ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 7 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 7

“คนในเมืองพวกนั้นดูถูกคนชนบทอย่างพวกเราก็นับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เจ้าอย่าได้ทุกข์ใจเพราะมันเลย พวกเราทำมาหากินอย่างสุจริตเป็นพอ ไม่ต้องไปใส่ใจสายตาของผู้อื่น” หลูซื่อพูดจบแล้วมองอี๋อวี้ด้วยแววตาเคว้งคว้างอยู่บ้าง

อี๋อวี้เห็นว่าแม้มารดาจ้องมองตนเองอยู่ ทว่าดวงตาทั้งคู่เลื่อนลอยขึ้นทีละน้อยก็ชักตระหนกในใจ กลับได้ยินนางพึมพำกับตนเอง “ถ้ามิใช่…พวกเจ้าพี่น้องคงไม่ถูกคนดูแคลน…”

เสียงของนางเบามาก ทั้งยังขาดเป็นห้วงๆ อี๋อวี้ได้ยินแค่ถ้อยคำหนึ่งที่นางพูดซ้ำไปซ้ำมาตอนท้ายคลับคล้ายจะเป็นคำว่า ‘ถูกๆ ผิดๆ’ อะไรสักอย่าง บันดาลให้ข้อกังขาที่ทับถมอยู่ในหัวตั้งแต่เมื่อครึ่งค่อนปีก่อนผุดขึ้นมาอีกครั้ง

นางพยายามสะกดความกระหายใคร่รู้ความจริงเอาไว้ หลังจากปรับตัวเข้ากับครอบครัวนี้ได้แล้วมีเรื่องเดียวที่นางรู้สึกเสียดายตราบจนทุกวันนี้จริงๆ ก็คือเรื่องที่ดูเหมือนทุกคนรู้กันหมดยกเว้นแต่นางคนเดียวเรื่องนี้

ถึงกระนั้นนางจะทำให้หลูซื่อต้องเสียใจเพราะความอยากรู้อยากเห็นของตนไม่ได้ มารดากับพี่ชายสองคนต่างพยายามปิดบังนางเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ ในเมื่อพวกเขาไม่อยากให้นางรู้ เช่นนั้นนางจะทำให้คนในครอบครัวต้องกลัดกลุ้มใจมากขึ้นเปล่าๆ ปลี้ๆ ไม่ได้

ต่อให้ทุกคนมี ‘ความลับ’ ระหว่างกัน ถึงที่สุดแล้วทุกคนยังคงเป็นคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด

เกวียนเทียมวัวแล่นผ่านทางขรุขระจุดหนึ่งพอดี ร่างของทั้งคู่สะเทือนวูบหนึ่ง คนหนึ่งเงยหน้า คนหนึ่งดึงสติคืนมา สายตาของพวกนางสบประสานกันอีกครั้ง

สีหน้าของหลูซื่อค่อยๆ อ่อนละมุนลง มือหนึ่งดึงสายบังเหียนบนตัววัว มือหนึ่งลูบผมบุตรสาวเบาๆ พร้อมกล่าว “ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ ก็คิดถึงเรื่องในอดีต แม้เจ้ายังเป็นเด็ก อีกทั้งสมองไม่ปกติอยู่หลายปี แม่ยังรู้สึกอยู่ไม่วายว่าดูคล้ายเจ้ามีอะไรบางอย่างผิดแผกจากผู้อื่น เจ้าฉลาดเทียบจื้อเอ๋อร์ไม่ได้ แล้วก็ไม่ร่าเริงเท่าจวิ้นเอ๋อร์ แต่บางครั้งกลับเหมือนเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อยเสียยิ่งกว่าพี่ใหญ่เจ้าเสียอีก”

อี๋อวี้ฟังนางพูดจบแล้วก็อึ้งงันไปในทีแรก ต่อมาจึงส่งยิ้มอ่อนหวานให้นางแล้วเอ่ยขึ้น “เสี่ยวอวี้แค่รู้สึกว่าสมองตนเองเข้าใจทุกอย่างดี แต่ไม่ได้เป็นหนอนหนังสืออย่างพี่ใหญ่ที่ทำตัวเหมือนตาเฒ่าคนหนึ่งหรอกนะเจ้าคะ”

นางรู้ว่าการกลบเกลื่อนกิริยาอาการบางอย่างของตนเองที่ผ่านมาต้องทำให้หลูซื่อเฉลียวใจเป็นแน่ จึงไม่เคยคิดจะแสร้งทำเป็นเด็กน้อยที่ใสซื่อไม่รู้ประสีประสา ในเมื่อหลูซื่อเอ่ยออกมา ก็แสดงว่าไม่ใคร่จะใส่ใจกับ ‘ความฉลาดเกินวัย’ ของนาง

“คำพูดนี้อย่าให้เขาได้ยินเข้าเชียว ประเดี๋ยวเขาจับจุดอ่อนของเจ้ามาเย้าแหย่เจ้าบ้าง แม่ไม่รู้ด้วยนะ” หลูซื่อกลั้นยิ้มไม่อยู่

อี๋อวี้ทำปากยื่นอย่างไม่พึงใจ แต่พอนึกไปถึงท่าทางน้ำนิ่งไหลลึกของเจ้าเด็กตัวร้ายหลูจื้อแล้วนางก็ลอบสะท้านเยือกในอก ไม่ ‘นินทา’ เขากับหลูซื่ออีก จากนั้นเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงหลูจวิ้นที่รังแกได้ง่ายกว่า

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com