ทดลองอ่าน วาสนาคนเขลา บทที่ห้า-บทที่หก – หน้า 30 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน วาสนาคนเขลา บทที่ห้า-บทที่หก

30 of 30หน้าถัดไป

ฉู่จิ้งเฟิงเดิมทีคิดจะขู่นาง แต่เห็นนางร้องไห้เสียใจขึ้นมาจริงๆ ก็ใจอ่อนลงทันที จึงพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนลง “ถ้าเจ้าเป็นเด็กดี ข้าจะพาเจ้ากลับบ้านแน่นอน ตอนนี้พูดสิว่าตัวเองทำผิดที่ใด”

หลี่รั่วอวี๋คิดเพียงว่าทุกคนที่นี่ล้วนเป็นคนเลว คนผมขาวตรงหน้าเป็นอันดับแรก และเป็นผู้นำคนเลว ตอนนี้นางเพียงอยากจะกลับไปข้างกายท่านแม่ ได้ยินเขาพูดออกมาก็รีบวางมือลง ทำตาแดง พูดปนสะอื้นว่า “รั่ว… รั่วอวี๋ผิดไปแล้ว ไม่ควรตื่นขึ้นมาขอน้ำจากพี่สาวตอนดึก… ผมก็ต้องยอมให้นางกระชาก… ต่อไปรั่วอวี๋จะไม่ทุบตีคนแล้ว…”

ฉู่จิ้งเฟิงเดิมทียังฟังด้วยรอยยิ้มยินดีบางๆ แต่ยิ่งฟังถึงส่วนหลัง สีหน้านั้นก็ยิ่งไม่น่าดู

คนเป็นชายแม้จะมีบางครั้งที่สะเพร่าไปบ้าง แต่เขารู้ว่าหลี่รั่วอวี๋ไม่มีทางโกหก ฟังความหมายในคำพูดนั้นแล้ว หลี่รั่วอวี๋ก็ได้รับความเจ็บช้ำใจจึงลงมือ

เขาพรวดลุกขึ้นยืน ตะโกนออกไปนอกห้องทันที “เข้ามาให้หมด!”

เหล่าสาวใช้บ่าวหญิงอาวุโสนอกห้องตกใจจนหน้าซีด รีบเข้ามาคุกเข่าเต็มพื้นห้อง

“เมื่อคืนในห้องฮูหยินผู้ใดอยู่เวร”

ซูเหมยเห็นคนรอบข้างล้วนมองมาที่ตนเองจึงพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “เรียนซือหม่า บ่าวเองเจ้าค่ะ…”

“เมื่อคืนตอนดึกฮูหยินเรียกขอน้ำดื่มจากเจ้าหรือ”

สีหน้าของซูเหมยเปลี่ยนไป เมื่อวานตอนพี่สาวกลับมา เห็นนางนอนอยู่ในห้อง จึงออกไปนอนพักนอกห้อง นอกจากซูซิ่วแล้ว ยังมีบ่าวหญิงอาวุโสอีกผู้หนึ่งเฝ้าอยู่นอกห้อง หลี่รั่วอวี๋ตะโกนขอน้ำดื่ม คิดว่าบ่าวหญิงอาวุโสผู้นั้นคงได้ยินเช่นกัน พูดบิดเบือนไม่ได้ จึงได้ฝืนใจตอบว่า “เป็นความผิดของบ่าวเอง เมื่อคืนนอนหลับสนิท ไม่ได้ยินเสียงเรียกของฮูหยิน…”

ชั่วขณะต่อมา ฉู่จิ้งเฟิงก็เตะเท้าออกไป

ซูเหมยถูกเตะไปติดบานประตู ก่อนจะร้องครวญด้วยความเจ็บปวด

“สารเลว! เมื่อวานถามเรื่องของฮูหยิน ถามอะไรเจ้าก็ไม่รู้ กลางคืนอยู่เวรเจ้ากลับนอนหลับเหมือนหมูตาย หวีผมก็ไม่รู้หนักเบา เอาคนอย่างเจ้ามาปรนนิบัติในห้อง ข้าว่าช้าเร็วเจ้าต้องยกตัวเองขึ้นมาเป็นนายแน่นอน! ถ้าไม่เห็นว่าเจ้าเป็นคนที่ท่านพี่ส่งมา ต้องไว้หน้านางบ้าง ข้าจะขายเจ้าออกนอกคฤหาสน์ไป! พ่อบ้าน! ลากนางกำนัลเลวผู้นี้ไปลงโทษตามกฎบ้าน! ไม่ต้องให้นางกลับมาในเรือนนี้แล้ว ต่อไปให้เป็นสาวใช้ทำงานใช้แรงเรือนนอกก็แล้วกัน!”

เหล่าบ่าวไพร่ล้วนรู้ว่าฉู่ซือหม่าผู้นี้ดีต่อบ่าวไพร่พอใช้ได้ แม้ท่าทีจะเย็นชา เข้าหาได้ยาก แต่อย่างไรเสียก็มีชาติกำเนิดสูงถูกเลี้ยงดูอย่างดี ไม่เหมือนเจ้านายในคฤหาสน์อื่นที่ทรมานและทุบตีบ่าวไพร่

ซูเหมยนับว่าเป็นนางกำนัลที่มีหน้าตาพอสมควร วันนี้ถูกฮูหยินปัญญาอ่อนนั่งทุบตีบนตัว เดิมคิดว่าจะถูกซือหม่าตำหนิยกใหญ่ แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกซือหม่าเตะเข้าอย่างแรง ทั้งยังถูกไล่ออกจากเรือนในต่อหน้าทุกคนอีกด้วย

ซูเหมยรู้สึกเสียใจ แต่ต่อให้ร้องไห้อ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ทันการณ์แล้ว นางถูกปิดปากแล้วลากตัวออกไปทันที

บ่าวไพร่คนอื่นในห้องไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง ฉู่จิ้งเฟิงพูดอย่างไม่คลายโกรธว่า “ครึ่งหนึ่งของพวกเจ้าท่านหญิงเลือกมาให้ปรนนิบัติฮูหยินคนใหม่ สัญญาขายตัวของพวกเจ้าก็ย้ายมาที่สกุลฉู่ด้วย อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับทางเหนือแล้ว ล้วนต้องติดตามไปด้วยกัน เดิมคิดว่าในเมื่อเป็นคนในจวนท่านหญิงคงจะรู้กฎระเบียบดี คิดไม่ถึงว่ายังมีบ่าวไพร่ที่ฝึกฝนไม่ได้อยู่ด้วย! แม้ฮูหยินจะป่วย แต่หากผู้ใดใช้เหตุผลนี้ลบหลู่ไม่ให้เกียรตินาง ถ้าข้ารู้ ครั้งหน้าจะไม่ใช้กฎบ้าน แต่จะใช้กฎทหาร โบยจนตายให้จบเรื่อง!”

เสียงพูดของฉู่จิ้งเฟิงไม่ดัง แต่บ่าวทั้งห้องล้วนรู้ว่าคำพูดของเขาเป็นจริงได้ทุกคำ ในจวนซือหม่าหากมีบ่าวไพร่ตายก็ไม่สนใจสัญญาขายตัวอะไร ทำเหมือนบี้มดตัวหนึ่งให้ตายเท่านั้น

ฉู่จิ้งเฟิงพูดถึงตรงนี้ก็เลื่อนสายตาไปทางซูซิ่ว “เจ้ากับซูเหมยนั่นเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันสินะ”

ซูซิ่วฟังเข้าใจความหมายในคำพูดของฉู่จิ้งเฟิงจึงตกใจจนหน้าซีด ขาอ่อนพับ ในใจนึกโกรธน้องสาวที่ไม่รู้ความของตนเอง เอาแต่ฝันกลางวัน ทำให้ตนเองต้องพลอยลำบากไปด้วย นางจึงรีบโขกหัวแล้วพูดว่า “นายท่านใจกว้าง ยอมปล่อยน้องสาวที่ไม่รู้ความของบ่าว นางมือเท้าหนักมาแต่เด็ก ไม่เหมาะจะปรนนิบัติคนสูงศักดิ์อยู่แล้ว ตอนนี้ไปทำงานเรือนนอกก็เป็นผลลัพธ์ที่นางไม่รู้จักปรับปรุงตัว ขอนายท่านคลายโกรธอย่าให้กระทบถึงสุขภาพ ต่อไปบ่าวจะปรนนิบัติฮูหยินอย่างเต็มที่ จะไม่ให้ฮูหยินไม่สบายตัวแม้แต่น้อย!”

ฉู่จิ้งเฟิงมองด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่งก็รู้ว่าซูซิ่วเป็นคนขี้ขลาดและวางตัวอยู่ในกฎระเบียบ ไม่กล้าทำการแก้แค้นแน่นอน กอปรกับนางเป็นคนละเอียด ปรนนิบัติหลี่รั่วอวี๋นับว่าทำอย่างเต็มที่ หากเปลี่ยนนางไปก็น่าเสียดาย

การเชือดไก่ให้ลิงดูในครั้งนี้ มีน้องสาวให้เห็นเป็นตัวอย่าง เชื่อว่านางคงไม่กล้าทำอะไรเกินเลยแม้แต่น้อย!

เขาจึงพูดสั่งการอีกหลายคำ แล้วให้ทุกคนออกไปจากห้อง

ตอนที่เขาพลิกม่านเตียงมองหญิงสาวบนเตียง หลี่รั่วอวี๋หยุดร้องไห้แล้ว แต่แววตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “พี่ฉู่เป็น… เจ้าถิ่น… กักขฬะหรือ ไปทุบตีบ่าวไพร่เองเช่นกันหรือ”

ฉู่จิ้งเฟิงหน้านิ่ง รู้สึกขึ้นมาทันใดว่านางในตอนนี้ไม่โง่ ทั้งยังใช้คำพูดของเขามาตบหน้าเขาเสียด้วย!

 

(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 16 ก.ย. 62)

30 of 30หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 65-66

บทที่ 65 ต่อสู้ กรมซือเทียน ห้องโถงรับแขกของกองเสวียนอู่ เซี่ยหงเฉินถูกเชิญเข้ามาข้างใน ชาถูกยกมาให้อย่างรวดเร็ว เขามิได...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 63-64

บทที่ 63 วุ่นวาย ชีวิตของหวงหร่างค่อยๆ สูญสลายไป นางยกมือขึ้นดึงเข็มใบชาโปร่งใสบนศีรษะออกมาเบาๆ หยดน้ำที่ละลายมาจากเข็มใ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 96-97

บทที่ 96 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เซิ่งฮูหยินโกรธจนร่างสั่น นางรีบคุกเข่าลงที่พื้นร้องขอความเมตตาและขออภัยฮุ่ยหมิ่นเซ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 92-93

บทที่ 92 แม้จะไม่ทราบเรื่องราวภายในของเรื่องอื้อฉาวในราชวงศ์เรื่องนี้ แต่เมื่อโม่เซี่ยวเหนียงได้ยินว่าองค์หญิงเสาหวาและบ...

community.jamsai.com