กรนุชเทรนงานให้กีรณาอย่างหนักเพื่อให้เธอเรียนรู้งานได้เร็วที่สุด โดยวันแรกหญิงสาวได้เรียนรู้ทั้งการเดินถือถาดอาหาร การวางจานอาหาร และกิริยามารยาทต่างๆ ซึ่งเธอบอกเลยว่ามันไม่ง่ายที่จะทำทุกอย่างได้แบบมืออาชีพและเป็นธรรมชาติ พอเข้าวันที่สองเธอก็ฝึกรับมือกับลูกค้าโดยมีเพื่อนพนักงานมาเล่นเป็นลูกค้า เพื่อจะได้เรียนรู้ว่าเมื่อเจอปัญหาต่างๆ เธอจะต้องรับมืออย่างไร
นอกจากนี้กีรณายังได้เรียนรู้วิธีจดจำเมนูไม่ให้ผิดพลาด เพราะบางครั้งลูกค้าก็มาด้วยกันหลายคนและอาจแย่งกันสั่งอาหาร ดังนั้นพนักงานจะต้องมีวิธีจดจำให้แม่น ไม่อย่างนั้นอาจเสิร์ฟอาหารผิดคนได้ แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าจำได้ไม่ผิดพลาดก็จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
ไม่เพียงเท่านั้นหญิงสาวยังต้องพยายามท่องเมนูของร้านให้ได้ว่าแต่ละอย่างมีจุดเด่นอะไร รสชาติเป็นอย่างไร มีส่วนผสมหลักอะไรบ้างจะได้แนะนำลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
พอเข้าวันที่สามกีรณาถึงได้ลองเสิร์ฟจริงๆ โดยมีกรนุชคอยยืนมองห่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด พอเห็นว่าเธอเป็นงานแล้ววันที่สี่ถึงอนุญาตให้ทำงานโดยไม่ต้องมีใครกำกับซึ่งกรนุชก็ชมว่าหญิงสาวเรียนรู้งานได้เร็ว ทำงานอีกสักพักอาจจะเลื่อนขึ้นมาช่วยกรนุชเทรนงานให้รุ่นน้องได้
‘ถ้ากี้ทำได้กี้ก็จะช่วยค่ะ แต่จุดนี้กี้ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน’
กีรณาพูดทีเล่นทีจริงหลังจากเทรนงานวันที่สามทำให้กรนุชยิ้มขัน การได้เทรนงานกับกรนุชทำให้กีรณารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนจริงจัง ตรงไปตรงมา ตำหนิคนไม่ไว้หน้า แต่ใจดี…ซึ่งเธอก็เข้าใจว่าที่กรนุชดุคงเพราะอยากให้เธอทำงานได้ดี และการที่กรนุชมีบุคลิกน่าเคารพก็จะทำให้พนักงานคนอื่นๆ ยำเกรง
“เป็นยังไงบ้างคะ คุณพนักงานเสิร์ฟ”
ตอนใกล้เวลาพักกลางวันวรรณสาก็แวะเข้ามาทักทายก่อนจะไปทานอาหารกลางวันกับเพื่อน กีรณากำลังรับถาดอาหารไปเสิร์ฟก็ส่งรอยยิ้มกวนๆ พร้อมยักไหล่ให้อีกฝ่าย วรรณสาหัวเราะก่อนจะเดินออกไปหาเพื่อนที่รออยู่เพราะตั้งใจจะมาทักทายสั้นๆ ก่อนเดินไปที่โรงอาหารอยู่แล้ว
ส่วนพนักงานเสิร์ฟอย่างกีรณาไม่มีเวลาพักทานอาหารที่แน่นอน ส่วนมากมักจะทานก่อนหรือหลังช่วงพักกลางวันเพราะช่วงนี้ลูกค้าจะแน่นเป็นพิเศษพอๆ กับช่วงหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม
หญิงสาวต้องทำงานสัปดาห์ละหกวัน เธอเลือกหยุดพักในวันอาทิตย์ และในแต่ละวันที่ทำงานสามารถนั่งพักในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ได้หากไม่มีลูกค้าในโซนที่ตนเองรับผิดชอบ หรือหากมีธุระสำคัญจริงๆ ก็อาจจะฝากเพื่อนร่วมงานให้ช่วยดูแลโซนของตนแทนไปก่อน
แม้งานเสิร์ฟจะไม่ใช่งานที่เรียนมา แต่พอได้ทำงานจริงๆ กีรณาก็เริ่มสนุกเพราะเป็นงานที่ไม่เคยทำมาก่อน และเธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากงานนี้
หญิงสาวเคยคิดว่าพนักงานเสิร์ฟก็แค่ยกอาหารมาเสิร์ฟ แต่พอได้ลองทำจริงๆ แล้วมันก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ต้องใช้ทักษะและความสามารถ อย่างน้อยๆ ก็ในเรื่องความจำและความอดทน
“เจอกันอีกแล้วนะครับ”
เสียงใครคนหนึ่งทักทายในตอนที่กีรณาเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าโต๊ะหนึ่งเรียบร้อยแล้วและกำลังจะเดินกลับมาประจำจุดที่สามารถมองเห็นลูกค้าในโซนรับผิดชอบได้อย่างทั่วถึง…ร่างบางถึงกับชะงักฝีเท้า เธอเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง และพูดไม่ออกเมื่อเห็นเขากำลังยืนมองเธอพร้อมรอยยิ้ม
“คุณเชษฐ์!”
หญิงสาวไม่คิดว่าจะได้เจอเชษฐ์ที่นี่ มิหนำซ้ำยังในเวลาทำงาน แต่คิดไปแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเธอจำได้ว่าวรรณสาเคยบอกเอาไว้ว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรม และการที่เขาจะเดินเข้ามาในห้องอาหารของโรงแรมมันก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาเร็วขนาดนี้