ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 8 – หน้า 12 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 8

ด้านนี้สองคนแม่ลูกยังต่อล้อต่อเถียงกันอยู่ ประตูหน้าที่ว่าการทาสีแดงเข้มถูกผลักเปิดออกอย่างช้าๆ เจ้าหน้าที่ชุดเทาแปดคนวิ่งเหยาะๆ ออกมาแล้วตวาดไล่กลุ่มคนที่ห้อมล้อมอยู่ให้ถอยห่างออกไป เมื่อเว้นที่ว่างห่างจากกำแพงด้านหนึ่งของที่ว่าการได้เจ็ดแปดก้าว เสมียนของที่ว่าการในชุดขุนนางสีน้ำตาลเข้มอีกคนหนึ่งประคองม้วนกระดาษไว้ในมือก้าวออกทางด้านในของประตู มีเจ้าหน้าที่สองคอยคนคุ้มกันไปจนถึงตรงหน้ากำแพง เขาหยุดยืนแล้วยื่นม้วนประกาศผลสอบให้สองคนนั้นช่วยกันคลี่ออกติดบนกำแพง

รอจนเจ้าหน้าที่คุ้มกันเสมียนผู้นั้นย้อนกลับไปยังหน้าประตูที่ว่าการอีกครา เขาถึงตะโกนเสียงดังว่า “ดูประกาศได้!”

หมู่สามัญชนที่ยำเกรงในบารมีของที่ว่าการจนไม่กล้าเข้าไปใกล้ในทีแรกต่างกรูเข้าไปพร้อมกัน

หลูจวิ้นสบช่องมุดตัวลอดเข้าไปในฝูงชน หลูซื่อมือหนึ่งจูงอี๋อวี้ มือหนึ่งจูงหลูจื้อก้าวถอยไปด้านหลัง เมื่อครู่ทันทีที่สิ้นเสียงเสมียนผู้นั้น ผู้คนด้านข้างเบียดเสียดกันอยู่พักหนึ่งแล้วพากันวิ่งไปอยู่ข้างหน้ากันหมด ตอนนี้รอบตัวสามแม่ลูกจึงว่างเปล่าลงทันใด

“เหตุใดยังไม่เห็นกลับมาอีกนะ หาชื่อชื่อเดียวมันยากเย็นปานนั้นหรือ” ทั้งสามถอยไปอยู่ใต้ต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่งหน้าโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามของที่ว่าการไม่ทันไร หลูซื่อก็อ้าปากพูด

“ท่านแม่ น้องรองเพิ่งเบียดเข้าไปเองขอรับ” หลูจื้อถอนใจเฮือกหนึ่ง ปล่อยให้มารดากุมมือข้างหนึ่งของเขาไว้แน่น

“ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ คนเยอะขนาดนั้น พี่รองจะออกมาเร็วเพียงนั้นได้ที่ไหนกัน” อี๋อวี้สอดปากขึ้นบ้าง นางไม่กังวลใจอย่างหลูซื่อ นางเชื่อมั่นในความสามารถของหลูจื้อถึงเก้าส่วน ที่เผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งแค่เป็นห่วงว่าจะมีอะไรไม่คาดฝันเท่านั้นเอง

หลูซื่อได้ยินคำพูดของลูกสองคนแล้วพยักหน้าไม่กล่าววาจาอีก เพียงเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อย สองตาจับจ้องไปทางแผ่นประกาศผลสอบแผ่นนั้นนิ่งๆ ราวกับว่าทำเช่นนี้แล้ว นางจะมองหาร่างของหลูจวิ้นท่ามกลางฝูงชนกลุ่มใหญ่นั่นได้

อี๋อวี้มองดูผู้คนเบียดเสียดกันที่อีกฟากหนึ่งของถนน พลางแยกแยะเสียงเอ็ดอึงที่ดังมากระทบหูได้ว่าเป็นเสียงโห่ร้องหรือเสียงร่ำไห้ มันพาให้หวนนึกไปถึงตอนที่ตนเองสอบเข้ามหาวิทยาลัย ใช้โทรศัพท์สาธารณะที่ป้อมยามหน้าประตูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโทรไปสอบถามคะแนน ความรู้สึกในยามนั้นคงจะเหมือนกับบัณฑิตเบื้องหน้าสายตากลุ่มนี้ ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวังระคนวิตกกังวล รอเมื่อรู้ผลแล้วจะมีกี่คนที่ดีใจและกี่คนที่เสียใจเล่า

“ท่านแม่!” หลูจวิ้นยังไม่ย่างเข้าวัยแตกพาน แม้นบนถนนจะอึกทึกเซ็งแซ่ เสียงพูดกังวานใสของเขายังลอยมากระทบโสตประสาทของอี๋อวี้ก่อน ต่อจากนั้นนางเพียงรู้สึกว่ามีเงาคนวาบผ่านข้างกายไปทันที เป็นหลูซื่อทะยานกายออกไปจับตัวหลูจวิ้นที่เพิ่งตะเกียกตะกายออกมาจากกลุ่มคน

“เป็นอย่างไร หาเจอหรือไม่!” หลูจวิ้นแออัดยัดเยียดอยู่กลางฝูงชนจนหน้ามืดตาลายอยู่แล้ว ซ้ำยังถูกรมด้วยกลิ่นนานาชนิดๆ จนวิงเวียนศีรษะ ครั้นโดนหลูซื่อฉุดดึงไปกะทันหัน อย่าว่าแต่จะพูดตอบเลย กระทั่งทิศทางยังแยกไม่ออกแล้ว

“เจ้าพูดอะไรบ้างสิ เห็นชื่อของพี่ใหญ่เจ้าหรือไม่” ชั่วขณะนี้หลูซื่อไม่คำนึงถึงว่าเสื้อผ้าผมเผ้าของบุตรชายคนรองของตนหลุดลุ่ยยุ่งเหยิง เห็นเขายืนทื่อเป็นเบื้อใบ้ก็อยากจะซัดฝ่ามือใส่เขาอีกสักทีใจจะขาด

อี๋อวี้กับหลูจื้อที่ใต้ต้นไม้เห็นแล้วรีบเข้าไปห้าม หลูจื้อกล่าวว่า “ท่านแม่ ให้น้องรองหยุดพักหายใจก่อนขอรับ”

“…ท่านแม่” หลูจวิ้นผ่อนลมหายใจได้เป็นปกติอย่างไม่ง่ายดาย เขาฉีกปากกว้างอวดไรฟันขาววาววับที่ได้อี๋อวี้คอยตรวจความสะอาดมาหลายปี ส่งยิ้มให้สามคนตรงหน้าที่มีสีหน้าวาดหวังเต็มเปี่ยม พร้อมกับพูดเสียงดัง “ท่านแม่ ลูกวิ่งได้เร็วที่สุด ไม่มีใครเบียดข้ากระเด็นได้ขอรับ”

อี๋อวี้เห็นท่าทางแสนซื่อของพี่รองแล้วหางตากระตุกริก นางเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง อึดใจต่อมาได้ยินเสียงดังทึบๆ คละเคล้าเสียงโอดโอยของหลูจวิ้น

“ร้องอะไร บอกมาเร็วเข้า” ถึงเห็นท่าทางของบุตรชายคนรองแล้วคลายใจลงได้เจ็ดส่วน หลูซื่อก็ยังอยากฟังจากปากเขาให้แน่ใจเลยประเคนฝ่ามือลงไป

“โอ๊ย! ท่านแม่ตีข้าอีกแล้วนะ” หลูจวิ้นเจ็บที่ท้ายทอย บนใบหน้าแฝงรอยคับข้องหมองใจสามส่วน แต่เห็นมารดาถลึงตาใส่ก็กลัวจะถูกตบหัวอีก เขารีบพูดเสียงรัวเร็ว “มีๆๆๆ มีชื่อของพี่ใหญ่ ซ้ำยังอยู่ด้านบนสุดด้วย ฮ่าๆ พอข้าไปถึงก็มองเห็นเลย…”

เพียงพูดถึงตรงนี้ คำพูดทวงความชอบด้านหลังก็ไม่มีคนฟังต่ออีก หลูซื่อโอบตัวหลูจื้อที่ตัวสูงเท่ากับนางแล้วเข้ามากอดหมับ พลางเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ “ลูกชายคนเก่ง ลูกชายคนเก่งของแม่!”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่ใหญ่ต้องสอบผ่านแน่” อี๋อวี้ยิ้มจนตาหยีอยู่ด้านข้าง

ยามที่ชาวสกุลหลูทางนี้กำลังสุขสำราญบานใจ ฝูงชนอีกด้านหนึ่งกลับมีคนหมดสติถูกหามออกมามากมายหลายคน บ้างทนรับความสะเทือนใจไม่ไหวเพราะมีชื่ออยู่หลังซุนซาน บ้างกลับตื่นเต้นเกินไปเพราะมีชื่ออยู่บนแผ่นประกาศ กระนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การสอบระดับมณฑลทั่วแผ่นดินได้ยุติลงอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้สอบผ่านสามารถเตรียมตัวเข้าเมืองหลวงไปรายงานตัวต่อผู้คุมสอบได้ ส่วนผู้สอบไม่ผ่านคงได้แต่รอลองใหม่อีกคราในปีหน้าแล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

บทที่ 5 เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงาน...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 9-10

บทที่ 9 หวังอวี้หล่างไม่นึกฝันว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายรองที่นี่ เมื่อครู่นี้เขายังแสดงกิริยาเสียมารยาทอีกด้วย ในเวลานั้นจ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 7-8

บทที่ 7 อวี้ฉือเฟยเยี่ยนฝืนยิ้มเอ่ย “เซียวอ๋องเสด็จมาผิดเวลา โจ๊กในร้านขายหมดไปนานแล้วเพคะ” เซียวอ๋องติดกระดุมคอเสื้อ ริ...

community.jamsai.com