“นั่นสิ น่าสนใจนะ” นพวินทร์เอ่ยรับเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทั้งหมดจึงพากันเดินไปยังร้านอาหารเจ้าอร่อยที่อยู่ไม่ไกลนัก ลัลน์นั้นยังไม่ออกเดินตามผู้ใหญ่ ยืนละล้าละลังมองมิน คอยว่าเขาจะเอายังไง จะไปกับเธอหรือว่าไปกับต่ายแน่โดยมีธารณ์ยืนคอยเช่นกัน
“อ้าว หนูลัลน์มาลอยกระทงหรือเจ้า” เสียงเรียกคุ้นหูทำให้ลัลน์หันไปมอง หญิงสาวอายุไม่ห่างจากเธอมากนักที่อุ้มเด็กหญิงตัวเล็กไว้กับอกทำให้เธอส่งยิ้มแล้วขยับไปหา
“พี่หล้า พายายหนูมาลอยกระทงเหมือนกันหรือเจ้า” ลัลน์ทัก
“โอ๊ย ว่าจะกลับแล้วหนูลัลน์ บ่ไหว ยายหนูงอแงเหลือเกิน ว่าแต่มากับใครเจ้า คนนี้ใช่ก่ที่เค้าบอกกันว่าเป็นแฟนหนูลัลน์” แม้จะบ่นลูกสาวแต่หล้าก็ไม่วายถามถึงคนที่เดินตามลัลน์มา
“พี่ธารณ์เป็นนักข่าวเจ้า มาทำข่าวเรื่องสวนส้ม บ่ใช่แฟนลัลน์หรอก” แม้ไม่สบายใจนักแต่ลัลน์ก็พยายามข่มความรู้สึกให้เป็นปกติ บอกอย่างใจเย็น
เธอทำใจไว้บ้างแล้วว่าจะต้องเจอกับคำถามแบบไหนจากชาวบ้าน แต่พอเบี่ยงหน้าไปมองธารณ์ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลนักก็อดหนักใจไม่ได้ สีหน้าและแววตาที่เป็นปกติและระยะห่างทำให้เธอพยายามมองในทางที่ดี…เขาน่าจะไม่ได้ยินหรอก…
“แหม ได้ยินว่าเป็นน้องท่านนพบ่ใช่เหรอหนูลัลน์ บ่ต้องเขินหรอก หลังงานแต่งอ้ายเมธิ เห็นทีสวนส้มสารัณจะมีข่าวดีของลูกสาวเจ้าของสวนใช่ก่” หล้ายังไม่หยุดความเข้าใจผิดของตัวเองง่ายๆ ทำให้ลัลน์นึกในใจว่าไม่น่าเข้ามาคุยด้วยเลย
ลูกสาวตัวน้อยของหล้าที่ยังร้องไห้กระซิกทำให้เธอเลือกที่จะหันไปสนใจมากกว่าผู้เป็นแม่ ไหนจะผู้คนที่เบียดเสียด อีกทั้งเสียงประทัดที่ยังกึกก้องเป็นพักๆ น่าจะทำให้หนูน้อยตื่นกลัว
“โอ๋ ยายหนู ไปกินขนมกับพี่ลัลน์เอาก่ อืม…นี่พี่หล้ายังบ่ได้ลอยกระทงใช่ก่เจ้า” กระทงที่ยังอยู่ในถุงคล้องติดข้อมือข้างหนึ่งของหล้าทำให้ลัลน์ถาม
“ยังเลย ทีแรกยายหนูร้องโวยวายว่าจะมาลอยกระทง พี่เลยต้องพามา แต่ยังบ่ทันถึงริมน้ำก่ร้องจะกลับแล้ว”
ท่าทางสะอึกสะอื้นของเด็กน้อยทำให้ลัลน์อดไม่ได้ที่จะหันไปสบตายิ้มปลอบ ดวงตาที่ยังคงพราวหยาดน้ำไหวระริกของเด็กน้อยมองเลยใบหน้าของลัลน์ไปเหนือศีรษะ ลัลน์มองตามแล้วก็รู้ว่าลูกโป่งที่ผูกติดข้อมือตัวเองไว้อาจจะช่วยดึงดูดความสนใจของแม่หนูน้อยจากสิ่งที่กำลังตื่นกลัวได้
“ลูกโป่ง…ยายหนูชอบก่ พี่ลัลน์ให้เอาก่” ลัลน์ถามแล้วเด็กน้อยก็พยักหน้าเป็นคำตอบ เธอจึงยกข้อมือมาตั้งใจจะแกะเชือกที่ผูกข้อมือออก แต่การใช้มือข้างเดียวแก้เชือกเส้นเล็กดูจะไม่ง่ายนัก
“พี่ช่วยนะ” ธารณ์ที่ขยับมาใกล้เสนอตัว ท่าทางสุภาพมีน้ำใจของเขาทำให้ลัลน์ยื่นมือไปหาแต่โดยดี
มือใหญ่และใบหน้าคมสันที่ก้มลงมองและง่วนอยู่กับการคลายปมเชือกผูกลูกโป่งให้อย่างตั้งใจและอ่อนโยนนั้นทำให้หล้ามองอย่างล้อเลียน ลัลน์ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร ตรงข้ามกับคนยืนไกลที่มองจ้องมาไม่วางตา
“พี่มิน นะ…ไปลอยกระทงกับต่ายนะ พ่อนายอนุญาตแล้ว” ต่ายถามคนที่เธอแอบฝากใจไว้ให้ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แต่ตอนนี้มินไม่มองเธอเลยสักนิด เขายืนกำมือแน่น ตาวาวมองลัลน์และธารณ์ พยายามข่มความไม่พอใจเอาไว้
“อ้อ ได้ยินที่ตลาดเค้าคุยกันว่าพี่ลัลน์มีแฟนแล้ว คุณคนนี้หรือเปล่าพี่มิน ต่ายเห็นเค้าชอบอยู่ใกล้ๆ พี่ลัลน์เสมอเลย สมกันดีเนาะ” ต่ายมองตามสายตาของมินแล้วพูด
มินขยับไปขอยืมมีดจากแม่ค้าที่ตั้งแผงขายของใกล้ตัว แล้วเชือกผูกลูกโป่งสีแดงสดอีกลูกก็ถูกตัดขาด ปล่อยให้ลูกโป่งนั้นลอยสูงขึ้นฟ้าโดยที่เจ้าของไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย
“อ้าว ทำไมล่ะพี่มิน น่าเสียดายออก” ต่ายร้อง
“จะไปลอยกระทงก็ไปเถอะ พี่จะกลับกับพ่อนาย” มินบอกต่ายด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ เขาสะบัดตัวห่างแล้วก้าวดุ่มๆ ไปรวมกลุ่มกับคุณภวิช ไม่หันกลับมามองต่ายอีกเลย ทิ้งให้เด็กสาวได้แต่มองตามด้วยความน้อยใจเพียงลำพัง
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน ตุลาคม 64)