นี่ถ้าหากหวงฝู่จี้ไม่ได้มีสีหน้ายิ้มแย้มน่าเข้าใกล้แบบนี้ เขาคงไม่ต่างจากเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ นางอาจเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นท่านอ๋องหรือองค์ชายสักองค์ มากกว่าจะเป็นคุณชายตระกูลสูงที่ประสบอุทกภัยจนบ้านแตกสาแหรกขาดเช่นนี้
“เอาล่ะ ตอนนี้ท่านได้เห็นประตูเมืองทั้งสี่แล้ว ยังอยากไปที่ใดอีกหรือไม่ ถือโอกาสที่ยังเช้าอยู่นี้ให้เตาโต้วพาท่านไปก่อน เพราะวันพรุ่งนี้ข้ายังต้องทำงาน คงไม่มีเวลาออกมาพาท่านเดินเที่ยวตามถนนอีก”
“ได้ยินว่าภูเขาที่อำเภอชุ่ยถีเป็นดินเลนสีแดงใช้ทำกาน้ำได้ดีนัก ข้าเลยอยากรู้ว่าดินแดงของที่นี่ใช้ทำกาน้ำได้ดีจริงหรือไม่ ท่านพอจะพาข้าไปดูได้หรือไม่”
“ท่านจะทำกาน้ำหรือ”
“การค้าของตระกูลข้าล้วนล่มสลายไปกับสายน้ำหมดแล้ว ข้าเลยอยากหาหนทางทำการค้าใหม่ และการทำกาน้ำก็ไม่เลวนัก สามารถทำเงินได้ดีทีเดียว”
“ท่านทำกาได้?” หญิงสาวรู้สึกแปลกใจ
“ข้าสนใจอยู่” อันที่จริงสิ่งที่เขาสนใจมีอยู่มากมาย “เวลานี้ข้าคิดแค่จะทำงานเลี้ยงปากท้องไปให้ได้ชั่วคราวก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมองหาวัตถุดิบที่จะนำมาทำเป็นอย่างแรก”
เผยจื่ออวี๋ใช้นิ้วชี้เคาะริมฝีปากสีแดงชุ่มชื้นเบาๆ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “ขอข้าคิดดูก่อน…ถึงอำเภอชุ่ยถีนี้จะมีภูเขาล้อมรอบสามด้าน แต่ภูเขาที่มีดินแดงอยู่ก็มีจำนวนไม่มากนัก ที่ใกล้ที่สุดก็น่าจะมีแต่ภูเขาจงหลิงเท่านั้น”
“ภูเขาจงหลิง?”
“ใช่ มีเพียงเขาลูกนั้นที่มีดินเป็นสีแดง แต่ถ้าหากท่านอยากได้ดินของที่นั่น เกรงว่าคงจะหาได้เฉพาะปีนี้เท่านั้น”
“เฉพาะปีนี้? เพราะเหตุใดเล่า”
“ภูเขาจงหลิงเป็นภูเขาลูกใหญ่ของที่นี่ ดินบริเวณเชิงเขาส่วนหนึ่งเป็นสีแดง ซึ่งเชิงเขาที่มีดินแดงนั่นอยู่ห่างจากสวนสมุนไพรของข้าไปไม่เท่าไร เพียงเดินเลาะไปแค่ครึ่งชั่วยามก็ถึง แต่ภูเขาลูกนี้นอกจากต้นไม้ไร้ประโยชน์ที่ได้แต่เอามาทำเป็นไม้ฟืนแล้วก็ไม่มีต้นอะไรขึ้นได้อีก ในสายตาของพวกเราที่นี่จึงมองเห็นว่าที่นั่นเป็นแค่เขารกร้างลูกหนึ่ง เลยไม่มีใครให้ความสนใจมาก่อน แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ภูเขาลูกนั้นได้ถูกขายออกไปในราคาที่สูงลิบ อีกทั้งยังมีการกั้นพื้นที่จนเหลือแค่บริเวณเล็กๆ ไว้ให้ชาวบ้านได้เข้าไปเก็บฟืนกันเท่านั้น และในปีหน้าเขาจะปิดกั้นอย่างถาวร ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปเก็บฟืนได้อีก”
หวงฝู่จี้ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ถูกขายไปทำอะไรหรือ”
เผยจื่ออวี๋เอียงศีรษะคิด “ก่อนหน้านี้แม่นมอู๋เล่าให้ฟังว่าได้ยินชาวบ้านที่เก็บฟืนแถวนั้นบ่น บอกว่าไม่รู้บนเขามีสมบัติอะไรถึงได้มีการเฝ้าระวังแน่นหนาขนาดนั้น ทั้งที่บนเขาก็มีแต่ไม้ฟืนอย่างเดียว อีกทั้งพอมีคนคิดจะเข้าไปอีกก็ถูกไล่ตะเพิดออกมา”
ภูเขาลูกนั้นน่าสงสัยจริงๆ ด้วย หวงฝู่จี้ลอบกำหมัดอยู่ใต้แขนเสื้อแน่น
“หากจะบอกว่าไม่อยากให้ชาวบ้านขึ้นเขาไปเก็บฟืน เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกับกิจการเผาถ่าน ก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะเผาถ่านออกมาขายเลยเหมือนกัน”
เผยจื่ออวี๋เคยขบคิดถึงปัญหาข้อนี้ และเคยให้คนไปสืบข่าวดูแล้ว เพราะถึงอย่างไรสวนสมุนไพรของนางก็อยู่ในเขตพื้นที่ใกล้เคียงกัน ย่อมต้องรู้จักระมัดระวังเอาไว้ แต่ถึงกระนั้นปัญหานี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ และในขณะเดียวกันเจ้าของคนใหม่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้พวกต้องเดือดร้อนหรือรู้สึกเป็นห่วง ซ้ำยังมาช่วยอุดหนุนสวนสมุนไพรของนางเป็นจำนวนมากอีกด้วย
“เช่นนี้ท่านยังจะไปอีกหรือ”
ได้ยินเผยจื่ออวี๋พูดแบบนี้ หวงฝู่จี้ยิ่งอยากจะไปเยือนดูสักครั้ง
“ขอข้าไปดูสักหน่อยเถอะ กว่าจะถึงปีหน้าก็ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งปีมิใช่หรือ เวลานี้ขอแค่รู้ว่าดินใช้ได้ก่อน ถ้าหากว่าเหมาะกับการใช้ทำกาจริงๆ ข้าค่อยไปทำเรื่องตกลงกับเจ้าของที่ทีหลังก็ได้”
“ก็จริงนะ ท่านแค่จะซื้อดินเท่านั้นนี่นา ไม่น่าจะมีปัญหาได้หรอก” เผยจื่ออวี๋ผงกศีรษะก่อนเลิกผ้าม่านไปสั่งเตาโต้ว “เตาโต้ว ไปที่สวนสมุนไพร”
“ขอรับ” เตาโต้วกระตุกบังเหียนในมือแล้วม้าก็วิ่งตะบึงออกไป
โปรดติดตามตอนต่อไป…
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ