ความจริงหลังจากดูแลคนป่วยเหล่านั้นนางเดินลำบากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด การขึ้นบันไดสำหรับนางแล้วเป็นเรื่องยากลำบากกว่าปกติ
ข้อเท้าอ่อนแอของนางกวนใจเขาเป็นพิเศษ ทำให้เขารู้สึกคันไม้คันมือ
คบเพลิงในหอลุกไหม้เงียบๆ เสียงฝีเท้าของทั้งสองดังสะท้อนไปมา
“บอนน์” จู่ๆ คำนี้ก็ถูกโพล่งออกมา เขาได้ยินตัวเองพูด “บอนน์เป็นชื่อของข้า”
นางเงียบและเดินต่อไปช้าๆ ไม่รู้เพราะอะไรความเงียบนั้นจึงทำให้ไหล่เขาเกร็งแน่นโดยไม่รู้สาเหตุ
หญิงสาวตรงหน้ายันผนังและก้าวขึ้นบันไดอีกหลายก้าว หลังจากนั้นนางก็ตอบโดยไม่หันกลับมา
“ท่านเป็นบารอน ข้าควรเรียกท่านว่านายท่านหรือท่านบารอน”
เขาไม่เคยอยากได้ตำแหน่งบัดซบนั่นแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มเม้มปากเดินตามนางขึ้นไป พอนางเดินถึงขั้นสุดท้ายฝีเท้าก็ซวนเซเล็กน้อย เขาปราดเข้าไปคว้าตัวนางไว้และตัดสินใจอุ้มนางขึ้นมาเสียเลย จากนั้นก็ก้าวยาวๆ ไปข้างหน้า
นางหอบหายใจเบาๆ รีบคว้าไหล่ของเขาพยุงตัวเองอย่างลนลานตอนเขาเดินตัดห้องโถงใหญ่
“นายท่าน…”
เดิมทีนางอยากบอกให้เขาวางนางลง แต่เห็นเขามีสีหน้าเคร่งเครียด ตามองตรงไปข้างหน้าโดยไม่เหลือบมองนางแม้แต่น้อย ริมฝีปากบางเม้มแน่น คิ้วดกขมวดมุ่น ท่าทางเหมือนกำลังไม่พอใจ นางจึงหุบปากอย่างรู้กาลเทศะ ได้แต่ปล่อยให้เขาอุ้มนางก้าวยาวๆ เดินตัดห้องโถงกว้างใหญ่ มุ่งหน้าไปยังหอคอยอีกหลังที่มีบันไดวน เขาก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็วไม่กี่ทีก็ถึงห้อง จากนั้นจึงวางนางลง
นางมองเขาอย่างตกใจไม่หาย ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกันแน่ เดิมทีนางอยากถอยไปข้างหลัง แต่มือเขายังโอบเอวนางอยู่
“ข้าชื่อบอนน์” เขาขมวดคิ้วและก้มหน้าจ้องนาง “อีกหน่อยเจ้าเรียกข้าว่าบอนน์ก็พอ ไม่ต้องเรียกนายท่านหรือท่านบารอน”
ทำแบบนี้ผิดหลักเกณฑ์ นางไม่ควรเรียกชื่อเขาตรงๆ แบบนี้ไม่ดีอย่างยิ่ง การทำแบบนั้นทำให้เขากับนางใกล้ชิดกันเกินไป เขาไม่ใช่คนระดับเดียวกับนาง อีกอย่างนางไม่ชอบชนชั้นสูง
แต่นางรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดและความประหม่าอย่างไร้สาเหตุของเขา นัยน์ตาลึกล้ำคู่นั้นมีความขุ่นเคืองที่นางอธิบายไม่ถูก ทั้งยังเจือความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวด ความรู้สึกเหล่านั้นบีบคั้นหัวใจนาง
เคลมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้า รู้สึกลำคอตีบตันขึ้นมาดื้อๆ
“บอนน์แปลว่าหมี”
จวบจนได้ยินเสียงแหบพร่าของตัวเองสะท้อนไปมาบนผนังหิน นางถึงรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป
เขามองนางอย่างตะลึงงัน หางตาที่เกร็งแน่นผ่อนคลายลง จากนั้นมุมปากก็โค้งขึ้น
“ใช่ บอนน์แปลว่าหมี”
นั่นเป็นรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ทำให้เส้นสายแข็งกร้าวบนใบหน้าเขาอ่อนโยนลง ทำให้นางเกือบยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าเขา