หวงฝู่จี้คิดตามแล้วพลันรู้สึกว่าที่อีกฝ่ายพูดมาก็มีเหตุผล และถึงแม้เรื่องที่ต้องส่งข่าวให้พวกหลิงอีจะเป็นเรื่องด่วน แต่ก็ไม่อาจใจร้อนดื่มน้ำเต้าหู้เดือดได้ เพราะเขาจำเป็นต้องรักษาตัวให้หายดีเช่นกัน อย่างมากแค่รออีกวันหรือสองวันเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นหวงฝู่จี้ก็ได้ไปเดินวนเวียนอยู่รอบๆ ประตูเมืองทางด้านใต้และฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครสังเกตหยิบเอาก้อนหินข้างประตูเมืองหลายก้อนมาวางเป็นสัญลักษณ์ที่มีแต่เขาและองครักษ์ประจำตัวทั้งสามเท่านั้นที่รู้ ก่อนหมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถม้า
เผยจื่ออวี๋แหวกผ้าม่านรถออกมามองชายหนุ่มเล็กน้อย
นั่นเขากำลังทำเครื่องหมายให้คนที่บ้านรู้อยู่หรือ
แต่สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกแปลกใจก็คือถ้าหากเขาเป็นห่วงว่าคนในครอบครัวจะตามหาเขาไม่พบจริงๆ ก็น่าจะเขียนเป็นหนังสือประกาศตามหาคนมากกว่า เพื่อที่ว่าหากคนในครอบครัวของเขาเห็นแล้วจะได้มาตามหาตัวเขาได้ถูก เพราะอะไรถึงต้องมาทำลับๆ ล่อๆ แบบนี้ หรือว่าคนในครอบครัวของเขาจะอ่านหนังสือไม่ออก
ตอนหวงฝู่จี้แหวกผ้าม่านกลับเข้ามานั่งลงที่ข้างกายหญิงสาวอีกครั้ง นางก็ส่งถุงน้ำให้เขา “ดื่มน้ำสักคำก่อนเถอะ อากาศข้างนอกร้อนนัก”
เขารับถุงน้ำมายกขึ้นดื่มก่อนเอ่ยถามยิ้มๆ “ท่านไม่แปลกใจหรือ” เขารู้ว่านับตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นทำสัญลักษณ์ หญิงสาวก็สังเกตเห็นท่าทีแปลกๆ ของเขาแล้ว
นางสั่นศีรษะ “เรื่องแปลกใจย่อมมีบ้าง แต่คนทุกคนย่อมต้องมีเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากเปิดเผยด้วยกันทั้งนั้น และข้าเองก็ไม่สะดวกที่จะสืบค้น เพราะข้ายังกลัวตายอยู่”
“กลัวตาย?”
“โบราณว่าความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตายได้ ข้ายังอยากอยู่อีกหลายปี เลยไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรมากนัก” การจะคืนชีพใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย และจื่ออวี๋ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก จึงไม่อยากเป็นเหมือนเมื่อชาติที่แล้วที่แค่ได้ยินเสียง ‘ตูม!’ ครั้งเดียว ชีวิตวัยรุ่นอันสวยสดก็หายวับ
‘ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตายได้’ คำพูดนี้น่าสนใจเสียจริง หวงฝู่จี้หัวเราะออกมาพลางตบต้นขาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ “เช่นนั้นหากอยากคิดมีชีวิตอยู่นานๆ ก็อย่าได้อยากรู้อยากเห็นมากเกินไปใช่หรือไม่” นึกถึงเมื่อตอนเด็กๆ ในวังมีแมวที่พระสนมองค์หนึ่งเลี้ยงเอาไว้วิ่งเข้าไปในตู้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ถูกนางกำนัลที่ไม่รู้ว่ามันอยู่ข้างในใส่กุญแจ ทำให้แมวตัวนั้นต้องติดอยู่ในตู้จนหิวตาย เช่นนี้จะเรียกว่าความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตายได้หรือไม่นะ
“ท่านหัวเราะแบบนี้ ทำราวกับว่าข้าพูดไปจี้ใจท่านอย่างนั้น” หญิงสาวมองค้อนเขา นางพูดอะไรน่าขบขันนักหรือ
“ท่านพูดจี้ใจข้าจริงๆ” เพราะตัวเขาเองด้วยความแปลกใจถึงได้ลอบตรวจสอบตวนอ๋องจนได้รู้ถึงแผนลอบก่อการกบฏของอีกฝ่าย และนำมาซึ่งการลอบสังหารเช่นนี้
เห็นชายหนุ่มหัวเราะอย่างเปิดเผยเช่นนี้แล้ว เผยจื่ออวี๋ก็รู้สึกแปลกใจจนต้องเลิกคิ้วสูงขณะพิจารณามองดูอีกฝ่ายอย่างละเอียดพร้อมๆ กับขบคิดถึงความหมายในถ้อยคำของเขา
คุณชายหวงผู้นี้ไม่ได้มีเพียงรูปร่างหน้าตางามสง่า แต่อากัปกิริยายังดูมีชาติตระกูลเป็นธรรมชาติอย่างมาก แม้แต่ชุดผ้าฝ้ายธรรมดาก็ยังไม่อาจกลบรัศมีแห่งอำนาจที่มีติดตัวเขามาตั้งแต่เกิดได้ จนนางเกือบคิดไปเองว่าเขาไม่น่าจะใช่คนสามัญทั่วไป
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ