ข้าควรทำเช่นไรดี ฉินโยวโยวถามตนเองในใจไม่หยุด
พึงสังวรทุกข์ไปไม่เกิดผล…ทว่าตอนนี้นางจะทำใจไม่ให้ทุกข์เหมือนที่อาจารย์ว่ามาได้อย่างไร
เหตุเพราะเคี่ยวกรำมาทั้งวันทั้งคืน รุ่งขึ้นยามที่ไทเฮามาถึง พอมองเห็นสภาพฉินโยวโยวแล้วก็ตกใจเป็นอันมาก สั่งให้คนไปเชิญเหอหม่านจื่อมาดูนางทันที
ร่างกายฉินโยวโยวไม่เป็นอะไรมาก ที่เป็นคือไข้ใจ ไทเฮารู้ว่าเหอหม่านจื่อรู้จักกับฉินโยวโยวมานาน ย่อมได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากนาง ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่สามารถคลายทุกข์ให้นางได้ในยามนี้
เหอหม่านจื่อฟังฉินโยวโยวเล่าความกลัดกลุ้มจบแล้วก็ถอนหายใจกล่าวว่า “ข้าเองก็ไม่เห็นด้วยที่เจ้าช่วยให้แคว้นเซียงเยวี่ยมีอาวุธที่น่ากลัวเพียงนั้น…ทว่าบัดนี้ใต้หล้ามีแคว้นอยู่จำนวนมาก ต่างมีข้อขัดแย้งกันไม่หยุดหย่อน แต่ละครั้งล้วนมีชาวบ้านตายในสงคราม หากวันหน้าพวกเขาสามารถรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งและปฏิบัติต่อเหล่าราษฎรเป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนมีสันติสุขได้จริงๆ นี่ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเลวร้าย”
สิ่งที่คนเป็นหมออย่างเขาไม่อยากเห็นที่สุดก็คือเรื่องจำพวกรบราฆ่าฟัน ทว่าเขาเห็นฉินโยวโยวเป็นดั่งน้องสาวร่วมอุทร ย่อมจะทนเห็นนางทรมานใจไม่ได้ถึงได้ฝืนใจพูดออกมาเช่นนี้
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่คนทั้งสองล้วนรู้ดีว่าถ้าได้เห็นภาพปืนใหญ่คร่าชีวิตคนนับไม่ถ้วนในสนามรบกับตาตนเอง พวกเขามิอาจสบายใจได้อย่างแน่นอน
ฉินโยวโยวยิ้มฝาดเฝื่อนก่อนเอ่ยว่า “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น…”
เหอหม่านจื่อลังเลเล็กน้อยก่อนยื่นมือไปตบไหล่นางเบาๆ “เจ้าไม่ต้องทรมานใจเกินไป หากท่านอาฉีมาเห็นสภาพเช่นนี้ของเจ้า เขาคงได้ปวดใจตาย”
เขาถอนหายใจเงียบๆ ในใจ เซิ่งผิงชินอ๋องเหยียนตี้ผู้นี้มิใช่คู่ครองที่ดีอย่างที่คิดจริงๆ โยวโยวมีความสุขไร้ทุกข์กังวลตลอดมา เพียงแต่งให้เขาชั่วเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นเช่นนี้เสียแล้ว
น่าเสียดายที่เขาไร้ความสามารถ ได้แต่มองดูนางถลำลึกลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีปัญญาช่วยเหลือแม้แต่น้อย
หวังว่าหลังเหยียนตี้หายเป็นปกติแล้วจะดีต่อฉินโยวโยว มิเช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะคิดหาหนทางทำให้นางจากไปโดยปลอดภัยให้ได้ ไปจากบุรุษที่มีแต่ทำให้นางทุกข์ทรมานและเศร้าเสียใจไม่หยุดผู้นี้…ไปให้ไกลแสนไกล
มีคนแบ่งเบาความกลัดกลุ้มในใจแล้ว ฉินโยวโยวก็อารมณ์ดีขึ้นบ้าง กอปรกับตู้เหวยเหนียงรับคำสั่งจากไทเฮามาให้จับตาดูนางกินอาหารนอนหลับทุกวัน เพียงไม่กี่วันให้หลังสภาพอาการของนางก็กลับมาค่อนข้างเป็นปกติ
ฉินโยวโยวพยายามปิดหูปิดตาบังคับให้ตนเองลืมเรื่องปืนใหญ่ คอยอยู่เป็นเพื่อนเหยียนตี้ทุกวัน หมกตัวอยู่ในห้องข้าง ทำของเล่นจำนวนหนึ่งออกมาฆ่าเวลา เป็นต้นว่าทำอาวุธลับป้องกันตัวหลายชิ้นให้ไทเฮากับฮ่องเต้ ทำกล่องดนตรีแสนประณีตกล่องหนึ่งให้เสี่ยวถิงฮวา ยามไขลานแล้วจะสามารถส่งเสียงดนตรีอันไพเราะออกมาได้ ทำหุ่นไม้ที่ช่วยทุบเอวทุบขาได้ตัวหนึ่งให้ตู้เหวยเหนียง ทำ ‘ตู้กันภัย’ ที่ไม่มีใครสะเดาะได้หลายใบให้เหลียงลิ่ง
นางจงใจไม่ฟังไม่ดูเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอก เพียงจดจ่ออยู่กับโลกเล็กๆ ของตนเอง โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว
ไม่รู้ว่าคนของสำนักเฟิ่งเสินคิดว่าเหยียนตี้ตายไปแล้วหรือกำลังวางแผนร้ายที่น่ากลัวกว่าเดิมอยู่ ถึงได้ไม่มีความเคลื่อนไหวพิเศษใดๆ เช่นเดียวกัน