เมิ่งซื่อรับหมวกผ้าโปร่งสีม่วงใบหนึ่งจากมือป้าหลิวมาสวมให้บุตรสาว
ผ้าโปร่งสีม่วงยาวถึงบ่า บดบังใบหน้าของเจินจยาฝู นางออกจากเรือพร้อมมารดาและพี่ชาย สายลมพัดมาวูบหนึ่งทะลุผ่านผ้าโปร่งที่พลิ้วไสว มองเห็นบนฝั่งมีม้าตัวหนึ่งยืนอยู่ บนหลังม้ามีชายหนุ่มที่มีลักษณะเช่นคุณชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ มวยผมเสียบปิ่นทอง สวมเสื้อคลุมตัวยาว ท่ามกลางนักเดินทางรอบข้างที่ดูเป็นสีเทาขมุกขมัวเหล่านั้น เขาก็ยิ่งดูสูงส่งโดดเด่นเป็นพิเศษ
เขากำลังชะเง้อคอมองมาทางนี้ไม่หยุด เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นดวงตาก็สว่างวาบ รีบลงจากหลังม้าแล้วเดินเข้ามาหาทันที
คุณชายผู้นี้ก็คือซื่อจื่อของสกุลเผย คุณชายรองเผยซิวจื่อ เขารีบเดินขึ้นมาบนไม้กระดาน เอ่ยเรียกเมิ่งซื่อพร้อมคารวะด้วยรอยยิ้มกว้าง “คำนวณแล้วน่าจะมาถึงในไม่กี่วันนี้ ทุกวันล้วนแต่เฝ้ารอ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง การเดินทางราบรื่นดีหรือไม่ขอรับ”
หนก่อนที่เมิ่งซื่อมาที่เมืองหลวงก็ผ่านไปสามปีกว่าแล้ว ต่อมาหลังสามีโชคร้ายจากไป หลายปีมานี้ก็ไม่เคยออกเดินทางมาตอนเหนืออีก แต่ระหว่างนั้นก็ยังได้พบหน้าเผยซิวจื่ออยู่หลายครั้ง เมื่อสองปีก่อนเขากับเผยซิวลั่วบุตรชายบ้านรอง หลานชายแท้ๆ ของตนผู้นั้นยังเดินทางมาเฉวียนโจวด้วยกันอยู่เลย
“อาศัยบารมีจากคุณชายรอง ทุกอย่างล้วนเรียบร้อยดี” ในใจเมิ่งซื่อมีความสุข ยิ้มแย้มเอ่ยตอบ
เจินเย่าถิงเรียกเขาคำหนึ่ง “พี่รองเผย”
บรรดาพ่อบ้านผู้ติดตามของสกุลเจินก็ทยอยกันคารวะให้เขาภายใต้การนำของจางต้า
เผยซิวจื่อผงกศีรษะ สายตามองไปยังเจินจยาฝู
หนก่อนที่เขาไปเฉวียนโจวและเข้าพักที่คฤหาสน์สกุลเจิน นางเพิ่งจะอายุสิบสี่ปี เพียงแค่เห็นก็รู้สึกว่าหากนางเติบโตขึ้นมาจะต้องงดงามมากแน่ หลังกลับมาเขายังเอาแต่อาลัยอาวรณ์หานาง บัดนี้เวลาผ่านไปสองปี ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่านางงดงามมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
เผยซิวจื่อนึกถึงภาพยามนางเดินออกมาจากเรือเมื่อครู่นี้ ผ้าโปร่งบังเอิญถูกสายลมพัดไหว แม้จะเปิดเผยแค่เพียงครึ่งใบหน้า ก็น่าตื่นตะลึงมากแล้ว เมื่อรวมเข้ากับท่วงท่าดุจเทพธิดา ใบหน้างดงามหมดจด กลายเป็นยิ่งชวนให้ผู้คนคำนึงถึงไม่สิ้นสุด
“ญาติผู้น้อง”
เขามองไปยังเจินจยาฝูที่อยู่เบื้องหลังผ้าโปร่ง เรียกนางคำหนึ่ง น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างมาก
เจินจยาฝูเพียงแค่ย่อกายคารวะน้อยๆ แล้วขยับตัวเดินผ่านเขาไป ติดตามพี่ชายขึ้นฝั่ง ก้าวขึ้นไปยังรถม้าสกุลเจินที่รอพร้อมอยู่ตรงนั้น
เผยซิวจื่อหันหน้ากลับมา เอาแต่มองไปยังเงาร่างของนางจวบจนตัวคนหายไปในรถม้าจึงได้สติกลับมา เขารีบแย่งประคองเมิ่งซื่อขึ้นฝั่ง ตวาดไล่คนเดินถนนที่ขวางทางอยู่ด้านหน้า ก่อนคุ้มกันแม่ลูกสกุลเจินกลับไปยังคฤหาสน์สกุลเจินตลอดเส้นทาง