ในใจเผยซิวจื่อรู้สึกหงุดหงิดที่เจินเย่าถิงไร้มารยาทอยู่บ้าง แต่เพื่อเจินจยาฝู เขาจำต้องอดทนเอาไว้ ลุกขึ้นมาจากพื้น รักษาท่าทางตามเดิม ยิ้มน้อยๆ เอ่ย “เป็นน้องรองนี่เอง น้องรองอย่าได้โมโหไป เป็นเพราะทางข้าไม่ดีจริงๆ ที่ข้ามาที่นี่เดิมทีก็ตั้งใจมาขอโทษท่านน้าอยู่แล้ว”
สกุลเจินเป็นตระกูลที่มีฐานะมั่งคั่งอันดับต้นๆ ที่เฉวียนโจว ความสัมพันธ์กับขุนนางท้องถิ่นเองก็ดี เวลาเจินเย่าถิงออกไปข้างนอกก็คือนายท่าน ไม่มีผู้ใดไม่ประจบสอพลอ เขาใช้ชีวิตเช่นนั้นมาจนคุ้นชินแล้ว เมื่อครู่ยามได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับมารดาตอนไปคุยเรื่องแต่งงานยังจวนเว่ยกั๋วกง เพลิงโทสะพลันลุกโหม ไม่ว่าอย่างไรก็ทนไม่ไหว ถึงกับบุกเข้ามาตรงๆ แม้เผยซิวจื่อจะยิ้มอยู่เขาก็ยังไม่ไว้หน้า เอ่ยด้วยสีหน้าดุดัน “คุณหนูในห้องหอดีๆ อย่างน้องสาวข้าถูกพวกท่านดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ สาดน้ำสกปรกใส่ร่างนาง แต่ท่านกลับแค่มาอธิบายให้นางฟังเพียงอย่างเดียว?”
สีหน้าของเผยซิวจื่อค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้แล้ว เขาไม่พูดอะไรอีก
เมิ่งซื่อตะโกนเรียกให้จางต้าพาคนเข้ามาบังคับลากตัวบุตรชายที่บันดาลโทสะออกไป หลังเสียงเอะอะโวยวายผ่านไประลอกหนึ่งจึงสงบลง นางกดข่มความว้าวุ่นในใจ หันไปเอ่ยกับเผยซิวจื่อ “วันนี้อารมณ์ข้าค่อนข้างสับสนอยู่บ้างจริงๆ ความตั้งใจของเจ้าข้ารับรู้แล้ว มิสู้เจ้ากลับไปก่อนดีหรือไม่ ให้ข้าได้คิดดูอีกทีก่อน”
เผยซิวจื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของเมิ่งซื่อก็รู้ได้ว่าตนเองรั้งอยู่ต่อไปคงไม่มีประโยชน์อีก ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง ก่อนจากไปยังหันกลับมาเอ่ยรับรองกับเมิ่งซื่ออีกรอบ บอกว่าตนเองจะต้องกลับไปเกลี้ยกล่อมมารดาให้ได้ หลังออกจากประตูใหญ่คฤหาสน์สกุลเจิน เขาก็หน้านิ่วคิ้วขมวดกลับจวนเว่ยกั๋วกงไป เมื่อกลับมาถึงได้รู้ว่าท่านย่ากลับมาจากวัดฉือเอินแล้ว หลังนิ่งคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจเดินไปยังเรือนหลักทางทิศเหนือ
เผยโย่วอันส่งท่านย่ากลับมาถึงเรือนเรียบร้อยก็กลับมายังเรือนเก่าของตนเองที่หนนี้กลับมาพักอยู่ชั่วคราว ไม่นานสาวใช้ผู้หนึ่งก็เดินมา บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าเรียกหา เผยโย่วอันจึงกลับไปอีกครั้ง เห็นเผยซิวจื่อเองก็อยู่ที่นั่น หันมาเรียกตนเองว่า “พี่ใหญ่”
เขาผงกศีรษะตอบรับเรียก “น้องรอง” ออกไปคำหนึ่ง ก่อนหันมาทางฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านย่าเรียกข้ามามีเรื่องใดหรือขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยว่า “อาการป่วยสองครั้งที่ผ่านมาของหลานชายเจ้ามาอย่างไร้ที่มาที่ไป โชคดีที่ไม่ร้ายแรงอันใด วันนี้ก็กลับไปกระโดดวิ่งเล่นได้แล้ว แต่ทางสกุลซ่งกลับกล่าวโทษมาที่บุตรสาวสกุลเจิน บอกว่าดวงชะตาข่มกัน ตั้งแต่นางมาเฉวียนเกอเอ๋อร์ก็เกิดเรื่องขึ้นไม่หยุด มารดาเจ้าเองก็เลอะเลือนหลงเชื่อไปแล้วเช่นกัน ก่อเรื่องไร้สาระ แม้ข้าจะดูลักษณ์คนไม่เป็น แต่หญิงสาวผู้นั้นดูมีใบหน้าสดใส ใจคอกว้างขวาง ไม่เหมือนคนที่จะมีชะตาข่มผู้อื่น ทางสกุลซ่งเอ่ยวาจาเหลวไหลไร้สาระ น่าจะตั้งใจหาเรื่อง จะได้ยกเลิกงานแต่งระหว่างนางกับน้องรองเจ้าสำเร็จ ในเมื่อเจ้าเคยตรวจอาการให้เฉวียนเกอเอ๋อร์ รู้หรือไม่ว่าอาการป่วยเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ จะต้องรักษาอย่างไรให้หายขาด”
เผยโย่วอันมองสบกับสายตาคาดหวังที่เผยซิวจื่อมองมาแล้วลังเลไปเล็กน้อย
ตั้งแต่เด็กเขาได้รับความโปรดปรานจากเทียนสี่ฮ่องเต้ผู้เป็นลุงเขยจากความสามารถอันโดดเด่น ด้วยสภาพร่างกายอ่อนแอมาแต่เด็กจึงเริ่มศึกษาวิชาแพทย์ เคยบังเอิญได้รับตำราแพทย์ตะวันตกเล่มหนึ่ง ภายในตำราเล่มนั้นจดบันทึกตำรับยาโบราณเอาไว้ไม่น้อย รวมไปถึงฤทธิ์ สรรพคุณ และข้อห้ามของยาสมุนไพรต่างๆ หนึ่งในนั้นมีตัวยาชนิดหนึ่งก็คือต้งหลงเหน่าที่ถูกระบุว่าเป็นเครื่องหอม ตอนนั้นเขาเกิดความสนใจขึ้นมา จึงตั้งใจหาต้งหลงเหน่ามาพิสูจน์ ดังนั้นเขาไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญกลิ่นหอมและลักษณะเฉพาะของมันเป็นอย่างดี ยังรู้ถึงฤทธิ์ของตัวยาสมุนไพรชนิดนี้ว่ามีคนจำนวนน้อยมากที่ไม่เหมาะจะใช้ หากสัมผัสจะทำให้ปากบวมตาบวม เกิดผื่นขึ้นทั้งร่าง หากเผลอกินเข้าไปอย่างเบาก็จะใจสั่นเวียนศีรษะ ร้ายแรงก็อาจถึงขั้นหายใจไม่ออกตายได้