ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน บทที่ 12-14 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน บทที่ 12-14

กว่ามู่หรงชงจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นเวลาฟ้าสางของวันถัดมาแล้ว

พอลืมตาก็ได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดของมู่หรงหย่งดังอยู่ริมโสต “นายท่านฟื้นได้เสียที พวกข้าเป็นห่วงแทบตายแล้ว! เมื่อคืนหลังท่านหมดสติไปในวังก็เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่…”

“พี่หญิง…” มู่หรงชงไอ “พี่หญิงของข้าเล่า นางเป็นอย่างไรแล้ว”

มู่หรงหย่งสีหน้าหนักอึ้งก่อนจะส่ายศีรษะ

มู่หรงชงเอ่ยเร่ง “บอกมา!”

มู่หรงหย่งตอบเสียงค่อย “องค์หญิงชิงเหอนาง…เสวยยาพิษปลิดชีพตนเองแล้ว เมื่อคืนระหว่างทางไปตำหนักชีอู๋จู่ๆ ก็พบว่าตำหนักข้างๆ เกิดเพลิงไหม้…เพลิงนั้นใหญ่เกินไป ฟ้าใกล้สางแล้วถึงดับลงได้ ต่อมาแม่นางมู่มาหา ข้าถึงได้ทราบว่าท่านถูกนางส่งกลับมาแล้ว ทว่าน้องสาวนางดูเหมือนว่า…จะตายอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง”

ในห้วงความคิดของมู่หรงชงเอาแต่คิดถึงคำว่า ‘เสวยยาพิษปลิดชีพตนเอง’ ซ้ำไปซ้ำมา แทบจะฟังคำบอกเล่าหลังจากนั้นของมู่หรงหย่งไม่เข้าหัว

พี่หญิงตายแล้ว พี่หญิงที่รักใคร่เอ็นดูข้าที่สุดตั้งแต่เล็กจนโตถึงกับปลิดชีพตนเองเยี่ยงนี้

เขาคล้ายว่าเปลี่ยนกลับไปเป็นเด็กที่ขี้ขลาดและดูถูกตนเองเฉกเช่นเมื่อไม่กี่ปีก่อนอีกครั้งในเวลาชั่วข้ามคืน เพียงขดตัวอยู่มุมผนัง รอพี่หญิงมาหาตนเอง แต่ครั้งนี้พี่หญิงไม่มีวันมาหาแล้ว

ไม่นานนักมู่หรงชงที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็มองเห็นมู่เฉินที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวดุจเดียวกัน ข่าวจากในวังบอกว่าเมื่อคืนองค์หญิงฝูเป่าจุดไฟวางเพลิง นอกจากตัวนางเองแล้วยังได้เผาสตรีอีกคนที่พรวดพราดเข้าไปกะทันหันจนตาย น่าจะเป็นคนของจวนฉงเหอโหว

ทั้งสองมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร ต้องการปลอบโยนกันและกันสักเล็กน้อย แต่ล้วนคิดถ้อยคำใดๆ ที่ปลอบโยนได้ไม่ออก

“ได้ยินว่าเมื่อคืนโต้วชงออกเดินทางตั้งแต่ก่อนได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทแล้ว ดังนั้นจึงได้รุดไปช่วยสกุลมู่หรงของพวกข้าไว้ได้ทันกาล”

“ใช่”

“เจ้าเดาถูกว่าหวังเหมิ่งจะลงมือในเวลานี้ จึงให้โต้วหวั่นเอ๋อร์ไปบอกให้โต้วชงรู้ล่วงหน้า?”

“ใช่”

“เจ้านับว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคนสกุลมู่หรงแห่งเผ่าเซียนเปยเราไว้”

“ใช่”

“พูดอย่างอื่นบ้างได้หรือไม่ ความคิดข้าสับสนยิ่ง…”

“ข้า…ก็เช่นกัน”

“พี่หญิงข้า…เป็นคนที่ดีต่อข้าที่สุดบนโลกนี้ หากมิใช่เพราะนาง ห้าปีก่อนข้าคงตายไปแล้ว”

“ข้ากับน้องสาวไม่ได้พบกันเจ็ดปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอได้พบก็จะกลายเป็นจากกันตลอดกาล”

“เดิมทีข้าคิดจะพาพี่หญิงไปชมทุ่งหญ้า”

“ข้าเองก็คิดจะพาอวิ่นจือไปหนานเหยา…”

“ชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้”

ท้ายที่สุดเป็นมู่เฉินพูดขึ้นเบาๆ “ชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้ มิสู้…เอาสุรามาแล้วกัน!”

ด้วยเหตุนี้คืนนี้พวกเขาจึงเมามายอยู่ในที่เก็บสุราใต้ดินของเมืองฉางอันด้วยกัน

ยุคสมัยที่บ้านเมืองปั่นป่วนก็เป็นเช่นนี้ คาดเดาอะไรไม่ได้ ชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้ ลุ่มๆ ดอนๆ พวกเขาเคยโดดเดี่ยวเดียวดาย เดินตามลำพัง มิกล้าเมามายแม้ชั่วขณะ มีเพียงคืนนี้ เมามายหมดสภาพไปกับบุปผาและสายลม ดังอีกาหวนคืนรังบนต้นไม้ในยามเย็น ราวกับว่าคลายทุกข์ได้นับพัน

คล้ายว่าคืนนี้ยังคงไม่มีอะไรต่างไปจากทุกคืนที่ผ่านมา ทว่าบรรดาชนชั้นสูงตระกูลขุนนางในแถบเจียงหนานและเหล่าผู้มีอำนาจชั้นนำในแถบเจียงเป่ยในเวลานี้ก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าความเป็นความตายของสกุลมู่หรงในวันนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบเช่นไรในอีกหลายปีให้หลัง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 1-2

บทที่ 1 แม่น้ำฉินไหว นกขมิ้นและดอกไม้ในเดือนสองทำให้ฤดูใบไม้ผลิแลดูงดงาม แม่น้ำฉินไหวในเมืองจินหลิงเป็นสถานที่ซึ่งมีทิวท...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 5-7

บทที่ 5 หลังจากเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่เรือนหลังเก่าและบรรยากาศวันปีใหม่เพิ่งผ่านพ้นไป เหล่าเจ้านายสกุลซูก็เตรียมเดินทางกลับ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 3-4

บทที่ 3 คนที่เพิ่งเดินเข้ามาผู้นี้คือซูลั่วอวิ๋น บุตรสาวคนโตที่ถูกขับไล่ไสส่งกลับบ้านเดิมนั่นเอง นิ้วชี้ของซูหงเหมิงยื่น...

community.jamsai.com