แม้จะมีคำถามเต็มท้อง แต่เสวียนอวี้ยังคงเดินตามไปอย่างเชื่อฟัง
เมื่อทั้งสองเดินออกจากค่ายพักแรมของลานล่าสัตว์ก็มีคนเตรียมม้ารออยู่นอกประตูค่ายแล้ว
“รองตุลาการ นี่คือม้าที่ท่านต้องการขอรับ” มีทหารยื่นเชือกบังคับม้ามาให้
ชิงโม่เหยียนมือถือเชือกเตรียมจะขึ้นม้า พลันได้ยินเสียงคนพูดขึ้นด้านหลังว่า “ซื่อจื่อรอสักครู่”
พอหันมองไปตามเสียงก็เห็นเป็นคุณชายอายุน้อยในชุดเรียบๆ ผู้หนึ่งเดินออกมาจากในค่าย
ชิงโม่เหยียนมอบเชือกให้เสวียนอวี้แล้วประสานมือคารวะทันที “ถวายบังคมรัชทายาท”
“ซื่อจื่อจะไปที่ใดหรือ” องค์รัชทายาทท่าทีอ่อนโยน ไม่วางท่าเย่อหยิ่งแม้แต่น้อย ดูเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามสุภาพเรียบร้อยคนหนึ่ง
“สุขภาพไม่ดี ดังนั้นจึงทูลลากับฮ่องเต้ไปแล้ว ขอตัวกลับก่อน” ชิงโม่เหยียนกล่าว
“อ้อ เช่นนั้นก็น่าเสียดาย” องค์รัชทายาทใช้แขนเสื้อป้องปาก ไอเบาๆ อยู่พักหนึ่ง “ได้ยินมานานแล้วว่าซื่อจื่อสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เด็ก ข้าเองก็เช่นกัน เดิมจะมาล่าสัตว์เป็นเพื่อนเสด็จพ่อ น่าเสียดายแม้แต่โอกาสจะขึ้นม้าล่าสัตว์ด้วยตัวเองก็ยังไม่มี…”
ชิงโม่เหยียนก้มหน้า ฟังองค์รัชทายาท ‘โอดครวญ’ ไม่หยุด แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขากับองค์รัชทายาทไม่นับว่าสนิทกันมากนัก เหตุใดอีกฝ่ายจึงตั้งใจมาพูดคุยเรื่องเหล่านี้กับเขากัน
“รัชทายาท ยามนี้ไม่นับว่าเช้าแล้ว กระหม่อมต้องเร่งเดินทาง ขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ” ชิงโม่เหยียนรีบคารวะ ไม่รอให้องค์รัชทายาทเอ่ยปากก็หมุนตัวไปรับสายบังเหียนม้าแล้วพลิกตัวขึ้นหลังม้าทันที
เสวียนอวี้ขึ้นม้าแล้วก็ขี่ตามหลังชิงโม่เหยียน ทั้งสองควบม้าจากไปในที่สุด
องค์รัชทายาทยืนอยู่หน้าค่าย มองดูแผ่นหลังม้าศึกสองตัววิ่งจากไปไกล แววตาส่องประกาย
ในตอนนี้เองเตียวขาวตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากพงหญ้า ปีนขึ้นไปบนไหล่องค์รัชทายาทอย่างคล่องแคล่ว
“พบสัตว์วิเศษตัวนั้นหรือไม่” องค์รัชทายาทเอ่ยถาม
เตียวขาวร้องจี๊ดๆ สองทีด้วยท่าทางหดหู่
“น่าเสียดาย จับสัตว์วิเศษตัวนั้นไม่ได้” องค์รัชทายาทลอบถอนหายใจ เผยรอยยิ้มไร้พิษภัยนั้นออกมาอีกครั้งพลางเกาคอเตียวขาวตัวนั้นเล่นอย่างไม่ใส่ใจ “ช่างเถิด ไม่รีบ พวกเรายังมีเวลาอีกยาวนาน…”
หรูเสี่ยวนันติดตามชิงโม่เหยียน ใช้เวลารุดเดินทางเก้าวันจึงถึงเมืองหลวง
นับจากกลับเข้าเมือง นางรู้สึกว่าดวงตาของตัวเองไม่พอใช้แล้ว
สำหรับนางแล้ว ทุกที่มีแต่ความแปลกใหม่ ตั้งแต่โตมาจนป่านนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเมืองในสมัยโบราณด้วยตาตัวเอง
ท้องถนนผู้คนคึกคัก เสียงตะโกนขายของของแผงลอยข้างทางดังต่อกันเป็นระลอก ในอากาศมีกลิ่นหอมของอาหารลอยมาอยู่เนืองๆ
กลิ่นหอมนั้นยั่วยวนจิตใจของนางอยู่ตลอด ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ทุกมื้อนางจะได้กินเพียงหมั่นโถวที่แช่นมแพะจนนุ่มแล้วเท่านั้น อดอยากปากแห้งมานานแล้ว
นางเอาลิ้นเลียปาก มองไปทางชิงโม่เหยียนตาปริบๆ