เมื่อกลับออกมาก็ใกล้ยามซื่อแล้ว หลี่หมัวมัวเดินไปที่ห้องครัวข้างหลัง ฉาฉาเพิ่งเข้ามาในห้องครัวครั้งแรก ครั้นคนกลุ่มใหญ่เห็นหลี่หมัวมัวก็ยืนรวบมือรอกันเงียบๆ หลี่หมัวมัวราวกับขุนนางใหญ่ที่ออกตรวจตราชายแดนอย่างไรอย่างนั้น นางเดินวนดู บรรดาวัตถุดิบสดใหม่ที่เข้ามาในจวนตอนเช้า วัตถุดิบที่ล้างเรียบร้อยแล้วต้องผ่านเข้ามาในสายตานางรอบหนึ่ง หลี่หมัวมัวเลือกวัตถุดิบบางอย่างพร้อมสั่งให้คนหยิบแล้วเดินตามนางมา
ฉาฉาเดินอุ้มผักหนึ่งกระจาดตามไป วันนี้นางเพิ่งได้รู้ว่าภายในห้องครัวยังสามารถมีห้องครัวได้อีก ส่วนอาหารที่เฉิงตั๋วกินนั้น ที่แท้หลี่หมัวมัวล้วนเป็นผู้ทำเองกับมือในห้องครัวนี้
ผักกระจาดนั้นของนางถูกจัดการอย่างรวดเร็วยิ่ง หั่นส่วนที่ยื่นออกมาจนเหลือแค่แกนกลาง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ อีกครั้ง สุดท้ายในกระจาดก็เหลือเพียงแค่ปริมาณหนึ่งส่วนสามจากเดิม เวลาหลี่หมัวมัวทำอาหารเรียกได้ว่าน่าดูชมอย่างยิ่ง ผักทั้งกองเกิดจากทักษะการใช้มีดอันประณีตของนาง ส่วนฉาฉายืนอยู่นานครู่ใหญ่ก็ทำได้แค่ล้างต้นหอมไปไม่กี่ต้นเท่านั้น
หลี่หมัวมัวพูดว่า “จัดการมันเสีย” ฉาฉาสงสัย อะไรเรียกว่าจัดการ พอคิดๆ ดูแล้วก็เห็นว่าภายในจวนแห่งนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนสิ้นเปลือง ดังนั้นจึงตัดสินใจดึงใบชั้นนอกของต้นหอมออกจนหมดโดยไม่สนใจว่าจะดีหรือเน่า สุดท้ายต้นหอมต้นนี้ก็ถูกหลี่หมัวมัวสับจนกลายเป็นฝอยสม่ำเสมอ
ข้ารับใช้หญิงคนหนึ่งจุดไฟตั้งเตาเรียบร้อยแล้ว ผักทุกอย่างที่หลี่หมัวมัวหั่นถูกยกเข้าไป เช็ดกระทะ ลงน้ำมัน ทยอยทำออกมาทีละอย่างๆ ข้ารับใช้หญิงผู้นั้นเห็นว่ามีฉาฉายืนอยู่แล้ว จึงหาโอกาสเดินหลบออกไป
หลี่หมัวมัวกำลังผัดกับข้าวอย่างหนึ่ง ในตอนที่ใกล้จะผัดเสร็จก็พูดกับฉาฉา “ส่งเกลือมาให้ข้า”
ฉาฉาหันหน้ามองไปรอบๆ พอเห็นถ้วยจานชามจำนวนนับไม่ถ้วน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นลำบากใจ
หลี่หมัวมัวกล่าวเร่ง “มัวแต่ยืนอึ้งอะไรอยู่”
ฉาฉาถูกนางต่อว่าก็รีบก้มหน้าลง มองบรรดาเครื่องปรุงเหล่านั้น
หลี่หมัวมัวหยิบกระปุกใบหนึ่งไป ใช้ช้อนคันเล็กสาดสิ่งที่อยู่ในนั้นลงกระทะพร้อมสั่ง “ไปยืนด้านข้าง”
ฉาฉาจึงไปยืนอยู่ด้านข้าง
กับข้าวจานหนึ่งผัดเสร็จแล้ว หลี่หมัวมัวเทใส่ชาม ทั้งยังแบ่งส่วนที่เหลืออยู่เล็กน้อยเทใส่จานเล็กวางลงข้างๆ แล้วเรียกข้ารับใช้คนหนึ่งมาล้างกระทะ อาศัยช่วงว่างนี้ หลี่หมัวมัวหันหน้ากลับมาถามฉาฉา “อันใดคือน้ำตาล”
ฉาฉายื่นมือออกไป คิดอยากชี้แต่ลังเล สุดท้ายก็เก็บมือกลับมาพลางส่ายหน้า
“อันใดคือน้ำมัน”
ฉาฉาเงยหน้าขึ้น มองแยกแยะอีกครั้ง ท่าทางไม่ค่อยมั่นใจนัก สุดท้ายยังคงส่ายหน้าเช่นเดิม
หลี่หมัวมัวประหลาดใจ “เจ้าไม่เคยทำอาหารนั้นไม่เท่าไร แต่กลับไม่เคยเห็นผู้อื่นทำมาก่อนด้วยอย่างนั้นหรือ!”
ฉาฉาส่ายหน้าอีกครั้งด้วยความอึดอัดใจ กลัวหลี่หมัวมัวจะคิดว่านางแกล้งโง่ อย่างไรก็ตาม ในอดีตนางเคยทำอะไร เมื่อครู่นี้ลวี่เชี่ยวก็ได้พูดออกมาชัดแล้ว
“หรือว่าชาวหูไม่ใช่แค่ทำอาหารไม่เป็น กระทั่งเกลือก็ไม่กินอย่างนั้นหรือ”
เรื่องนี้…ฉาฉามองนางอย่างลำบากใจยิ่ง
“ตอนเด็กๆ ก็ไม่เคยเห็นคนในครอบครัวทำอาหาร?”
ฉาฉาส่ายหน้าอีกครั้ง
หลี่หมัวมัวไม่ถามอะไรอีก เพียงกล่าวว่า “หากทำไม่เป็นก็เรียนรู้เสีย!”
ฉาฉาพยักหน้าตั้งใจ
หลี่หมัวมัวเช็ดมือ ก่อนจะถามว่า “อันใดคือเกลือ”