ทดลองอ่าน นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน! เล่ม 3 บทที่ 3-4 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน! เล่ม 3 บทที่ 3-4

ต่อให้ที่ผ่านมาเขาจะเป็นคนเยือกเย็นยิ่งกว่านี้ สุขุมยิ่งกว่านี้ แต่ยามนี้เมื่อได้รับรู้เรื่องราวนี้อย่างกะทันหัน เขายังคงรู้สึกว่าตลอดทั้งตัวราวกับถูกค้อนเหล็กกระหน่ำทุบ สองหูมีเสียงดังกัมปนาท มือเท้าเย็นเฉียบ

จากนั้นทั้งร่างเขาก็ราวกับเส้นบะหมี่ที่ถูกลวกผ่านน้ำเดือดอยู่หลายหน นุ่มราวกับดินโคลนลื่นไถลลงมาตามประตูไม้และทรุดอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง

ที่แท้เขาก็มีชาติกำเนิดที่ไม่อาจให้ผู้อื่นรับรู้ได้เช่นนี้เอง บุตรของสตรีที่ถูกขืนใจ! หลี่เหวยหยวนยิ้มขื่นอย่างไร้กำลัง ชะตาชีวิตช่างเล่นตลกกับเขานัก ช่วงก่อนอายุสิบสามสิบสี่เขาถูกคนในจวนสกุลหลี่กดขี่กลั่นแกล้งถึงเพียงนั้น ช่วงหลังมานี้สถานการณ์เริ่มจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว ยามนี้กลับให้เขามารับรู้ว่าตนเองมีชาติกำเนิดที่รับไม่ได้เช่นนี้

หลี่เหวยหยวนซุกศีรษะซ่อนเข้าไปในอ้อมแขนตนเองด้วยจิตใจอันหดหู่

ทว่าต่อมาเขาก็เงยหน้าขึ้น ในดวงตาไม่เหลือสีแห่งความหมองเศร้าอีกต่อไป กลับกันยังเปล่งประกายสว่างไสว

หากเขาไม่ใช่บุตรของหลี่ซิวซงจริงๆ เช่นนั้นก็หมายความว่าเขากับหลี่หลิงหว่านไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอันใดต่อกัน เขากับนางไม่ได้เป็นลูกพี่ลูกน้องกันตั้งแต่แรกแล้ว นั่นมิใช่หมายความว่า…

คิดมาถึงตรงนี้หลี่เหวยหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจที่เพิ่งจะตายลงไปนั้น จู่ๆ ก็เริ่มเต้นกระหน่ำขึ้นมา ความยินดีอย่างบ้าคลั่งกำลังถาโถมใส่เขา สองมือสั่นสะท้านน้อยๆ เพราะความตื่นเต้น

ชั่วพริบตานั้นเขาพลันรู้สึกว่าเทพแห่งโชคชะตาได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างเมตตานัก ขอเพียงตลอดชีวิตนี้หลี่หลิงหว่านสามารถอยู่ข้างกายเขาได้ ไม่ว่าเขาจะมีชาติกำเนิดน่าอัปยศอดสูเพียงใดก็ได้ทั้งนั้น

เขาไม่สน! ทั้งหมดนี้เขาล้วนไม่สนใจ! ขอเพียงระหว่างเขากับหลี่หลิงหว่านไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องกัน ต่อให้ยามนี้มีคนบอกว่าเขาเป็นบุตรของมารร้าย เขาก็ล้วนรู้สึกปีติยินดีทั้งสิ้น

ตลอดทั้งร่างพลุ่งพล่านไปด้วยความยินดี หลี่เหวยหยวนจับประตูไม้ที่อยู่ด้านหลังพยุงตนเองให้ลุกยืนขึ้นมา บนใบหน้าประดับรอยยิ้มที่ออกมาจากข้างใน

ในยามนั้นเขาก็ได้ยินเสียงปึกดังสนั่น ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงตู้ซื่อกัดฟันไล่บี้ซักถามว่าหลี่หลิงหว่านเป็นใครกันแน่ เหตุใดถึงรู้เรื่องราวมากมายขนาดนี้ ทว่ากลับมีเพียงเสียงอู้อี้ไม่ชัดเจน ทั้งยังเจ็บปวดยิ่งของหลี่หลิงหว่าน

หัวใจของหลี่เหวยหยวนกระดอนขึ้นสูงอีกครั้ง เขาเร่งเดินไปมองผ่านบานประตู และเมื่อมองไปก็ต้องตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอย เขาเห็นตู้ซื่อมีใบหน้าบิดเบี้ยว สองมือกำลังบีบคอหลี่หลิงหว่านอย่างรุนแรง และหลี่หลิงหว่านก็ถูกนางบีบคอจนหน้าแดงไปหมด เส้นเลือดเขียวบนหน้าผากปูดโปนขึ้นมาทีละเส้นๆ ใกล้จะสิ้นลมหายใจอยู่แล้ว

ยามนั้นในใจหลี่เหวยหยวนตื่นตระหนกยิ่งนัก เขาไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่น เพียงรีบร้อนพุ่งเข้าไป ยื่นมือออกแรงกระชากสองมือที่บีบคอหลี่หลิงหว่านพร้อมกับตวาดตู้ซื่อเสียงดัง “ปล่อยมือ!”

ทว่าตู้ซื่อราวกับหูหนวกอย่างไรอย่างนั้น นางยังคงใช้สองมือบีบคอหลี่หลิงหว่านแน่นอย่างสุดแรงโดยไม่ยอมปล่อย

หลี่เหวยหยวนในใจร้อนรนยิ่ง เขาจึงใช้แรงที่มีทั้งหมดกระชากตัวตู้ซื่อออก รอจนกระชากนางออกมาแล้ว ตู้ซื่อก็ทรงตัวไม่อยู่เซไปทางด้านข้างอย่างแรง เสียงปึกดังสนั่นขึ้น แต่หนนี้หลี่เหวยหยวนไม่มีเวลาไปสนใจมอง เขาเพียงพุ่งเข้าไป สองมือประคองหลี่หลิงหว่านที่ลื่นไถลลงมาตามประตูไม้ที่ด้านหลังราวกับโคลนเหลวๆ พร้อมกับเอ่ยถามนางไม่หยุด “หว่านวาน หว่านวาน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

หลี่หลิงหว่านพูดไม่ออก นางรู้สึกเหมือนลำคอถูกเม็ดทรายหยาบหนาครูดผ่านอย่างไรอย่างนั้น เจ็บปวดจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว หลังจากนั้นก็มีอาการไอราวกับจะฉีกกระชากปอดออกมา ไอจนใบหน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า ตลอดทั้งร่างยิ่งปราศจากเรี่ยวแรง กระทั่งนิ้วมือยังขยับไม่ได้

หลี่เหวยหยวนมองท่าทางเช่นนี้ของหลี่หลิงหว่านแล้วในใจก็โศกเศร้ายิ่งนัก ทั้งยังวิตกอย่างที่สุด เขารีบโอบนางเข้ามาในอ้อมกอด ทางหนึ่งลูบหลังให้นางอย่างช้าๆ ช่วยให้นางหายใจได้สะดวกขึ้น ทั้งยังพยายามทำให้เสียงตนเองฟังดูไม่ร้อนรนถึงเพียงนั้น ค่อยๆ ชี้แนะนาง “หว่านวาน หายใจเข้า…แล้วผ่อนออกทางปาก ใช่แล้ว เด็กดี แบบนี้แหละ ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ทำ หายใจเข้าอีกครั้ง…ออก”

หลี่เหวยหยวนปลอบโยนอยู่ครู่ใหญ่ หลี่หลิงหว่านถึงค่อยหายใจสะดวกขึ้นมา ลมหายใจก็ปลอดโปร่งขึ้น นางเอ่ยเรียกเขาเสียงแหบแห้ง “พี่ชาย”

หลี่เหวยหยวนได้ยินนางเรียก ในใจจึงสงบลงได้บ้าง ทว่ายังคงเต็มไปด้วยความปวดใจและรักถนอม

“หว่านวาน” เขาโอบกอดนางแน่น ปลายคางวางอยู่บนศีรษะนาง เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เหตุใดเจ้าถึงได้โง่งมเช่นนี้ มาที่นี่ทำไมกัน หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าจะให้พี่ชายทำเช่นไร”

ประโยคสนทนาระหว่างหลี่หลิงหว่านกับตู้ซื่อเมื่อครู่นี้เขาได้ยินแทบจะไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่คำเดียว เขาจึงรู้ว่าที่หลี่หลิงหว่านไม่เกรงกลัวอันตราย มาหาตู้ซื่อในยามดึกดื่นเช่นนี้ ก็เพียงแค่หวังให้ภายภาคหน้าตู้ซื่อจะไม่ทุบตีด่าว่าเขาอีกต่อไปเท่านั้น

เมื่อรู้ว่าหลี่หลิงหว่านคิดเพื่อเขาอย่างจริงใจขนาดนี้ เขาจะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไร แขนที่โอบกอดนางจึงยิ่งเพิ่มแรงกอดรัดมากขึ้นไปอีก แทบอยากผสานตัวนางเข้ามาอยู่ในเลือดเนื้อของเขาทั้งแบบนี้

หลี่หลิงหว่านได้ยินคำพูดของเขา ในใจก็พลันส่งสัญญาณเตือนเสียงดังขึ้นมา

หลี่เหวยหยวนมาที่นี่ได้อย่างไร ที่สำคัญคือเขามาถึงตั้งแต่เมื่อใด ได้ยินบทสนทนาระหว่างนางกับตู้ซื่อหรือไม่ และได้ยินไปมากเพียงใด หากหลี่เหวยหยวนรู้ว่านางกับเขาไม่ได้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ต่อจากนี้เขาจะทำตัวห่างเหินกับนางหรือไม่ จะไม่เหมือนแต่ก่อนที่รักถนอมนางราวกับเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาอีกแล้วหรือเปล่า ถ้าหากหลี่หลิงเยี่ยนโยนช่อมะกอกให้เขาหลายครั้งเข้า เขาก็จะไปเข้าข้างทางนั้นแทนหรือไม่ ถึงตอนนั้นจุดจบของนางจะยังสวยงามได้อีกหรือ

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com