นางได้ยินท่วงทำนองการพูดเช่นนี้ของเขาก็คลายโทสะทันที ชั่วขณะนั้นเพียงรู้สึกตนเองละเมิดกฎเกณฑ์ไม่อยู่ในครรลองขุนนาง ส่วนเขากลับลดศักดิ์ศรีอดทนโอนอ่อนผ่อนตาม คนที่ฝีปากคมคารมกล้ามาโดยตลอดยามนี้ถึงกับไม่รู้ว่าควรกล่าวตอบอย่างไร ผ่านไปนานจึงกล่าวช้าๆ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “หม่อมฉันทั้งไม่ได้งดงามเพริศพริ้ง ไม่มีวงศ์ตระกูลที่เรืองอำนาจ ชายหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถและหน้าตาหล่อเหลาในราชสำนักจะชื่นชอบหม่อมฉันได้อย่างไร ฝ่าบาททรงคิดมากเกินไปแล้ว”
ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้การวิพากษ์วิจารณ์อย่างเที่ยงธรรมของคนครึ่งราชสำนัก ชื่อเสียงดีงามของนางรักษาไว้ไม่อยู่นานแล้ว ขุนนางหนุ่มเหล่านั้นแม้จะเต็มใจใกล้ชิดพึ่งพานางในเรื่องราชสำนัก แต่ในเรื่องของชายหญิงพวกเขาจะยินดีแต่งงานกับนางที่เป็นสตรีเช่นนี้ได้อย่างไร
นางคิดพลางอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ เขาความคิดฉลาดเฉียบแหลม เป็นไปไม่ได้ที่จะมองแล้วไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ และก่อนหน้านี้นางก็เคยคบค้าสมาคมกับเหล่าขุนนางบุรุษในราชสำนักมากเพียงนั้น…ไม่ว่าจะเป็นหวงปอที่อยู่คุ้มกันนางที่จวนสกุลเมิ่งเป็นเวลานานในช่วงก่อน ยังมีตี๋เนี่ยนที่เดินทางไปปราบจลาจลกับนางที่เฉาอัน หรือเฉาจิงที่สนิทสนมใกล้ชิดกับนางที่สุด ในบรรดาขุนนางฝ่ายทหารและพลเรือนทั้งราชสำนัก…นางยังไม่เคยเห็นเขาไม่พอใจเพราะนางคบหาสนิทสนมกับขุนนางบุรุษมาก่อน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าใต้หล้านี้ในบรรดาผู้คนนับหมื่นเขาเป็นคนที่เข้าใจนางมากที่สุด แล้วเหตุใดเขาต้องหึงหวงเพียงเพราะอิ่นชิงที่นางเพิ่งเคยพบหน้าเพียงครั้งเดียวผู้นั้นด้วย
นางขบคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ และไม่อาจอธิบายท่าทีของเขาในวันนี้ได้ จึงยืนอยู่เบื้องหน้ารอเขาเอ่ยวาจา
เขาได้ยินคำพูดของนางก็ไม่ได้เอ่ยปากทันที กลับค่อยๆ สำรวมอารมณ์ความรู้สึกบนใบหน้า สายตาของเขากวาดมองสีหน้าราบเรียบของนางหลายรอบแล้วหลับตาลง
นางไม่ได้งดงามเพริศพริ้งก็จริง แต่ดวงตาใสกระจ่างไร้สิ่งแปดเปื้อนคู่นี้น่าหลงใหลเพียงใด นางเฉลียวฉลาดคล่องแคล่วมีชีวิตชีวา ขอเพียงยืนอยู่ที่นั่น บรรยากาศรอบด้านก็คล้ายพลอยมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วย นางไม่มีวงศ์ตระกูลที่เรืองอำนาจก็จริง แต่นางกลับเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าสตรีในวงศ์ตระกูลสูงศักดิ์ทั้งราชสำนัก แม้จะเป็นขุนนางสตรี แต่การวางแผนและความกล้าหาญก็ไม่เคยแพ้ให้กับบุรุษ
นางไม่ใสซื่อไร้เดียงสาเช่นในช่วงแรกนานแล้ว นางไม่รู้ว่าตนเองในเวลานี้มีเสน่ห์ชวนลุ่มหลงเพียงใด นางไม่เข้าใจสายตาอันซับซ้อนของผู้อื่นยามมองนาง นางเอาแต่คิดว่าใต้หล้านี้นอกจากเขาแล้ว…ก็ไม่มีผู้ใดมีความปรารถนาในตัวนางอีก
เวลาผ่านไปนานเขาจึงขยับตัว เปลี่ยนเรื่องสนทนาไปเลย “ครั้งนี้ที่หนึ่งของบัณฑิตเอกชั้นหนึ่งรับตำแหน่งผู้ตัดสินคดีในสำนักตุลาการสูงสุด ที่สอง ที่สามรับตำแหน่งเปียนซิวในกองอาลักษณ์ ที่เหลือหลังจากกรมปกครองตรวจสอบแล้วส่งให้สำนักราชเลขาธิการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ จากนั้นค่อยมอบตำแหน่งขุนนาง”
นางรับคำเงียบๆ เห็นบนโต๊ะยังมีหนังสือกราบทูลที่ยังไม่ได้เห็นชอบวางซ้อนกันอีกตั้งหนา จึงไม่อยากรบกวนเวลาจัดการงานของเขามากนัก เพียงรวบแขนเสื้อบอก “ถ้าฝ่าบาทไม่มีเรื่องอื่น หม่อมฉันขอทูลลา”
เดิมทีเขาจะพยักหน้า แต่คล้ายจู่ๆ คิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้ จึงเรียกนางไว้ “เรื่องที่เจ้าจะโยกย้ายเจ้าหน้าที่ด้านการทหารและขุนนางในกองการขนส่งของเฉาอันเป่ยลู่ในช่วงก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการจัดการหรือ”
พอได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้เมิ่งถิงฮุยก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาทันที นางสั่นศีรษะพลางย่นหัวคิ้วบอก “การสอบของกรมพิธีการรองเสนาบดีสวีเป็นขุนนางผู้ควบคุมการสอบร่วมกับหม่อมฉัน ก่อนหน้านี้ล้วนยุ่งอยู่กับเรื่องต่างๆ ในการสอบของกรมพิธีการ เรื่องนี้จึงยังไม่ทันได้หารือกันอีกครั้งเพคะ”
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่นางกลับเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ต่อให้หารือกันอีกครั้ง ด้วยนิสัยที่ดื้อรั้นคร่ำครึของสวีถิงต้องไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน
ถ้าครั้งนี้นางยื่นหนังสือกราบทูลโดยตรง และได้รับการเห็นชอบเป็นลายพระหัตถ์ ย่อมปลุกเร้าความไม่พอใจของเหล่าขุนนางอาวุโสขึ้นมาอีกครั้งอย่างแน่นอน เพียงโยกย้ายเหล่าขุนนางชายแดนขั้นหกลงไป นางจะข้ามขั้นเอาฮ่องเต้มากดข่มเหล่าขุนนางผู้จัดการงานราชการแผ่นดินได้อย่างไร หากทำเช่นนั้น หลังจากนี้ไปเรื่องที่นางคัดเลือกประเมินทั้งหมดที่ต้องให้สำนักราชเลขาธิการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบจะต้องถูกขัดขวางมากขึ้นแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ต่อให้เขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามถึง นางก็ไม่ยอมขอร้องเขาให้ช่วย
ความขัดแย้งระหว่างขุนนางอาวุโสกับขุนนางกลุ่มใหม่ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ในเวลาชั่วครู่ชั่วขณะ การต่อสู้ชิงดีชิงเด่นในราชสำนักแต่ไรมาดุดันรุนแรง ถ้าจะบอกว่าต้องให้เจ้าตายข้าอยู่กันไปข้างหนึ่งก็ไม่เกินไป นางกับบรรดาขุนนางอาวุโสเหล่านั้นจะปรับความเข้าใจกันได้อย่างไร ระหว่างสองฝ่ายแตกแยกกันรุนแรง เรื่องต่างๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันสั่งสมต่อไปเช่นนี้นานเข้า วันหน้าจะต้องมีข้างหนึ่งที่อดทนต่อไปไม่ไหวและลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ถึงตอนนั้นใครจะบาดเจ็บใครจะล้มตายก็พูดยากแล้ว
เพียงไม่รู้ว่าฝ่ายที่หมดความอดทนก่อนจะเป็นใคร
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 19 เม.ย. 67