช้อนตักยาขึ้นมาเป่าให้หายร้อนและป้อนยาที่อุ่นกำลังพอดีเข้าปากเขาทีละคำๆ
หวงฝู่จี้ที่เพิ่งกลับออกมาจากประตูผีร่างกายกำลังอ่อนแอจนถึงขีดสุดไม่ขัดขืน ยอมอ้าปากให้นางป้อนยาให้แต่โดยดี จนเมื่อดื่มยาหมดชามแล้วเขาจึงพูดเสียงอ่อนว่า “จริงสิ ข้ายังไม่ทราบชื่อของแม่นางเลย”
“ข้าแซ่เผย”
เผยจื่ออวี๋วางชามยาไว้บนโต๊ะด้านข้าง ก่อนเปิดหม้อที่ต้มอยู่บนเตาเล็กอีกใบหนึ่งเพื่อตักน้ำแกงปลาชามเล็กๆ ชามหนึ่งมาให้เขา
“ท่านเพิ่งจะขูดกระดูกมา ร่างกายยังอ่อนแอมาก กินอาหารแข็งไม่ได้ ข้าเลยให้คนตุ๋นน้ำแกงปลาสดๆ เอาไว้ ท่านค่อยๆ ดื่มนะ ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้นเร็วๆ” นางว่าพลางเป่าน้ำแกงให้เย็น
“แม่นางเผย บุญคุณที่ช่วยชีวิตในวันนี้ ต่อไปข้าจะต้องตอบแทนแน่”
“ตอบแทน? ไม่ต้องหรอก ขอแค่ท่านบำรุงร่างกายให้แข็งแรงขึ้นเร็วๆ ก็พอ” นางป้อนน้ำแกงปลาให้ชายหนุ่มพลางปลอบใจเขา “คนเราต้องเอาชีวิตให้รอดได้ถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด ท่านอย่าคิดมาก รีบรักษาแผลให้หาย หายดีเมื่อไรเดี๋ยวก็มีหนทางให้เดินได้เองนั่นแหละ”
หวงฝู่จี้ผงกศีรษะ เวลานี้เขาต้องรีบรักษาบาดแผลเสียก่อน รอให้หายดีเมื่อไรแล้วค่อยไปเอาคืนกับคนที่ทำร้ายเขา
เผยจื่ออวี๋พูดอย่างคล้ายจะรำพึง “อุทกภัยครั้งนี้มีคนพลัดที่นาคาที่อยู่ ไร้บ้านให้กลับมากมาย บางคนก็ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวเลยทีเดียว คุณชายหวง ท่านก็อย่าได้สิ้นหวังเด็ดขาด” ดูจากเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งของเขา กับรอยดาบและพิษบนตัว คาดว่าคงหนีการปล้นชิงมา เรื่องภัยธรรมชาตินั้นยกเอาไว้ก่อนเพราะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่การที่คนเราซ้ำเติมทุกข์ภัยให้กันนั่นต่างหากที่เรียกได้ว่าน่ากลัวที่สุดจริงๆ
หวงฝู่จี้ขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ แม่นางผู้นี้ใช่ว่ากำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือไม่
แต่เข้าใจผิดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้เขาก็ไม่อาจบอกใครถึงที่มาที่ไปของตนเอง เนื่องจากตวนอ๋องคงไม่ยอมปล่อยให้เขามีชีวิตรอดได้แน่ และถ้าหากตวนอ๋องรู้เรื่องของเขา นอกจากจะทำให้ตัวของหวงฝู่จี้เป็นอันตรายแล้ว แม่นางเผยผู้นี้ก็อาจจะพลอยมีภัยไปด้วย ซึ่งเขาก็ไม่อยากให้ผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของตนต้องมาเสี่ยงเช่นกัน
เผยจื่ออวี๋เห็นสีหน้างุนงงสงสัยของชายหนุ่มแล้วก็กะพริบตาปริบๆ “ข้าพูดอะไรผิดหรือ”
ชายหนุ่มส่ายศีรษะ “มิผิด แม่นางพูดถูก ข้าจะสิ้นหวังเพราะภัยครั้งนี้ไม่ได้”
“จริงสิ ทั้งบาดแผลและพิษที่อยู่บนตัวท่านได้มาอย่างไร หรือท่านไปเจอกับโจรภูเขาเข้า”
“โจรภูเขา?! ก็ประมาณนั้น”
“เกิดอะไรขึ้นหรือ”
เขาไม่อยากให้ผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของตนต้องเสี่ยงกับอันตรายที่คาดไม่ถึง หวงฝู่จี้จึงตามน้ำด้วยการถอนหายใจและแต่งเรื่องด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “อุทกภัยในรอบศตวรรษนี้ทำให้ครอบครัวของข้าต้องแตกฉานซ่านเซ็น หาที่ลงหลักปักฐานกันไม่ได้เลย ตอนแรกผู้น้อยกับคนในครอบครัวที่เหลือรอดมาได้ยังพอมีสมบัติที่ตกทอดมาเหลืออยู่บ้าง จึงคิดว่าจะเดินทางไปอยู่ที่บ้านสวนของบรรพบุรุษเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อำเภอชุ่ยถี
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแม้จะรอดจากอุทกภัยมาได้แล้วกลับยังไม่พ้นภัยโจรป่าอยู่ดี เป็นผู้น้อยและครอบครัวที่เผอเรอไปชั่วขณะ เข้าไปพักในโรงเตี๊ยมของพวกโจรใจหยาบที่ลอบใส่ยาไว้ในน้ำ กว่าคนในครอบครัวของข้าจะรู้ก็ช้าเกินการ ช่วงที่เกิดการต่อสู้ชุลมุนกันนั้น ตะเกียงน้ำมันล้มและเกิดไฟไหม้ขึ้น ข้าหนีรอดออกมาได้อย่างฉิวเฉียดเพียงคนเดียว ส่วนคนในครอบครัวคนอื่นๆ นั้นล้วนสูญหายไปจนสิ้น”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ทั้งแผลและพิษบนตัวท่านล้วนได้รับมาจากตอนนั้นหรือ”
หวงฝู่จี้ผงกศีรษะแทนคำตอบ
เผยจื่ออวี๋จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดขึ้นมาเช็ดมุมปากให้เขา “ที่นี่ก็คืออำเภอชุ่ยถี เวลานี้ท่านปลอดภัยแล้ว คนดีสวรรค์ย่อมคุ้มครอง เชื่อว่าคนในครอบครัวของท่านคงหนีรอดออกมาได้เช่นกัน ตอนนี้ท่านก็อยู่รักษาตัวที่โรงหมอของท่านหมอจางไปก่อนเถอะนะ”
“ที่นี่คืออำเภอชุ่ยถีหรือ” นัยน์ตาเหนื่อยล้าของชายหนุ่มสว่างวาบขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เผยจื่ออวี๋พยักหน้า
ก่อนหน้านี้ข่าวที่เขาได้รับมาคือตวนอ๋องลอบซ่องสุมกำลังทหารไว้ที่อำเภอชุ่ยถี เนื่องจากที่นี่โอบล้อมด้วยภูเขาถึงสามด้าน และมีหมอกปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี ทำให้เหมาะกับการเป็นสถานที่ซ่องสุมกำลังคนอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงจะฉวยโอกาสรั้งอยู่ที่นี่เพื่อสืบข่าวหาหลักฐานจับตวนอ๋องที่คิดการกบฏให้จงได้!
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ