ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 12 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 12

หน้าที่แล้ว1 of 8

บทที่สิบสอง

อีกด้านหนึ่ง รุ่งสางของวันที่สิบสามเดือนสอง พวกอี๋อวี้นั่งรถม้าของคุณชายฉางออกจากหมู่บ้านเค่าซานมุ่งหน้าสู่ด่านใน แม้จะแวะหยุดพักกลางทาง แต่ยังคงแล่นตะบึงไปถึงอำเภอไหวอันในหร่านโจวก่อนเวลาโพล้เพล้ และเข้าพักแรมที่โรงเตี๊ยมชื่อว่าฝูหยวนในตัวอำเภอ

ทุกคนตรากตรำเดินทางมาทั้งวัน หมายใจจะนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ราตรีหนึ่ง วันพรุ่งยามเหม่าค่อยเดินทางต่อ

ตอนจ่ายค่าพักแรม หลูซื่อกับอาเซิงยื้อแย่งกันออกเงินอยู่ตรงโต๊ะหน้าร้านอย่างไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายเป็นเสียงแค่นดัง ‘ฮึ’ ของคุณชายฉางที่ยุติปัญหาได้ โดยให้หลูซื่อจ่ายค่าอาหาร อาเซิงจ่ายค่าห้องพัก พอทั้งห้าคนกินอาหารมื้อเย็นที่ชั้นล่างของโรงเตี๊ยมด้วยกันเสร็จแล้วก็ต่างคนต่างกลับเข้าห้อง

ห้องใหญ่ของที่นี่มีเตียงนอนสองเตียง เมื่ออาเซิงยืนกรานจะพักห้องเดียวกับผู้เป็นนาย หลูซื่อจึงขอให้เขาจองห้องใหญ่เพียงสองห้อง แบ่งกันพักคนละห้องแบบนี้ก็ไม่รู้สึกเบียดเสียด ภายในห้องไม่ได้ตั้งของประดับตกแต่งที่มีราคาค่างวดอันใด แต่มีโต๊ะ เก้าอี้ และเตียงนอนครบถ้วน สำหรับอำเภอไหวอันที่มิได้เจริญรุ่งเรืองนัก โรงเตี๊ยมแห่งนี้นับว่ามีสภาพดีแล้ว

 

หลังจากใช้น้ำร้อนที่เสี่ยวเอ้อร์ยกมาให้ล้างหน้าบ้วนปาก สตรีทั้งสามล้วนอ่อนล้า แต่ยังห่มผ้าซุกตัวอยู่บนเตียงเดียวกัน สนทนาเรื่องที่คุยระหว่างทางไม่ใคร่สะดวก

อี๋อวี้นั่งตักหลูซื่ออยู่ทางด้านขวาของเตียง ส่วนหลิวเซียงเซียงนั่งห่มผ้าอยู่อีกฝั่งหนึ่ง

“ในที่สุดก็หนีมาได้แล้วนะ” หลูซื่อถอนหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง

“ใช่แล้ว ตอนที่พวกเราหนีมีคนไล่ตามหลังมาเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนั้น ข้านึกว่าคงต้องถูกจับกลับไปแล้วจริงๆ” หลิวเซียงเซียงดึงผ้าห่มบนตัว ส่งยิ้มอ่อนระโหยให้หลูซื่อ ถึงจะพอสงบอกสงบใจลงได้ แต่นางก็ยังไม่หายหวาดผวาจริงๆ

นางกล่าวต่อ “จะว่าไปแล้ว เดชะบุญที่พวกเราได้พานพบคนดี ข้าเห็นว่าถึงคุณชายฉางผู้นั้นไม่ช่างพูด แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนจิตใจดี”

เมื่อได้ยินวาจานี้ของนาง หลูซื่อพยักหน้าก่อน แล้วก็ส่ายหน้าพร้อมพูด “เซียงเซียง ข้าขอบอกเจ้าจากใจจริง พวกข้าน่ะสำนึกในบุญคุณของคุณชายฉางที่ยื่นมือช่วยเหลือ กระนั้นข้ากับเสี่ยวอวี้ต้องขอบคุณที่เจ้าช่วยพวกข้าเอาไว้ก่อน”

นางพูดพลางโน้มตัวไปจับสองมือที่วางอยู่บนผ้าห่มของหลิวเซียงเซียง “หากมิใช่เจ้าพาพวกข้าสองแม่ลูกหนีออกมา เกรงว่าขณะนี้ข้าคงกลายเป็นภรรยาของเจ้าคนแซ่จางที่น่ารังเกียจนั่นไปแล้ว”

“ท่านน้า…” หลิวเซียงเซียงเห็นสีหน้าของหลูซื่อ ขยับปากจะพูดก็ถูกนางตัดบท

“ฟังข้าพูดให้จบก่อน หลังจากเรื่องนี้ ข้าไม่อาจเห็นเจ้าเป็นคนนอกอีก นับแต่น้องชายสองคนของเจ้าจากเรือนไปจนเกิดเรื่องเหยียบย่ำรังแกกันนี้ขึ้น ข้าได้เห็นทั้งคนที่หันหลังให้ คนที่เหยียบย่ำซ้ำเติม คนที่หลบลี้หนีหน้า ถ้าไม่มีเสี่ยวอวี้อยู่ด้วย หวั่นใจแต่ว่าข้าคงถูกคนพวกนั้นบีบคั้นจนเสียสติไปแล้ว ถึงข้าจะเป็นหญิงม่ายคนหนึ่ง แต่ถือเรื่องความบริสุทธิ์สำคัญยิ่งชีพ หากไม่ได้เจ้าช่วยไว้ ในวันนี้ข้าอาจต้องยอมจำนนต่อคนบัดซบแซ่จางเพราะถูกข่มขู่ไปแล้วจริงๆ และกว่าน้องชายสองคนของเจ้าจะกลับมาช่วยชำระแค้นนี้ให้ ข้าคง…ข้าคง…”

พูดถึงตรงนี้ สุ้มเสียงของนางเริ่มสั่นเครือ แม้นมิได้กล่าวถ้อยคำด้านหลังออกมา แต่อี๋อวี้กับหลิวเซียงเซียงล้วนคาดเดาได้ หากปล่อยให้คนกลุ่มนั้นสมดังใจหมายเพราะสถานการณ์บังคับจริงๆ หลูซื่อคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเป็นแน่ อี๋อวี้ฟังถึงตรงนี้ จิตใจที่สงบลงเพราะหนีพ้นมาได้อย่างราบรื่นในทีแรกก็เริ่มว้าวุ่นขึ้นมาอีก

กล่าวถึงต้นตอแห่งเภทภัยของเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนมาจากตัวพวกหวังซื่อทั้งสิ้น ถ้าพวกนางไม่คอยขัดแข้งขัดขาและเจตนาใส่ร้าย แม่ลูกสกุลหลูคงไม่ตกอยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก และลงเอยด้วยการพลัดเรือนพลัดถิ่น หลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุนเยี่ยงนี้ ไม่ว่าใครคนใดล้วนยากจะกล้ำกลืนความโกรธนี้ไว้ ส่งผลให้ความแค้นเคืองในครานี้ได้ฝังลึกลงในใจพวกนางแล้ว

ยามอี๋อวี้เพิ่งฟื้นสติขึ้นมาแล้วฟังคำบอกเล่าของหลูซื่อ นางก็รู้ว่านายบ่าวที่ยื่นมือช่วยเหลือพวกนางสามคนคู่นั้นหาใช่ชาวบ้านสามัญชน สารถีคนนั้นสามารถต่อยตีบ่าวผู้ชายล่ำสันแข็งแรงสิบกว่าคนจนสลบเหมือดได้ในไม่กี่กระบวนท่า ต้องเป็นผู้รู้วรยุทธ์ดีคนหนึ่งแน่นอน เทียบกับหลูจวิ้นที่ร่ำเรียนวิชาหมัดมวยพื้นฐานมาหลายปี น่าจะเป็นยอดฝีมือเข้าขั้นจริงๆ ตอนพวกนางกลับไปเอาสัมภาระที่หมู่บ้านเค่าซาน อี๋อวี้ต้องข่มใจแล้วข่มใจอีกถึงไม่ได้เอ่ยปากขอร้องผู้มีพระคุณให้ช่วยลงโทษสตรีชั่วร้ายอย่างหวังซื่อ

จะอย่างไรก็เป็นคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ช่วยพวกนางไว้ครั้งหนึ่งก็มากพอแล้ว ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะโยนความเคียดแค้นไปให้ผู้อื่น นางไม่ใช่คนไร้เหตุผล จึงฝืนสะกดความชิงชังในใจไว้ และติดตามพวกเขาออกจากหมู่บ้านเค่าซาน

หน้าที่แล้ว1 of 8

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com