นางทำได้ นางรู้ว่านางทำได้ นางไม่เจ็บ…ไม่เจ็บ…ไม่เจ็บ…
จังหวะนี้เองมือขาวกระจ่างข้างหนึ่งโผล่ออกมาจากความมืดและคว้ามือเล็กของนางไว้ ดึงมือนางออกจากขาขวาของมารดา
“ไม่ได้”
เด็กหญิงหอบหายใจและหันกลับไปอย่างตื่นตระหนก เห็นหญิงสาวผมดำในชุดดำทั้งตัวยืนอยู่ด้านข้าง ผู้หญิงคนนั้นโน้มตัวและก้มหน้ามองนาง จับจ้องนางด้วยดวงตาดำสนิทและเอ่ยเสียงเย็นว่า “เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้”
เป็นคน จะให้คนรู้ไม่ได้
มารดาเคยบอกไว้ จับตัวนางไว้แน่นพลางกำชับ ‘อย่าให้คนอื่นรู้ว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง’
นางควรจะหนีไป ต้องวิ่งหนีไปซ่อนตัว มารดาบอกให้นางหนี ให้นางซ่อนตัว แต่เทียบกันแล้วนางอยากให้มารดาพูดกับนางอีกครั้งมากกว่า
“นางตายแล้ว” หญิงผู้นั้นถาม “เจ้าเข้าใจหรือไม่”
เด็กน้อยจ้องหญิงผู้นั้นและคิดถึงกระต่าย ลูกนก และปลาที่ตายไป มารดาเคยบอกว่าพวกมันตายไปแล้ว หัวใจไม่เต้นและไม่หายใจแล้ว ไม่อาจช่วยได้
“แสดงว่าเจ้าเข้าใจ” หญิงสาวมองนางและปล่อยมือ
เด็กหญิงหอบหายใจพลางมองหญิงสาวตรงหน้า น้ำตารินไหลลงมาอีกครั้ง นางไม่ละความพยายามเพียงเพราะอย่างนี้ แต่ลุกขึ้นอย่างโงนเงนและยื่นมือไปหามารดาที่ร่างไหม้เกรียมอีกครั้ง
เปลวไฟพุ่งขึ้นกลางใจไปสู่สมอง
หญิงสาวหรี่ตามองเด็กหญิงหัวรั้นอย่างเย็นชา ชั่วขณะหนึ่งที่นางไม่อยากสนใจเด็กคนนี้อีก ความสามารถพิเศษของเด็กคนนี้ทำให้นางคิดถึงอดีตอันไกลโพ้น นางยืดตัวขึ้นและหันหลังจากไป
‘ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนอย่างไร’ เสียงของบุรุษดังขึ้นในหัว ‘เจ้าไม่เป็นอย่างนั้น ข้ารู้’
หญิงสาวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างหงุดหงิด แต่รอยยิ้มของเขากลับปรากฏขึ้นตรงหน้า ทำให้นางชะงักฝีเท้า
เวลาผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว นางแทบจะจำใบหน้าของเขาไม่ได้แล้ว แต่กลับยังจำรอยยิ้มของเขาได้ รอยยิ้มที่ประทับอยู่ในใจนาง
ข้ารู้
นางหลับตาและกำหมัดแน่น
สายลมพัดผ่านทะเลสาบปะทะใบหน้า เหมือนสัมผัสอ่อนโยนจากฝ่ามือเขา พาให้หัวใจนางหดรัด
เจ้าคนน่าโมโห
นางคิดอย่างขุ่นแค้น จากนั้นก็สูดหายใจลึกพลางลืมตาที่เปียกชื้นเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังก้าวยาวๆ กลับไปหาเด็กคนนั้นอย่างขุ่นเคือง
เด็กหญิงยังคงยืนอยู่ที่เดิม มือเล็กวางบนขาที่ไหม้เกรียม ขาขวาที่เคยเป็นสีดำเริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่ผิวบนฝ่าเท้าข้างขวาของเด็กหญิงกลับเริ่มบิดเบี้ยว ตุ่มน้ำพุพองผุดขึ้นมามากยิ่งขึ้น
หญิงสาวยื่นมือไปกระชากมือเล็กข้างนั้นออกอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บปวดจู่โจมเข้ามาในจังหวะที่นางแตะข้อมือของเด็กคนนั้น