“ท่านเป็นคนต่างถิ่น อาจถูกเขาตามคิดบัญชีได้ง่าย อย่าคิดออกหน้าให้ข้าเลย อีกอย่างหนึ่งแขนท่านยังไม่หายด้วย เรื่องที่เป็นเรื่องของข้า ข้าจะจัดการเอง ลำพังแค่เจ้าลูกกระจ๊อกสามตัวนี่ไม่อยู่ในสายตาข้าอยู่แล้ว”
“เจ้าเป็นสตรีตัวคนเดียวจะรับมือพวกคนต่ำช้านี่ได้อย่างไร”
หญิงสาวกระตุกมุมปากขึ้นอย่างภาคภูมิ ก่อนใช้นิ้วโป้งขึ้นเช็ดปลายจมูกอย่างเย่อหยิ่งเล็กน้อย “คอยดูไปเถอะ ท่านนึกว่าข้าตั้งตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ถ้าหากเป็นแค่สตรีอ่อนแอ ป่านนี้ข้าคงกลายเป็นศพไร้ที่ฝังไปนานแล้ว”
เห็นท่าทีเหมือนคนมีแผนอยู่ในใจของนางแล้ว หวงฝู่จี้ก็ระงับความรู้สึกที่อยากจะออกหน้าแทนหญิงสาวเอาไว้ เพราะถ้าหากเกิดเรื่องคับขันขึ้นจริงๆ ที่ด้านหลังก็ยังมีหลิงอีและหลิงซานคอยเฝ้าระวังอยู่
เผยจื่ออวี๋เบ้ปากอย่างหมิ่นๆ พร้อมปรายหางตามอง “เข้ามาเลย ดูซิว่าวันนี้เจ้าจะเตรียมมาเล่นงานข้าได้อย่างไร!”
ท่าทียิ้มเยาะเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเช่นนี้ทำให้เคอโหย่วไฉฉุนขาด และรู้สึกว่าไม่อาจยอมเสียหน้าได้จนต้องตะโกนสั่ง “รุมกันเข้าไป! จับนางมัดส่งมาให้ข้า วันนี้ข้าจะเข้าหอก่อนวิวาห์!”
สิ้นคำสั่งของเคอโหย่วไฉ กลุ่มองครักษ์ที่เขาพามาด้วยก็กรูกันเข้าไปล้อมเผยจื่ออวี๋
แต่ทันทีที่หญิงสาวพลิ้วร่าง คนคนหนึ่งก็ลงไปนอนหมอบ แล้วอีกคนก็ลงไปนอนวัดพื้น ตามมาด้วยอีกหลายคนที่ถูกเตะเสียกระเจิดกระเจิง ทุกคนดูไม่ออกว่านั่นเป็นวิชาของสำนักไหนถึงได้ทำให้เหล่าลูกสมุนที่พากันบุกเข้าไปต่างถูกนางเตะกระเด็นออกมา และได้แต่นอนร้องเสียงโอดโอยกันในสภาพที่นอนซ้อนกันเป็นชั้นๆ เช่นนี้
เคอโหย่วไฉเองเห็นท่าไม่ดีก็เตรียมถลกชุดเผ่นหนี แต่กลับถูกเผยจื่ออวี๋จิกตัวเอาไว้และโยนเขาไปกองรวมกับพวกลูกน้อง
ชาวบ้านที่มุงดูความครึกครื้นกันอยู่ต่างปรบมือชมกันเกรียวกราว “เยี่ยม ยอดเยี่ยม!”
บนแผ่นหลังของเคอโหย่วไฉที่ซ้อนทับอยู่ด้านบนสุดถูกเท้างามๆ เหยียบเข้าอย่างจัง
บังเกิดเป็นเสียงร้องโหยหวนสะท้านฟ้าสะเทือนดินขึ้นมาทันควัน “อ๊าก!”
เผยจื่ออวี๋เหยียบเท้าไว้บนหลังของเขาขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่น “เคอโหย่วไฉ ข้าจะบอกเจ้าให้นะว่าต่อให้ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่ได้แต่งให้ใครก็ไม่มีทางยอมแต่งให้เจ้า ทางที่ดีเจ้าจงตัดใจจากข้าเสีย!”
“ปล่อย ปล่อยข้า ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว” เคอโหย่วไฉที่ถูกเผยจื่ออวี๋ออกแรงนิดหน่อยก็สยบเขาได้ร้องเสียงแหลมออกมาราวกับหมูถูกเชือด มือข้างที่ไม่ได้ถูกตรึงเอาไว้ทุบใส่พวกลูกน้องที่อยู่ใต้ร่างจนพากันร้องครางเสียงดังระงม
“ไอ้เจ้าโง่พวกนั้น ยังไม่รีบเอาตัวนางออกไปให้ข้าอีกหรือ!” เคอโหย่วไฉเจ็บจนหน้าแดงไปหมดแล้วจึงหันไปตวาดใส่พวกลูกน้องอีกสองสามคนที่ไม่ได้เข้ามารบราอะไรด้วย
ทว่าทันทีที่เขาส่งเสียงตวาด เผยจื่ออวี๋ก็ออกแรงกดที่แผ่นหลังของเคอโหย่วไฉเข้าไปอีกจนอีกฝ่ายร้องโหยหวนออกมาราวกับหมูถูกเชือด
“พวกเจ้ากล้าเข้ามาอีกก็ลองดู ดูซิว่าข้าจะกล้าตัดเท้าหมูของเขาทิ้งหรือไม่” เผยจื่ออวี๋หันไปคำรามเสียงเย็นใส่เหล่าลูกน้องที่ความจริงเป็นแค่จิ้งจอกแอบอ้างบารมีพยัคฆ์* พวกนั้น พร้อมๆ กับออกแรงซัดมือของเคอโหย่วไฉจนอีกฝ่ายเจ็บจนน้ำตาร่วง
* จิ้งจอกแอบอ้างบารมีพยัคฆ์ หมายถึงพวกที่แอบอ้างบารมีผู้อื่นมาข่มขู่หลอกลวงผู้คน
“แม่นางเผย พวกเราไม่กล้าแล้ว ขอท่านได้โปรดรีบปล่อยคุณชายของเราเถิด คุณชายของพวกข้าแค่อยากหยอกเย้าท่านเล่นเท่านั้นนะขอรับ” ลูกน้องของเคอโหย่วไฉรีบเอ่ยขอร้อง ด้วยหวังว่าเผยจื่ออวี๋จะรีบปล่อยตัวคุณชายของพวกเขา ไม่เช่นนั้นกลับไปแล้วพวกเขาต้องถูกเล่นงานหนักแน่
เผยจื่ออวี๋ที่แต่ไหนแต่ไรมาเป็นคนร่าเริงแจ่มใส เข้าถึงได้ง่าย และมีแต่รอยยิ้มให้กับทุกคน แม้แต่กับขอทานยากไร้ มาเวลานี้กลับมีท่าทีเหี้ยมหาญน่ากลัวราวกับแม่เสือ ทำเอาหวงฝู่จี้ถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดไปชั่วขณะด้วยคิดไม่ถึงว่านางจะมีด้านที่ดุดันเช่นนี้
ทว่าเขากลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจตัวตนด้านนี้ของนางเลย เมื่อคนพวกนั้นล้วนแต่เป็นนักเลงที่ชอบรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า แต่การที่ตัวนางซึ่งเป็นแค่สตรีอ่อนแอกลับมีวรยุทธ์แปลกประหลาดเช่นนี้นั้นเป็นเรื่องน่าชื่นชมมากจนเขาอดลอบยกย่องนางอยู่ในใจไม่ได้
“เคอโหย่วไฉ เจ้าอยากให้ข้าปล่อยตัวเจ้าหรือไม่” เผยจื่ออวี๋เอียงตัวลงไปถามเสียงเย็น
“อยาก อยากสิ ปล่อยข้าไปเถิด!” แขนเขาใกล้จะหักอยู่แล้ว เคอโหย่วไฉจึงรีบอ้อนวอนด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ
“เช่นนั้นเจ้ายังคิดจะแต่งกับข้าอีกหรือไม่”
เคอโหย่วไฉเริ่มลังเล
“ถ้าหากไม่อยากให้คืนเข้าหอกลายเป็นงานศพเจ้า ก็จงล้มเลิกความคิดที่จะแต่งงานกับข้าเสีย หาไม่แล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า”
“ไม่แต่งแล้ว ข้าไม่แต่งแล้ว!” เคอโหย่วไฉตัวสั่นสะท้านรีบยกมือขึ้นสาบาน “ถ้าหากข้ายังจะแต่งกับเผยจื่ออวี๋อีก ขอให้พ่อข้าหมดลูกสิ้นหลานไปนับตั้งแต่บัดนี้!”
กับสตรีที่ดุร้ายป่าเถื่อนเยี่ยงนี้ เขากลัวว่าตนเองจะมีชีวิตแค่ถึงเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน แต่ไม่มีทางมีชีวิตอยู่ถึงคืนเข้าหอแน่
“เจ้าจงอย่าลืมคำสาบานนี้เด็ดขาด ถ้าหากเจ้ากล้าลืมและหาเรื่องมาระรานข้าอีกล่ะก็ ข้าจะทำให้พ่อเจ้าหมดลูกสิ้นหลานไปจริงๆ แน่!” สิ้นคำเตือน หญิงสาวก็ถีบอีกฝ่ายพลางตะโกนลั่น “ไสหัวไป!”
ทั้งหมดรีบหุบปีกหดหางเผ่นไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องดังสนั่นของผู้คนรอบด้าน