อีกทั้งเหอหม่านจื่อก็เคยบอกไว้ว่าการที่เหยียนตี้สลบไสลไม่ได้มีสาเหตุจากบาดแผลสาหัส แต่เป็นการใช้วิธีที่แทบเหมือนกับการจำศีลมาฟื้นฟูร่างกายและชีพจรที่ได้รับความเสียหายซึ่งได้ผลดียิ่ง
เหยียนตี้ฟื้นขึ้นมาเมื่อไรก็หมายความว่าเขาหายเป็นปกติแล้ว…ปกติจนมากไปกว่านี้ไม่ได้อีก
เพียงแต่ฉินโยวโยวยังคงอดจะระแวงไม่ได้ ฉากเหตุการณ์สยองขวัญเมื่อสิบกว่าวันก่อนยังฝังใจนางมากเกินไป นางไม่อาจเชื่อได้ว่าเหยียนตี้จะแข็งแรงได้เร็วเพียงนี้จริงๆ
“หายดีแล้ว เจ้ากินอาหารเย็นก่อนเถอะ กินอิ่มแล้วข้าจะให้เจ้าตรวจดูอย่างละเอียด” ตอนแรกยังพูดคุยดีๆ มาถึงตอนท้ายกลับเปลี่ยนเป็นกำกวมยิ่ง
ฉินโยวโยวถลึงตาใส่เขา ฉับพลันก็รู้สึกมันเขี้ยวอยากลับฟันลับเล็บกับตัวเขายิ่งนัก ทว่านางรอให้แน่ใจในสภาพร่างกายของเขาก่อนค่อยว่ากันจะดีกว่า
เพียงไม่นานตู้เหวยเหนียงกับเหลียงลิ่งก็ยกอาหารมาส่ง ทีนี้ฉินโยวโยวถึงพบว่าด้านนอกมืดสนิทแล้ว นางถึงกับหลับตั้งแต่ฟ้าเพิ่งสางยันฟ้ามืด!
ตู้เหวยเหนียงมองดูท่าทางเอนซบพิงกันอันแสนอบอุ่นของฉินโยวโยวกับเหยียนตี้แล้วก็ให้เบิกบานเหลือประมาณ นางเอ่ยกระเซ้าขึ้นว่า “อย่างที่คิดจริงๆ พอมีท่านอ๋องทรงอยู่เป็นเพื่อน พระชายาถึงหลับสนิทเป็นพิเศษได้ หลายวันมานี้ไม่เคยหลับเป็นสุขถึงเพียงนี้เลย”
ฉินโยวโยวใบหน้าแดงก่ำ มือของเหยียนตี้ที่โอบอยู่บนเอวนางอดจะกระชับรัดแน่นขึ้นไม่ได้
ในใจเขาคิดมาตลอดว่าฉินโยวโยวไม่ใส่ใจเขาเท่าไร แต่พอได้เห็นนางซูบซีดจนเป็นเช่นนี้เพราะเขาจริงๆ ก็อดละอายและทรมานใจขึ้นมาไม่ได้
แค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว ชั่วชีวิตนี้เขาจะไม่มีวันทำให้นางต้องเคว้งคว้างไร้ที่พึ่ง หรือหวั่นกลัวปวดใจอีกแล้ว
เหยียนตี้ปลอดภัยไร้อันตรายแล้ว ฉินโยวโยวก็นึกเป็นห่วงต้าจุ่ยกับเสี่ยวฮุยที่อยู่ในคลังสมบัติใต้สวนในจวนอ๋องขึ้นมา หลายวันมานี้นางล้วนถามข่าวอาการของพวกมันจากจู้อวิ๋นเฟยทั้งสิ้น หากนางไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่างไรก็รู้สึกไม่สบายใจ
ในวังทำอะไรได้ไม่สะดวก เหยียนตี้เองก็อยากกลับจวนอ๋องโดยเร็วเช่นกัน คนทั้งสองกินอาหารเย็นเสร็จก็ไปลาไทเฮายังวังชิ่งชุน แล้วกลับจวนอ๋องในคืนเดียวกันทันที
เมื่อยืนยันมั่นใจแล้วว่าต้าจุ่ยกับเสี่ยวฮุยปลอดภัยดีเหมือนที่จู้อวิ๋นเฟยบอก เมฆดำที่กดทับอยู่ในใจฉินโยวโยวก็สลายไปกว่าค่อนในที่สุด
กลับถึงหอนอน เหล่าขันทีได้เตรียมน้ำผสมเครื่องหอมไว้ให้เหยียนตี้อาบแล้ว เหยียนตี้โบกมือไล่ขันทีที่เตรียมจะปรนนิบัติออกไป ก่อนกอดฉินโยวโยวพลางกระซิบถามเสียงกลั้วหัวเราะข้างหูนาง “เจ้ามิใช่อยากตรวจดูอาการบาดเจ็บของข้าหรือไร ระหว่างที่พวกเราอาบน้ำ เจ้าก็ดูให้ละเอียดชัดเจนไปด้วยเลยสิ”
“เอาสิ!” ฉินโยวโยวมีท่าทีเปิดเผยใจกว้างอย่างน่าอัศจรรย์ ปล่อยให้เขาลากตัวนางไปถึงห้องอาบน้ำ และยังเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าให้เขาด้วย
ภายใต้แสงตะเกียงสว่างจ้า ผิวหนังตรงหน้าอกเหยียนตี้เรียบลื่นเกลี้ยงเกลา มองไม่เห็นรอยแผลเป็นจากการถูกกระบี่แทงแม้แต่นิด
ฉินโยวโยวลองส่งลมปราณเข้าไปตรวจดูอาการภายในตรงบริเวณใกล้บาดแผลเขา เหยียนตี้เองก็สลายปราณคุ้มกายอย่างให้ความร่วมมือ ปล่อยให้ลมปราณของนางโคจรตรงตำแหน่งสำคัญของเขา
ควรต้องรู้ว่าหากฉินโยวโยวมีเจตนาหมายทำร้ายเขา ยามนี้ขอแค่คิดเพียงนิดก็สะบั้นชีพจรหัวใจของเขา ทำให้หัวใจเขาแหลกเป็นชิ้นๆ ได้แล้ว เว้นแต่จะเป็นคนที่สนิทและไว้เนื้อเชื่อใจที่สุด มิเช่นนั้นคงไม่มียอดฝีมือชาวยุทธ์คนใดยอมให้ผู้อื่นทำเช่นนี้เด็ดขาด