ลูกจิ้งจอกซึ่งอยู่ในตะกร้าไม้ไผ่สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน เอ่ยร้องในใจว่าแย่แล้ว นักพรตหน้าเหม็นมาแล้ว!
ทั่วทั้งร่างของมันตั้งท่าระวังภัย หัวใจเต้นรัวเร็ว แต่จนปัญญาที่ร่างกายอ่อนเพลียมากเกินไป ไม่มีเรี่ยวแรงจะหลบหนี ขณะที่กำลังกลัดกลุ้มเกรงว่าครานี้คงจะหมดท่าแน่แล้ว กลับได้ยินเสียงดัง ‘โพละ’ ก่อนที่จะเบิกตาถลนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ลูกจิ้งจอกโผล่ศีรษะครึ่งหนึ่งออกมานอกตะกร้าไม้ไผ่ มันมองเห็นว่าเขตอาคมประทับอักขระนั้นยังคงอยู่ดีเช่นเดิม ทว่ากลับไกลห่างจากมันออกไปเรื่อยๆ หลังจากมันอ้าปากค้างจ้องมองอยู่ครู่ใหญ่ก็แอบหัวเราะเยาะในใจเบาๆ
สตรีที่เกิดในปีหยางเดือนหยางเวลาหยางสถานที่หยางสามารถทะลุผ่านเขตอาคมได้อย่างง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ
ลูกจิ้งจอกหดศีรษะกลับไปนอนหมอบ หากมิใช่เพราะกลัวจะส่งเสียงจนทำให้พวกนักพรตหน้าเหม็นรู้ตัว มันก็อยากจะแหงนหน้าหัวเราะลั่นสักสามทีจริงๆ
จิ้งเฟิงกับจิ้งเหลยเสาะหาในรัศมีหนึ่งกงหลี่อยู่เกือบๆ สองชั่วยามแต่กลับไม่พบเจอเบาะแสใดๆ เลยแม้แต่น้อย จึงจำต้องย้อนกลับไปรายงานผู้เป็นอาจารย์
จิ้นเสวียนขมวดหัวคิ้วเป็นปม ขบคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ แต่ทันใดนั้นเขาก็พลันสังเกตเห็นขี้เถ้าสีดำๆ อันน่าสงสัยอยู่ในพงหญ้าซึ่งอยู่ละแวกใกล้ๆ เขาเดินเข้าไปแล้วนั่งยองๆ ลง ก่อนจะหยิบเถ้าธุลีบนพื้นขึ้นมาดมที่ใต้จมูกเบาๆ ในดวงตาฉายประกายเย็นวาบ
“มีคนทำลายยันต์ผนึกนี่”
ศิษย์ทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงยิ่ง
“อาจารย์ คงจะมิใช่ว่ามีคนมาแย่งชิงปีศาจไปแล้วกระมัง”
ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางกับปีศาจตนอื่นๆ ก็คือมันมีเก้าชีวิต สามารถตายได้เก้าครั้งเกิดใหม่ได้เก้าครั้ง ด้วยเหตุนี้ขุมพลังภายในของมันจึงเป็นวัตถุดิบปรุงยาที่ผู้บำเพ็ญตบะต้องการมากที่สุด ว่ากันว่ากินแล้วจะรักษาความเยาว์ได้ชั่วนิรันดร์ ยืดอายุขัย และเพิ่มพูนพลังเวท
จิ้นเสวียนสีหน้าถมึงทึง ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางผจญเคราะห์ร้อยปีครั้ง พลังปีศาจลดทอนไปกว่าครึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง ไม่รู้ว่าสหายจากสำนักอื่นมาชิงตัดหน้าไปก่อนหรือไม่ ถ้าหากมีคนทำลายยันต์ผนึก ช่วงชิงตัวปีศาจจิ้งจอกไป เช่นนั้นก็เท่ากับฝ่าฝืนกฎแห่งเต๋าแล้ว
“คนผู้นี้สามารถใช้โลหิตทำลายยันต์ผนึกได้ จะต้องใช้โลหิตที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่ พวกเจ้าทั้งสองเก็บขี้เถ้าบนพื้นกลับไปอย่าให้เหลือแม้แต่น้อย จากนั้นตามข้ากลับไปทำพิธี ต้องหาตัวผู้ที่ทำลายมันให้เจอให้ได้”
“ขอรับ”
ลูกศิษย์ทั้งสองรีบหยิบผ้าขาวออกมา เก็บขี้เถ้าบนพื้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็รีบเร่งเดินทางกลับไปยังสำนักจี้อวิ๋น
เหยาเหนียงอาศัยอยู่ที่กระท่อมตรงเนินเขา เพราะบางครั้งอาจถูกงูถูกหนูกัด ปกตินางจึงตระเตรียมยาทาแผลภายนอกเอาไว้ในเรือนด้วย หลังจากพาลูกจิ้งจอกกลับมาแล้ว นางก็ทายา ป้อนอาหารให้มันกิน ประคบประหงมดูแลเป็นอย่างดีตลอดทั้งวันทั้งคืน
ลูกจิ้งจอกที่เหยาเหนียงช่วยกลับมาตัวนี้เป็นตัวเมีย นางพบว่ามันดูเหมือนจะมีความฉลาดเฉลียวอยู่ไม่น้อย นอกจากแสยะเขี้ยวกางเล็บในตอนแรกแล้ว ต่อมาก็สงบนิ่งเงียบ ทว่าหลังจากนางป้อนลูกชิ้นปลาที่ทำขึ้นเองให้มันกินหนึ่งลูก ลูกจิ้งจอกก็ดูเหมือนจะเห็นนางเป็นเจ้านาย ยอมเป็นฝ่ายเข้ามาใกล้ชิดนางก่อน ใช้อุ้งเท้าทั้งสองข้างเกาะติดกับหน้าอกของนาง ส่งเสียงร้องหงิงๆ ราวกับกำลังบอกว่า ‘ข้าอยากกินอีก’
เหยาเหนียงหัวเราะเบาๆ พลางเอ่ย “แค่ลูกชิ้นปลาลูกเดียวก็ซื้อใจเจ้าได้แล้ว โชคดีที่เจ้ามาเจอข้า ถ้าเจอคนชั่วล่ะก็ ป่านนี้คงเอาเจ้าไปขายแล้ว”
ชิ! มนุษย์โง่เขลาไม่มีปัญญาซื้อใจข้าได้หรอก เป็นเพราะข้าถูกใจเจ้าต่างหาก สตรีผู้นี้มีฝีมือไม่เบา มิเพียงแต่สามารถทำลายคาถาอาคมของนักพรตหน้าเหม็นได้ ซ้ำยังทำลูกชิ้นปลาได้อย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีชีวิตอยู่มากว่าพันปี แต่ยามนี้กลับทำหน้าด้านแสร้งออดอ้อนถูไถซุกไซ้อยู่ในอ้อมอกของนางเพียงเพื่อให้ได้กินลูกชิ้นปลา
“ได้ๆๆ ประเดี๋ยวจะให้เจ้ากิน กินได้ก็ดีแล้ว ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ยอมกินเสียอีก!” ทีแรกคิดว่าต้องไปจับหนูหรืออันใดพวกนั้นมาให้ลูกจิ้งจอกตัวนี้กินเสียแล้ว โชคดีที่ใช้แค่ลูกชิ้นปลาก็ป้อนให้มันกินจนอิ่มได้
เดิมทีเหยาเหนียงก็เป็นคนที่ชอบสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นางจึงคอยดูแลลูกจิ้งจอกประหนึ่งเป็นลูกในไส้ก็มิปาน นางมีฝีมือการทำครัวเป็นเลิศ ในแต่ละวันล้วนทำลูกชิ้นเนื้อชนิดต่างๆ ไปขายหาเงินประทังชีวิตที่ตลาดในตัวเมือง เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าไม่น้อย ลูกชิ้นปลานี้นางเหลือเอาไว้กินเป็นอาหารกลางวัน แต่ยามนี้กลับถูกป้อนลงท้องของลูกจิ้งจอกจนหมด เหยาเหนียงนำเศษเงินที่ได้จากการขายลูกชิ้นไปซื้อสมุนไพรที่ร้านยา ต่อมาก็ไปซื้อไก่มาหนึ่งตัว จากนั้นก็ตุ๋นสมุนไพรกับน้ำแกงไก่เข้าด้วยกันแล้วป้อนให้ลูกจิ้งจอกน้อยกิน
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางไหนเลยจะคาดคิดว่าจะได้รับการปรนนิบัติดูแลอย่างดีเพียงนี้ เดิมทีมันแค่คิดว่าหลังจากติดตามสตรีผู้นี้กลับมาแล้ว รอจนภัยร้ายผ่านพ้นไป ค่อยหาโอกาสไปจากที่นี่ แต่นึกไม่ถึงว่าสตรีผู้นี้ไม่เพียงแต่ป้อนอาหารให้มันกิน ยังเช็ดถูกคราบสกปรกบนขนให้มัน ใช้หวีหวีขนทั้งร่างให้มันอย่างพิถีพิถันเอาใจใส่