ออร์แกไนเซอร์สาวพยายามเชื่อตามที่คนรักพร่ำบอก แต่ความเชื่อใจก็ลดน้อยลงเมื่อฝ่ายชายขอย้ายไปอยู่ที่คอนโดฯ ตามลำพังโดยให้เหตุผลว่าอยากโฟกัสกับการทำงาน แล้วการอยู่ร่วมบ้านกับเธอจะทำให้เป็นข่าว เพราะตอนนี้เขากำลังโด่งดัง หากมีนักข่าวรู้ว่าเขาแอบซุกเมียเอาไว้อนาคตพระเอกอย่างเขาต้องพังแน่ๆ ในตอนนั้นรศิตาไม่เห็นด้วยเลย เพราะเธอท้องใกล้คลอดแล้ว แต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะไป
กระทั่งในวันคลอดรศิตาอยากให้ภาคินมาอยู่ด้วย แต่เขาอ้างว่าติดถ่ายละครที่ต่างจังหวัดจนมาไม่ได้ทำให้เธอต้องไปที่โรงพยาบาลคนเดียว
ยังดีที่ธรณินมาอยู่เป็นเพื่อนและคอยให้กำลังใจ ไม่อย่างนั้นสภาพจิตใจของเธอคงย่ำแย่ แต่พอผ่านคืนนั้นมาได้เธอก็ต้องช็อกหนักเมื่อเห็นข่าวภาคินขอมุกตาภาหมั้นกลางกองถ่าย
หัวใจของรศิตาถูกขยี้จนแหลกสลาย ความเชื่อมั่นที่มีต่อภาคินแทบไม่เหลือแล้ว ส่วนธรณินโกรธจนตามไปด่าภาคินถึงคอนโดฯ ส่วนตัวของเขา และทำให้เขาโกรธมากจนมาลงกับรศิตา
ในตอนนั้นสภาพจิตใจของรศิตาแย่มาก เพราะทั้งผลพวงจากภาวะหลังคลอด ทั้งต้องดูแลลูกคนเดียว ทั้งข่าวหมั้นของภาคินกับมุกตาภา และเขายังมาต่อว่าเธอที่ปล่อยให้ธรณินไปวุ่นวายกับชีวิตเขาอีก เธอขอคำอธิบายจากเขาว่าข่าวหมั้นคืออะไร เขาบอกแค่เพียงว่าเป็นการสร้างกระแสเท่านั้น
นั่นเป็นอีกครั้งที่รศิตายอมเชื่อเพราะยังตัดใจจากเขาไม่ได้…
ก่อนหน้านี้ธรณินเก็บความไม่พอใจที่มีต่อภาคินเอาไว้มาตลอด แม้จะต้องเห็นเพื่อนเสียใจ ร้องไห้ จิตใจย่ำแย่ และใบหน้ามีแต่ความหม่นหมองแทบจะทุกวัน แต่หลังจากที่ภาคินขอมุกตาภาหมั้นหมายนี่แหละที่เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เพราะคิดว่านั่นไม่ใช่แค่การสร้างกระแสหรือทำเพื่องานแน่ๆ
รศิตาเองก็รู้ว่าธรณินโกรธแค่ไหนที่ผู้ชายคนนั้นทำร้ายจิตใจเธอ นับตั้งแต่รศิตาตั้งท้องน้องภู เธอมีคนรักก็เหมือนไม่มี มีสามีก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระใดๆ
เธอต้องไปฝากท้องคนเดียว ไปโรงพยาบาลคนเดียว ดูแลตัวเองคนเดียว และทำอะไรคนเดียวเสมอ แม้จะมีธรณินคอยอยู่ข้างๆ และมีแม่บ้านคอยดูแล แต่หลายครั้งเธอก็อดที่จะรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะภาคินแทบจะไม่เหลียวแลครอบครัวเลย
แม้กระทั่งน้องภูลืมตาออกมาดูโลก เขาก็ไม่ได้สนใจเธอกับลูก!
ระยะหลังๆ ธรณินจึงออกปากให้รศิตาตัดใจจากภาคิน อีกทั้งยังด่าทอว่าเขาสารเลวแค่ไหนที่ไร้ความรับผิดชอบจนแทบจะไม่มาหาลูก เดือนหนึ่งจะแวะมาแค่สองถึงสามครั้ง เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้าไม่ขอก็ไม่คิดจะให้จนกลายเป็นว่ารศิตาต้องดูแลค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการคลอดลูกและดูแลลูกเพียงลำพัง
‘เขาถีบหัวส่งแกแล้วศิ ตัดใจจากผู้ชายสันดานแมงดาพรรค์นั้นแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ คิดซะว่าที่ผ่านมาเสียค่าโง่ ถึงแกจะมีลูกแล้วแต่สมัยนี้ผู้ชายดีๆ เขาก็ไม่แคร์หรอก ถ้าแกตัดใจได้ อีกไม่นานแกก็จะเจอคนใหม่ ผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่งและรักแฟนอย่างแกหาผู้ชายดีๆ ได้ไม่ยากหรอก แกเชื่อฉัน’
ธรณินทั้งปลอบทั้งดุเมื่อเห็นรศิตาแอบร้องไห้เพราะเห็นข่าวภาคินกับมุกตาภาประกาศจะแต่งงานกัน หลายครั้งเธอพยายามตัดใจอย่างที่เพื่อนแนะนำ แต่สุดท้ายก็ยังตัดใจจากเขาไม่ได้อยู่ดี
รศิตารู้ว่าถ้าใครรับรู้เรื่องนี้คงจะด่าว่าเธอโง่งม และด่าว่าที่เธอเจ็บก็เพราะจมปลักอยู่กับภาคินเอง แต่ถ้าใครไม่เจออย่างเธอก็คงไม่รู้ว่าการตัดใจมันทำได้ยากที่สุดโดยเฉพาะเมื่อเธอมีลูกกับเขาแล้ว
‘ผมแต่งงานกับตาก็ไม่ใช่ว่าผมจะทิ้งคุณกับลูก’
ภาคินบอกเธออย่างนั้นหลังจากที่เธอโทรไปถามเขาเมื่อเห็นข่าวที่เขาประกาศแต่งงานกับมุกตาภาโดยไม่ปรึกษาหรือบอกเธอสักคำ น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่พอใจและแค่อธิบายให้มันจบๆ ไปเท่านั้น
‘มันหมายความว่าคุณจะจริงจังกับผู้หญิงคนนั้นแล้วใช่มั้ย ไหนคุณบอกว่าที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องงานไง แล้วคุณจะไปแต่งงานกับยายตาแบบนั้น คุณเอาฉันกับลูกไปไว้ที่ไหน!’
รศิตาจำได้ว่าเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นและตะโกนใส่โทรศัพท์มือถืออย่างทนไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาเธอพยายามอดทนมาตลอด