แท้จริงแล้วความคิดในใจของเขาก็ไม่ได้ต่างจากซูม่านม่านและซูเทียนหวาที่เป็นผู้เยาว์สักเท่าไร…หากไร้ซึ่งพรสวรรค์เชิงยุทธ์ ต่อให้สาวน้อยผู้นี้เฉลียวฉลาดสักเพียงใด นางก็ไม่อาจเป็นที่นับหน้าถือตาในแวดวงชั้นสูงได้อยู่ดี
แม้ว่าพวกเขาสกุลซูคือตระกูลสิบแปดมงกุฎ แต่พวกเขาก็รู้ดี เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่มีพลังฝีมือเหนือกว่าโดยสิ้นเชิง วิชากลลวงและเหลี่ยมเล่ห์ทั้งปวงก็ล้วนเปล่าประโยชน์
ผู้อาวุโสรองซูผู้เป็นปู่ไม่เชื่อว่าหลานชายที่ตนภาคภูมิใจจะพ่ายแพ้แก่ซูเพียนจื่อในการสอบย่อยครั้งนี้ ทว่าต่อให้พ่ายแพ้ก็ไม่ได้มีอะไรหนักหนา เพราะในการสอบย่อยอีกห้าสนามถัดไป ต่อให้ซูเพียนจื่อมีความสามารถในการท่องตำราสูงส่งยิ่งกว่านี้เป็นร้อยเท่าก็ไร้ความหมาย
ผู้อาวุโสใหญ่หานเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายจึงเอ่ยอย่างจนใจ “ภัยพิบัติครั้งใหญ่ใกล้จะมาถึงแล้ว ต่อให้มีความหวังแม้เพียงน้อยนิด ข้าก็ไม่อยากจะยอมแพ้”
ผู้อาวุโสรองซูแค่นเสียงฮึก่อนกล่าว “ข้าเอาความหวังไปฝากไว้กับเทียนหวายังจะดีเสียกว่า แม้เขาไม่อาจเปรียบกับหู่หลี่ได้ แต่อย่างน้อยก็เก่งกาจกว่าเด็กสาวที่ไร้พรสวรรค์เชิงยุทธ์คนหนึ่งเป็นไหนๆ”
ผู้อาวุโสใหญ่หานรู้ว่าไม่อาจโน้มน้าวอีกฝ่ายได้แล้วจึงไม่พูดอะไรมากอีก ประจวบกับเห็นดวงตาที่หรี่อยู่ของซูถิงหยวนพลันเบิกมองไปทางประตูลาน
ซูป๋ออวิ๋นศิษย์คนโตของผู้อาวุโสใหญ่หานก้าวฉับๆ เข้ามาคารวะคนทั้งสามก่อนรายงาน “การสอบย่อยสนามที่สิบห้าของศิษย์ระดับต้น ซูเพียนจื่อยังคงได้คะแนนเต็มเช่นเดิมขอรับ”
“เทียนหวาล่ะเป็นอย่างไร” ผู้อาวุโสรองซูอดถามขึ้นไม่ได้ เขาไม่ได้ใส่ใจ ‘ขยะ’ อย่างซูเพียนจื่อ เพียงใส่ใจว่าหลานชายที่ยอดเยี่ยมของตนแสดงผลงานได้เป็นอย่างไร
ข้อสอบครั้งนี้ประมุขออกโจทย์เองเป็นกรณีพิเศษ กระทั่งตนกับผู้อาวุโสใหญ่หานก็ไม่รู้เนื้อหาในข้อสอบ
“ศิษย์หลานเทียนหวาด้อยกว่าขั้นหนึ่งในโจทย์ข้อสุดท้ายขอรับ” ซูป๋ออวิ๋นเอ่ยตอบ
“โจทย์ข้อสุดท้าย? ท่านประมุข โจทย์ข้อสุดท้ายถามว่าอะไรกัน” ทั้งที่ผู้อาวุโสรองซูเชื่อมาตลอดว่าตนจะไม่เก็บเอามาใส่ใจ ทว่าตอนนี้กลับไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในใจตนรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้างจริงๆ
ซูถิงหยวนประหลาดใจยิ่งนัก “กระทั่งโจทย์ข้อสุดท้ายนางก็ตอบถูกจริงๆ น่ะหรือ”
“ใช่ขอรับท่านอาจารย์ คุณหนูเพียนจื่อตอบโจทย์ข้อสุดท้ายได้ถูกต้องจริงๆ” ผู้ตอบคือโจวโม่ศิษย์ระดับสูงที่เพิ่งจะเดินเข้าประตูลานมา เขาอายุราวห้าสิบ มีกลิ่นอายของบัณฑิตแผ่ซ่านออกมาทั่วร่าง ดูแล้วสุภาพสมถะ คล้ายอาจารย์ที่เปิดสำนักศึกษาสอนหนังสือในชนบท
เขาเป็นศิษย์สายตรงคนโตของซูถิงหยวน ขณะเดียวกันก็เป็นผู้รับผิดชอบตรวจกระดาษคำตอบของซูเพียนจื่อในการสอบย่อยวันนี้
ผู้อาวุโสรองซูถามซ้ำอีกหนอย่างไม่อาจข่มทนไหว “โจทย์ข้อสุดท้ายถามว่าอะไรกันแน่” ความรู้ของหลานชายมีหรือที่ตนผู้เป็นปู่จะไม่รู้ชัดแจ้ง ความรู้ทั้งหมดที่ศิษย์ระดับต้นจะต้องร่ำเรียนนั้นเทียนหวาของตนเข้าใจทะลุปรุโปร่งมานานแล้ว ตนคิดไม่ออกจริงๆ ว่ายังมีคำถามอะไรสามารถล้มเทียนหวาได้
และที่น่าแค้นใจก็คือ…ซูเพียนจื่อศิษย์ใหม่ที่มาจากนอกถ้ำพันจิ้งจอกและเข้าสอบสนามเดียวกับเทียนหวากลับตอบได้ถูกต้องเสียนี่