หากตอนแรกที่บูรณะตำหนักอักษร นางไม่ประมาทจนใช้การออกแบบตามเดิมของบรรพบุรุษเป็นส่วนใหญ่ ต่อให้นักกลไกที่เป็นหนอนบ่อนไส้เหล่านั้นอยากจะเล่นตุกติกก็คงไม่ง่ายดายเพียงนั้น
ด้วยคิดว่าตำหนักอักษรมีไว้ให้ฮ่องเต้ใช้ เมื่อสามีปีศาจไม่เป็นอะไร เขาก็จะไม่เป็นอะไรเช่นกัน ฉะนั้นนางถึงได้ไม่เป็นกังวลกับเรื่องนี้มากนัก
นางเองก็ไม่เคยคิดว่าช่างฝีมือกับนักกลไกที่อุทิศตัวทำงานให้สกุลเหยียนมาหลายชั่วคนเหล่านั้นจะถึงกับสมคบคิดกับศัตรูภายนอก พวกเขาแต่ละคนล้วนแต่รับหน้าที่บำรุงรักษากลไกตำหนักอักษรมาหลายปี ระดับความคุ้นเคยต่อกลไกส่วนที่ตนเองรับผิดชอบอาจจะมากกว่านางเสียด้วยซ้ำ
อีกอย่าง เพราะการออกแบบแต่เดิมวิเศษยิ่งยวดแล้วจริงๆ หากนางจะปรับเปลี่ยนยกระดับก็ทำได้เพียงใช้การออกแบบที่ไม่ควรปรากฏในยุคสมัยนี้ตามที่อาจารย์เคยบอกไว้ ทว่านางไม่อยากใช้ จึงได้แต่ใช้การออกแบบเดิมเป็นส่วนใหญ่ จนกลายเป็นการหยิบยื่นโอกาสให้ไส้ศึกได้ฉกฉวย
หากรู้ก่อนล่วงหน้าว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้ นางจะฝ่าฝืนคำสั่งสอนของอาจารย์หรือไม่
ฝ่าฝืน…ฝ่าฝืนแน่นอน! ขอเพียงสามีปีศาจสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ก็พอแล้ว
สามีปีศาจเชื่อใจนางถึงเพียงนั้น ฝากความปลอดภัยในชีวิตของตนเองไว้ในมือนาง ทว่านางกลับทำให้เขาเกือบจะสิ้นชีพแล้ว…ทุกครั้งที่ฉินโยวโยวคิดถึงเรื่องนี้ก็ให้ตำหนิตนเองเหลือประมาณ
แม้ว่ากระบี่ที่แทงเหยียนตี้จะไม่ได้แทงถูกหัวใจ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เคราะห์ดีที่หลังจากผ่านคืนนั้นแล้ว ตบะของเขาก็ค่อยๆ ฟื้นกลับมา เนื่องจากร่างกายมีลมปราณเต็มเปี่ยม บาดแผลจึงสมานกันรวดเร็วยิ่ง ฮ่องเต้กับเหอหม่านจื่อล้วนบอกว่าด้วยสภาพอาการเช่นนี้ของเหยียนตี้ สลบต่อไปอีกสองสามวันจะเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเขา
ฉินโยวโยวยืนกรานจะอยู่ข้างกายเหยียนตี้ นางอยากจะเห็นเขาทุกเวลา สัมผัสถึงชีพจรและลมหายใจของเขาแล้ว นางถึงจะวางใจได้จริงๆ
เหอหม่านจื่อกลับค่อนข้างเป็นห่วงสภาพร่างกายฉินโยวโยว เนื่องจากก่อนหน้านี้นางถ่ายทอดลมปราณตนเองให้เหยียนตี้อย่างเต็มกำลังโดยไม่สนใจชีวิต รวมกับจิตใจได้รับความกระทบกระเทือน จึงส่งผลให้ตบะของนางถดถอยลง บัดนี้พอจะฝืนนับได้ว่าเป็นยอดยุทธ์ขั้นเจ็ดเท่านั้น
โชคดีที่ร่างกายนางเคยผ่านการปรับเปลี่ยนจากน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงมากนัก
ทว่าเหอหม่านจื่อกลับพบว่าฉินโยวโยวไม่อาจใช้วิธีบำเพ็ญตนแต่เดิมมาเพิ่มตบะได้แล้ว
ตัวของฉินโยวโยวกลับมิได้ใส่ใจนัก เดิมทีนางก็ไม่ได้คิดจะแสวงหาขีดขั้นสูงสุดในสายวรยุทธ์อยู่แล้ว และก็ไม่เคยคิดจะเป็นผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้าด้วย สำหรับนางแล้วขั้นเก้ากับขั้นเจ็ดก็แตกต่างเพียงเรื่องการเคลื่อนไหวช้าเร็วและพละกำลังมากน้อยเท่านั้น
ฉินโยวโยวรู้ว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับวิธีการฟื้นฟูตบะให้นางของเหยียนตี้ เขาคงรู้สึกว่านางอยู่กับเขาแล้วเขาถ่ายทอดลมปราณให้นางทุกเวลาจะไวและง่ายกว่าการที่นางบำเพ็ญตบะด้วยตนเองกระมัง
แม้เป็นการตัดสินใจแทนนางโดยพลการ แต่นางก็ไม่มีแก่ใจจะตำหนิเขาแล้ว
เพราะเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับเหยียนตี้ ฮ่องเต้จึงได้ส่งสารด่วนขอความช่วยเหลือไปยังเขตหวงห้ามหมู่บ้านซือตี้ในคืนเทศกาลปีใหม่ วันรุ่งขึ้นพอเหล่าผู้อาวุโสที่เสร็จสิ้นจากพิธีบวงสรวงออกจากเขตหวงห้ามมาแล้วจึงได้ล่วงรู้ถึงสถานการณ์ร้ายแรง ก็รีบส่งผู้อาวุโสที่เก่งกาจที่สุดจำนวนหนึ่งมาเสริมกำลังยังวังหลวงทันที
ภายใต้การตรวจตราดูแลของเหล่าผู้อาวุโส วันที่ฉินโยวโยวฟื้นขึ้นมา กลไกที่เคยถูกทำลายของตำหนักอักษรก็ล้วนซ่อมแซมเสร็จทั้งหมดแล้ว