บทที่แปด
“เพราะเหตุใดเล่า” ซูเพียนจื่อถามอย่างแปลกใจ
“เพราะข้าจะใช้มันทำพิธีขอพรแบบพิเศษที่ตกทอดจากบรรพชนของพวกเราอาชาเทพ หวังว่าสวรรค์เบื้องบนจะคุ้มครองให้ท่านเสาะพบไร้นามอย่างราบรื่น และตัวข้าก็จะพลอยได้หน้าได้ตา กลายเป็นอาชาเทพผู้มีบารมีที่สุดในประวัติศาสตร์” ฝูอวิ๋นเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ได้คล่องปากเป็นอย่างยิ่ง
ซูเพียนจื่อเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าแม้ฝูอวิ๋นจะเคยหลอกนางเป็นบางครั้ง แต่มันก็ไม่เคยทำร้ายนางมาก่อน อีกอย่างจี้ไม้แกะสลักอันนั้นนางก็เคยมอบให้มันดูแลไม่ต่ำกว่าหนึ่งหน หากมันจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรก็ไม่จำเป็นต้องรอถึงวันนี้หรอก
ดังนั้นสาวน้อยจึงผงกศีรษะรับว่า “ได้สิ”
ไม่ช้าการแบ่งกลุ่มของศิษย์ระดับกลางและระดับสูงนับพันคนก็เสร็จสิ้นลง ศิษย์กลุ่มละยี่สิบคนแบ่งได้ทั้งสิ้นห้าสิบเอ็ดกลุ่ม กลุ่มที่ห้าสิบเอ็ดของซูเพียนจื่อมีศิษย์เพียงเก้าคนเท่านั้น
ซูเพียนจื่อเดินกลับเข้ากลุ่มมากับฝูอวิ๋น พอเห็นว่านอกจากซูป๋ออวิ๋นที่มาใหม่แล้ว แต่ละคนล้วนออกอาการกระสับกระส่ายวุ่นวายใจ นางก็อดไม่ได้ที่จะพลอยเคร่งเครียดไปด้วยเล็กน้อย
เนื่องจากเรื่องคราวก่อนที่ซูป๋ออวิ๋นมอบยาให้การช่วยเหลือนาง ซูเพียนจื่อจึงรู้สึกซาบซึ้งต่ออีกฝ่ายไม่น้อยและเป็นฝ่ายเดินขึ้นหน้าไปเอ่ยทักทายเขาก่อน “ขอบคุณที่ครั้งนั้นท่านหายามารักษาอาการให้ข้า ที่ผ่านมาข้าไม่ได้พบท่านอีกเลย ในที่สุดวันนี้จึงได้กล่าวขอบคุณท่านเสียที”
ใบหน้าดุจภูเขาน้ำแข็งของซูป๋ออวิ๋นเผยรอยยิ้มนิดๆ อย่างหาได้ยาก “เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อาจารย์อาหู่หลี่เป็นผู้ที่ข้าเลื่อมใสมาตลอด ตัวเจ้าก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน”
นอกจากซูเจินเจินแล้ว นี่เป็นครั้งแรกหลังจากมาถึงถ้ำพันจิ้งจอกที่มีคนแสดงความเป็นมิตรและเอ่ยชื่นชมนาง ซูเพียนจื่อจึงกะพริบตาถี่ก่อนจะตอบปนยิ้ม “ขอบคุณที่ท่านชมเชย คงเพราะท่านเลื่อมใสบิดาข้า จึงได้เผื่อแผ่ความชื่นชมมาถึงลูกนกลูกกาในเรือนของบิดาข้าด้วยกระมัง”
“ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก อาจารย์ข้าให้ความสนใจเจ้ามาตลอด และเจ้าเองก็ทำสำเร็จในสิ่งที่พวกเราผู้มีพรสวรรค์เชิงยุทธ์ยังไม่อาจทำได้ เจ้าเก่งกาจยิ่ง” ซูป๋ออวิ๋นรู้สึกเช่นนี้จากใจจริง
เขาไม่เคยพบเจอเด็กสาวเช่นซูเพียนจื่อมาก่อน นางไม่เพียงมีความคิดอ่านที่ชาญฉลาด อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่น ความเด็ดเดี่ยว หรือความกล้าหาญก็ล้วนแต่ทำให้เขาต้องอุทานชื่นชม
ก่อนหน้าการสอบย่อยสนามที่สิบเจ็ด ใจจริงแล้วเขาไม่ได้เห็นแววในตัวของซูเพียนจื่อแต่อย่างใด เขาคิดว่านางเพียงแต่อาศัยความฉลาดแกมโกงที่มีอยู่จึงได้หน้าได้ตาและกระหยิ่มยิ้มย่องมาได้ตลอด ทว่าหลังจากที่เขาเห็นเองกับตาว่าซูเพียนจื่อจ่ายค่าตอบแทนอย่างไรเพื่อให้ผ่านการสอบย่อยสนามที่สิบเจ็ด เขาก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อนางโดยสิ้นเชิง
หากเปลี่ยนเป็นเขามาอยู่ในสภาพเดียวกับซูเพียนจื่อ ต่อให้เขาไม่ประชดชีวิตหมดอาลัยตายอยาก ก็ไม่มีทางมุมานะยืนหยัดได้อย่างนางแน่นอน แม้เขาจะไม่รู้ว่าที่นางเสี่ยงชีวิตต่อสู้นั้นเพื่อเป้าหมายอะไร แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่เขาจะชื่นชมนาง