บทที่ 5
เมื่อมหันตภัยร้ายผ่านพ้นไปแล้ว หวงฝู่จี้ก็อดเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้ว่า “แม่นางเผย ท่านทำเช่นนี้จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ”
เผยจื่ออวี๋เพียงแสดงสีหน้าไม่ยี่หระให้เขาก่อนกล่าว “วางใจเถอะ แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็เป็นได้แค่ลูกไล่ของข้าเท่านั้น ไม่เคยเอาชนะข้าได้เลยสักหน”
“เมื่อก่อนเขาก็เคยมาหาเรื่องท่านอย่างนั้นหรือ”
“อืม ตั้งแต่สมัยที่ข้าเก็บฟืนอยู่บนภูเขาแล้ว เมื่อก่อนพวกเราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ต่างก็ช่วยเหลือจุนเจือกันดี สมัยนั้นเขาเป็นเด็กที่ชอบแกล้งคนในหมู่บ้านอยู่บ่อยๆ แต่ก็ถูกข้าเอาท่อนฟืนไล่ฟาดอยู่หลายครั้งเหมือนกัน พอโตขึ้นมาหน่อย ไม่รู้ว่าพ่อเขาไปดวงดีมาจากที่ไหนเลยย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมืองได้ เขาเลยยิ่งกร่างหนักขึ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งข้าไปเจอเขาแกล้งคนอยู่บนถนนเลยตามไปสั่งสอนเขาอย่างเก่า และนับตั้งแต่นั้นมาพอเห็นข้าเขาก็เผ่นหนีไปไกลลิบแล้ว มีวันนี้นี่แหละที่ทำวางโตกล้าเข้ามาหาเรื่องข้าก่อน”
“ถึงท่านจะเอาชนะเขาได้ แต่อย่างไรท่านก็ยังเป็นเพียงสตรี สมควรระมัดระวังตนเองให้มาก”
“ข้ารู้ ท่านคิดว่าเพราะเหตุใดข้าถึงต้องเอาปาเจี่ยวกับเตาโต้วออกจากบ้านมาด้วยทุกครั้งเล่า นั่นก็เพื่อความปลอดภัยอย่างไรล่ะ”
“แล้ว…เรื่องพ่อของเขา ท่านคิดว่าจะใช้ขู่เขาได้ผลหรือ” ตอนที่ได้ยินเรื่องแต่งงานของนาง หวงฝู่จี้รู้สึกอึดอัดคับข้องใจอย่างประหลาด
“วางใจเถอะ พ่อเขาพูดก็เป็นเรื่องของพ่อเขา ลงว่าข้าไม่ตกลงเสียอย่าง แม่ข้าก็ไม่มีทางจับข้าประเคนส่งให้ใครได้ง่ายๆ อยู่แล้ว” เรื่องนี้นางมั่นใจอย่างมาก
ได้ยินหญิงสาวพูดเช่นนี้ หวงฝู่จี้ก็ค่อยรู้สึกสบายใจขึ้น เพียงแต่…เพราะเหตุใดเขาถึงต้องวุ่นวายใจถึงเพียงนี้ด้วย แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
“แต่เพื่อป้องกันมิให้ท่านแม่หัวอ่อนของข้าถูกฝูงแม่สื่อปั่นหัวจนเผลอพยักหน้า ข้าว่าข้ารีบกลับไปดูนางก่อนจะดีกว่า” ต่อให้มารดาของนางไม่รับปาก ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ จะยอมแพ้ไม่พูดอะไรอีกนี่นา แล้วถ้าท่านแม่โดนชักแม่น้ำทั้งห้าจนหลวมตัวยอมให้ลูกสาวแต่งงาน เผยจื่ออวี๋นั่นแหละที่จะโชคร้าย
“เตาโต้ว เจ้ากับปาเจี่ยวเอาใบส่งของไปให้ท่านหมอจางแล้วก็เดินกลับกันเองนะ ข้าต้องรีบกลับไปที่บ้านก่อน ป้องกันไม่ให้ท่านแม่ถูกหลอกได้”
หญิงสาวรีบยกสมุนไพรที่เหลืออยู่บนรถอีกนิดหน่อยลงพลางร้องสั่งพวกเตาโต้ว ก่อนกระตุกสายบังเหียนควบม้าออกไป
ปาเจี่ยวที่รีบวิ่งตามออกมาทีหลังมองตามเผยจื่ออวี๋ที่ทิ้งบริวารทั้งสองคนเอาไว้ ได้แต่ชี้นิ้วตามหลังรถม้าของพวกเขาที่วิ่งห่างออกไปจนฝุ่นตลบ “คุณหนูทิ้งพวกเราอีกแล้วหรือ”
เตาโต้วผงกศีรษะ “คงจะกลับไปไล่พวกแม่สื่อตามเคยนั่นแหละ นี่ก็ไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไรแล้วด้วย”
“พวกเจ้าพูดราวกับว่านางเคยทำเช่นนี้มาก่อน” หวงฝู่จี้ถามขึ้น
ปาเจี่ยวกับเตาโต้วต่างพยักหน้าพร้อมกันอย่างปลงๆ
ปาเจี่ยวกลอกตาขณะยกยาสมุนไพรบนพื้นขึ้นมา “ลำพังแค่ปีนี้อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีสักหกครั้งแล้วกระมัง คนที่มาสู่ขอก็มีมาไม่ซ้ำหน้ากันเลย แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกันหมด แต่ว่าพวกแม่สื่อก็ยังเพียรมาพูดจาหลอกล่อฮูหยินของพวกเราให้หัวหมุน จะได้เผลอพยักหน้ายอมรับงานแต่งอยู่นั่นแหละ”
“คุณหนูเราคิดจะอยู่เป็นโสดไปจนตลอดชีวิต ต่อให้พวกแม่สื่อย่ำธรณีประตูจนพังก็ไร้ประโยชน์” เตาโต้วที่เดินเข้าไปในร้านยาบ่นพึมพำ “ไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่าในหัวสมองของพวกแม่สื่อคิดอะไรกันอยู่ ถ้าหากคุณหนูของพวกเราอยากแต่งงาน ตอนที่คุณชายรองของท่านข้าหลวงประจำมณฑลมาสู่ขอ นางก็ตอบรับไปแล้ว เรื่องอะไรจะต้องลากยาวมาจนป่านนี้ด้วย”
หวงฝู่จี้จึงดึงตัวอีกฝ่ายเข้าไปถามในร้าน “เพราะเหตุใดนางถึงไม่ตอบรับการสู่ขอ” หากพูดถึงศักดิ์ฐานะ การแต่งงานกับข้าหลวงประจำมณฑลจะช่วยยกระดับของเผยจื่ออวี๋ได้มากทีเดียว