บทที่ 7
“พูด เกิดเรื่องใดขึ้น”
“ทูลท่านอ๋อง…” ผิงถงก้มศีรษะประสานนิ้วมือทั้งสิบไว้ตรงหน้าท้อง นางทิ้งตัวลงคุกเข่าท่ามกลางความแคลงใจของหลี่ไท่ “หม่อมฉันสมควรตาย ไม่ได้ดูแลคุณหนูให้ดี ท่านอ๋องโปรดทรงลงทัณฑ์ด้วยเพคะ”
เขาใจกระตุกวูบ สายตาที่จับจ้องตัวสาวใช้เริ่มเปล่งประกายเหี้ยมเกรียมอย่างสุดระงับ ข่มขวัญนางจนต้องก้มตัวลงต่ำอีกหลายส่วน
“หือ?”
ได้ยินเขาทำเสียงขึ้นจมูกเบาๆ ผิงถงก็บังเกิดความพรั่นพรึงจนหมอบตัวลงกับพื้น นางนึกถึงวิธีการของผู้เป็นนายเก่าคนนี้แล้วเพียงรู้สึกขนอ่อนตรงท้ายทอยตั้งชัน แต่เมื่อภาพอี๋อวี้ลมหายใจรวยรินตอนถูกพาตัวไปในคืนก่อนผุดขึ้นในห้วงสมอง ก็ไม่รู้ว่านางไปเอาความกล้ามาจากที่ใด กล่าวตอบเสียงแข็ง
“หม่อมฉันมิบังอาจปกปิด ยามบ่ายวันที่สิบสามคุณหนูกลับมาจากเมืองหลวง ถือป้ายไม้สลักอย่างดีอกดีใจ พูดคุยและกินอาหารเย็นกับฮูหยิน ตกดึกยังเขียนหนังสืออยู่เป็นนาน แต่พอหัวถึงหมอนก็หลับไป ตอนกลางดึกนางตกใจตื่นจากฝันครั้งหนึ่ง หม่อมฉันยังไม่รับรู้ถึงความผิดปกติ ทว่าเช้าวันถัดมานางก็เริ่มจับไข้พูดเพ้อไม่หยุด เรียกอย่างไรก็ไม่ตอบ ฮูหยินรีบเร่งให้คนไปตามหมอในเมืองมาดูอาการแล้วต้มยาสมุนไพร ไหนเลยจะรู้ว่านางดื่มไปสองเทียบ พอตกบ่ายกลับตัวร้อนมากขึ้นอีก จวบจนหัวค่ำ นางไม่พูดเพ้อแล้ว ตะ..แต่ไข้สูงจนหมดสติ ท่านหมอบอกว่าเพราะคุณหนูตากฝน ประกอบกับธาตุไฟกำเริบ ถ้าไข้ไม่ลด…”
เสียงข้อนิ้วลั่นเปาะๆ ตัดบทเสียงพูดรำพันแกมสะอื้นของผิงถง นางเกร็งคอเงยหน้ามองแวบหนึ่ง เห็นใบหน้าเย็นชาเป็นนิจของหลี่ไท่ปรากฏแววอำมหิตโดยไม่ปิดบังสักนิด มือหนึ่งกำเป็นหมัดแน่นวางราบกับโต๊ะ เกร็งแรงราวกับกำลังข่มความโกรธอยู่ แค่ปราดเดียวนี้ก็ทำให้ความสะพรึงกลัวที่นางสะกดไว้เมื่อครู่นี้ย้อนกลับมาเกาะกุมกะทันหัน
“เกิดเรื่องพรรค์นี้กลับไม่รู้จักมาหาคนในเมืองหลวง พวกเจ้าเป็นคนตายใช่ไหม”
ถ้อยคำนี้ของเขาถามตรงจุดพอดี ผิงถงทำใจดีสู้เสืออ้าปากพูดตะกุกตะกัก พร้อมกับน้ำตาไหลพรากอย่างกลั้นไม่อยู่
“สะ…ส่งคนมาหาแล้วเพคะ บ่ายวันนั้นก็ส่งคนเข้าเมืองหลวงหาท่านอ๋อง ตั้งใจจะเชิญหมอหลวงไปดูอาการ แต่รอจนกลางดึกไม่เห็นคนกลับมา คุณหนูตัวร้อนเหมือนไฟเผา กระทั่งยาต้มก็ต้องงัดปากป้อน…ป้อนลงไปครู่เดียวก็อาเจียน นายท่านหานทนดูไม่ได้ เลยบอกฮูหยินไม่ให้รอคอยพระองค์อีก เอาผ้าห่มห่อตัวคุณหนู เตรียมรถม้าแล้วพานางไป บะ…บอกว่าจะไปหาใครบางคน นะ…นี่ผ่านไปสองวันแล้วมิได้ส่งข่าวกลับมา ไม่รู้ว่าคุณหนูปลอดภัยดีหรือไม่ มะ…หม่อมฉันสมควรตาย หลายวันก่อนก็สังเกตเห็นว่าอารมณ์ของคุณหนูไม่ปกติ ถ้าคืนนั้นดูออกแต่แรกว่านางผิดแปลกไป…”
ตอนท้ายเป็นเสียงพร่ำพรรณนาสะอึกสะอื้นของผิงถง เห็นชัดว่านางตกใจเสียขวัญไปแล้วจริงๆ นางกับผิงฮุ่ยสองพี่น้องเป็นเพราะอี๋อวี้ถึงไม่ต้องเป็นอย่างบริวารในคฤหาสน์ลับที่ลงท้ายต้องเอาชีวิตชดใช้บุญคุณในอดีตของหลี่ไท่ ก่อนพบกับอี๋อวี้ แม้นไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องการกินการอยู่ แต่วันทั้งวันต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน นับแต่หลี่ไท่ยกพวกนางให้อี๋อวี้ จึงหัวเราะร้องไห้ได้เฉกคนปกติที่มีเลือดเนื้อจิตใจ